รีเซต
TRUE TALK : ประกาศผลสอบ “แข้งช้างศึก” ถลกหนังเสือ คว้าทองซีเกมส์ 2017 ... by "บก.เก้น"

TRUE TALK : ประกาศผลสอบ “แข้งช้างศึก” ถลกหนังเสือ คว้าทองซีเกมส์ 2017 ... by "บก.เก้น"

TRUE TALK : ประกาศผลสอบ “แข้งช้างศึก” ถลกหนังเสือ คว้าทองซีเกมส์ 2017 ... by "บก.เก้น"
kentnitipong
29 สิงหาคม 2560 ( 23:03 )
4.1K

TRUE TALK : ในที่สุดทัพ “ช้างศึก” ชุดลุยซีเกมส์ภายใต้การนำของ “โค้ชโย่ง” วรวุฒิ ศรีมะฆะ ก็พิชิตภารกิจสุดท้ายที่ ชาห์ อลัม ได้สำเร็จ หลังสามารถเอาชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่าง มาเลเซีย ชาติเจ้าภาพไปชนิดที่บีบหัวใจแฟนบอลสุดๆ 1-0 คว้าเหรียญทองพร้อมกับป้องกันแชมป์ซีเกมส์ได้สำเร็จ

 

ขอบคุณภาพ : AP

 

วันนี้ Sport.trueid.net จะพาทุกท่านมาติดตาม TRUE TALK : ประกาศผลสอบ “โค้ชโย่ง-แข้งช้างศึก” ถลกหนังเสือ คว้าทองซีเกมส์ 2017 มาดูกันว่าแข้งทีมชาติไทยชุดนี้ รวมถึง “โค้ชโย่ง”จะได้คะแนนมากน้อยแค่ไหนจากการเฉือนเอาชนะ มาเลเซีย ไป 1-0 ศึกลูกหนังซีเกมส์หนนี้

 

ระบบ : 4-3-3

นนท์ ม่วงงาม (เชียงราย ยูไนเต็ด) : 7.5 คะแนน

โชว์เซฟลูกยิงไกลของ ซาฟาวี่ และหลายๆ จังหวะ รวมถึงออกมาจัดการกับลูกครอสริมเส้นของเจ้าภาพได้ทุกครั้งจนพาทีมชาติไทยผงาดคว้าชัย และแชมป์ในรายการนี้ได้แบบไม่เสียประตูจากลูกโอเพ่น-เพลย์ เลยแม้แต่ลูกเดียว ยิ่งถือเป็นการตอกย้ำว่า อดีตมือกาวทีมชาติฝรั่งเศสชุดเล็กรายนี้ คู่ควรกับคำยกย่องที่ว่าเค้าคือผู้รักษาประตูที่ดีที่สุด ในทัวร์นาเม้นต์นี้อย่างแท้จริง

นนท์ ถือเป็นอีกหนึ่งนายทวารอนาคตไกลที่น่าจับตามองว่า จะมีโอกาสก้าวไปติดทีมชาติชุดใหญ่ในเร็ววันนี้หรือไม่ เพราะทั้งฟอร์มการเล่น หน่วยก้าน รวมถึงประสบการณ์ และทัศนคติแบบมืออาชีพ พ่วงด้วยดีกรีแชมป์ซีเกมส์ 2017 “นนท์ ม่วงงาม” ตอบโจทย์ และน่าจะตัวเลือกที่ ราเยวัช นั้นชื่นชอบ

 

 

สุริยา สิงห์มุ้ย (เชียงราย ยูไนเต็ด) : 7.5 คะแนน

แบ็กซ้ายค่าย “กว่างโซ้งมหาภัย” รายนี้สามารถเบียด เควิน ดีรมรัมย์ พร้อมกับออกสตาร์ทเป็นขุนพลชุดแรกของ “โค้ชโย่ง” และในแมตช์นี้ “เจ้าเธค” ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการรับมือกับ แมทธิว เดวีส์ ที่พยายามเติมเกมเล่นงานฝั่งซ้ายของไทยอย่างหนัก จนทำให้ทีมชาติไทยไม่เสียประตูจากลูกโอเพ่น-เพลย์ เลยแม้แต่ลูกเดียวในรายการนี้ ถือเป็นการกลับมาแจ้งเกิดได้เต็มตัวของ สุริยา สิงห์มุ้ย

 

วรวุฒิ นามเวช (ศรีสะเกษ เอฟซี) : 8 คะแนน

ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้ของทีมชาติไทย หลังเจ้าตัวแสดงให้เห็นถึงความนิ่งเกินวัย บวกกับการยืนตำแหน่งที่ยอดเยี่ยม การเข้าสกัดบอลแรกที่เด็ดขาด ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ทัพ “ช้างศึก” คว้าชัยในเกมนี้พร้อมกับเหรียญทองได้อย่างสุดยอด

อีกหนึ่งสิ่งที่ปราการหลังจอมแกร่งรายนี้ทำได้อย่างยอดเยี่ยม และน่าสนใจก็คือ การเติมเกมรุก ที่ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการขึ้นเกมของทีมชาติไทย จนเจ้าตัวเองมีโอกาสที่จะสร้างจังหวะให้กับเพื่อนได้ลุ้นพังประตู เรียกได้ว่านี่คือเกมที่ วรวุฒิ เล่นได้ดีที่สุดในทัวร์นาเม้นต์นี้เลยทีเดียว

 

 

ศฤงคาร พรมสุภะ (ระยอง เอฟซี) : 7 คะแนน

อีกหนึ่งของดีเมืองระยองที่วันนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น และจับคู่กับ วรวุฒิ ได้อย่างกลมกล่อม จนทำให้แนวรุกของ มาเลเซีย ไปไม่เป็นเหมือนกันในนัดนี้

ลูกกลางอากาศ การยืนตำแหน่ง และการตัดสินใจในช่วงเวลาสำคัญ ถือเป็นจุดที่ “เจ้าเหน่ง” ทำได้ค่อนข้างดี หากเพียงแต่ยังต้องพัฒนาในเรื่องของการเข้าบอลแรกที่ยังดูโฉ่งฉ่างบ้างในบางครั้ง

 

รัตนากร ใหม่คามิ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) : 6 คะแนน

ยังคงมีปัญหาในเรื่องของความมั่นใจ หลังโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักตั้งแต่เกมที่พบกับ เวียดนาม โดยเฉพาะการปิดเกมริมเส้นของ มาเลเซีย จนทำให้คู่แข่งมีโอกาสได้ครอสบอลมาทดสอบ นนท์ ม่วงงาม และเพื่อนในแนวรับหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงความผิดพลาดในช่วง 15 นาทีสุดท้าย จนเกือบโดนเจาะตาข่ายจากลูกยิงไกลของแข้ง “เสือเหลือง” ที่ข้ามคานออกไปเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น

 

 

นพพล พลคำ (แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล) : 8 คะแนน

นี่คือ “ฮาร์ดแมน” คนใหม่แห่งทัพ “ช้างศึก” อย่างแท้จริง หลังทั้งวิ่ง ทั้งไล่บดไล่ชนในแดนกลางจนแผงมิดฟิลด์ของ มาเลเซีย แทบจะทำอะไรไม่เป็น นอกเหนือจากเกมรับที่เจ้าตัวทำได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว จังหวะการพาบอลขึ้นเกมรุกของเจ้าตัวเองก็ยังทำได้ดีเอามากๆ เช่นกัน ถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในซีเกมส์ครั้งนี้

ด้วยสไตล์ตัดตัดเกมธรรมชาติ 100% เชื่อว่านี่อาจจะเป็นอะไหล่ชิ้นสำคัญให้กับทีมชาติไทยชุดใหญ่ของ ราเยวัช ในการต้องรับมือกับทีมที่เหนือกว่า ซึ่ง นพพล น่าจะตอบโจทย์กุนซือเลือดเซิร์บอย่างแน่นอน คอยดู !!!

 

 

วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี) : 7 คะแนน

ทำดีมาทุกอย่างในเกมนี้ เหลือเพียงแค่การทำประตูเท่านั้นสำหรับ “เจ้ายิม” หลังได้โอกาสซัดจ่อๆ ถึงสองครั้ง แต่ทว่าเจ้าตัวกลับยิงไปติดบล็อกแนวรับ มาเลเซีย ทั้งหมด จนทำให้ไทยยังไม่สามารถขยับช่องว่างหนีห่างเจ้าภาพไปได้มากกว่า 1 ประตู แต่ฟอร์มโดยรวมในนัดชิงก็ถือว่าสอบผ่านอยู่สำหรับดาวเตะจากค่าย “ฉลามชล”

ประสบการณ์จากการพาทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองในซีเกมส์ครั้งนี้ น่าจะทำให้ วรชิต ได้เรียนรู้ในเกมที่เต็มไปด้วยความกดดัน รวมถึงการรับมือกับสถานการณ์บีบหัวใจทั้งใน และนอกสนาม ซึ่งจะเป็นเบ้าหลอมสำคัญที่ทำให้เพลย์เมคเกอร์ดาวรุ่งรายนี้พัฒนาฝีเท้า และก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทัพ “ช้างศึก” ในอนาคต

 

พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล (เชียงราย ยูไนเต็ด) : 7.5 คะแนน

มีจังหวะการตัดเกมเข้าเสียบผู้เล่น มาเลเซีย หนักๆ สอง-สามครั้ง แต่ทว่า พิธิวัต ยังสามารถรอดพ้นจากเงื้อมมือผู้ตัดสินไปได้ การจับคู่กับ นพดล ในรายการนี้ ทำให้ทั้งสองถือเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์คู่กลางที่แข็งแกร่งที่สุดในซีเกมส์หนนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยพละกำลังของ พิธิวัต ที่เหลือเฟือ เหมาะกับการจัดการตัวทำเกมของคู่แข่งเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ การยืนตำแหน่งที่ดี บวกกับการอ่านเกมอันชาญฉลาด บ่อยครั้งที่เราได้เห็นเจ้าตัวยืนดักบอล หรือเข้าถึงบอลได้ก่อนนักเตะ มาเลเซีย เสมอ

แชมป์ซีเกมส์หนนี้น่าจะทำให้เจ้าตัวกลับไปลงเล่นให้กับต้นสังกัดอย่าง เชียงราย ยูไนเต็ด ด้วยความมั่นใจเป็นแน่

 

พิชา อุทรา (พัทยา ยูไนเต็ด) : 7 คะแนน

เป็นอีกหนึ่งเกมที่ “เจ้าเคน” โดนตามประกบติดทั้งเกม เนื่องจากแข้ง “เสือเหลือง” นั้นต่างรู้พิษสงของอดีตแข้งจาก แอตฯ มาดริด รายนี้เป็นอย่างดี และด้วยความพลิ้วของแข้งพัทยา ยูไนเต็ดรายนี้ ทำให้แนวรับของ มาเลเซีย นั้นจำเป็นต้องงัดเอาแม่ไม้มวยมาเลย์มาประเคนให้กับ พิชา อยู่ตลอดเวลา จนบางครั้งแข้งร่างจิ๋วรายนี้ก็ออกอาการเจ็บให้แฟนบอลได้เห็นเหมือนกัน

ความเร็ว ความนิ่ง และทักษะเฉพาะตัวอันยอดเยี่ยม รวมถึงลูกแอสซิสต์ และลูกยิงที่คมดุจใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง คือจุดที่ พิชา ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า แนวรับในระดับอาเซียนนั้นค่อนข้างจะมีปัญหายามต้องเผชิญกับเขา หาก “เจ้าเคน” รักษาเนื้อรักษาตัวดีๆ เชื่อว่าแข้งรายนี้น่าจะไปได้ไกลในเส้นทางลูกหนังอย่างแน่นอน

 

 

ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) : คะแนน

“ม้าป่าแห่งบุรีรัมย์” รายนี้มีดีที่ฝีเท้า ฝีเท้า และก็ฝีเท้าจริงๆ เพราะตลอด 90 นาทีในสังเวียน ชาห์ อลัม “เจ้าพี” นั้นไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความตื่นกลัวต่อหน้าแฟนบอลเรือนแสนเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งเจ้าตัวกลับโชว์ให้เห็นถึงความทุ่มเท ความเร็วในการดวลกับกองหลัง มาเลเซีย บวกกับสภาพร่างกายที่ยอดเยี่ยม ทำให้ ศศลักษณ์ ทั้งวิ่งไม่หยุดไปทั่วสนาม จนทำให้ทีมนั้นได้เปรียบจากลูกขยันหลายๆ จังหวะของเจ้าตัว

ด้วยทัศนคติการเล่นฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ ไม่แปลกใจที่ทำไม “เนวิน ชิดชอบ” ถึงตั้งความหวังไว้กับเจ้าตัวสูงมากในการพาทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ทวงบัลลังก์แชมป์ไทยลีกอีกหน

 

 

เจนรบ สำเภาดี (บีอีซี เทโรศาสน) : 6.5 คะแนน

ลงสนามด้วยความมุ่งมั่น และมีความเป็นผู้นำสูงมาก ทั้งจังหวะการกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม การทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมของตนได้เปรียบ รวมถึงการควบคุมอารมณ์ที่ เจนรบ ยังทำได้ดีทั้งๆ ที่โดนแนวรับ มาเลเซีย ไล่อัดตลอดทั้งเกม (เป็นนัดที่เจ้าตัวบ่นผู้ตัดสินบ่อยมาก ฮา)

แต่ถึงอย่างไร หัวหอกจอมแกร่งรายนี้อาจจะยังต้องปรับในเรื่องของความเด็ดขาด และความเยือกเย็นที่ดูเหมือนว่า เจนรบ จะขาดหายไปในเกมสำคัญแบบนี้ เพราะอย่างลืมว่าบางครั้ง โอกาสในการทำประตูเพียงแค่ครั้งเดียว อาจจะเป็นตัวตัดสินเกมนี้ได้เลย

ประสบการณ์ จะคอยสั่งสอน และทำให้ เจนรบ แข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน ในฐานะกัปตันทีมผู้พาทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองซีเกมส์ 2017

 

 

ตัวสำรอง

ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี) : 6 คะแนน

มีเวลาประมาณ 25 นาทีในสนาม แต่ “เจ้าเบนซ์” กลับไม่สามารถลงมาปั้นเกมได้เท่ากับที่ วรชิต ทำเอาไว้ในช่วงชั่วโมงแรกของเกม นั่นคือการพาบอลทะลุทะลวงแนวรับ มาเลเซีย ซึ่งยังเป็นสิ่งที่ยังขาดหายไปสำหรับแข้งจาก ราชบุรี มิตรผล เอฟซี รายนี้ แต่ยังดีที่เจ้าตัวยังสามารถลงมาเรียกฟาวล์ให้กับไทยได้ในช่วงท้ายเกม

 

ชินภัทร ลีเอาะ (เชียงราย ยูไนเต็ด) : 6.5 คะแนน

ถูกส่งลงมาแพ็คเกมรับในระบบสามเซนเตอร์ฮาล์ฟแทนที่ นพพล ที่วิ่งไล่บดคู่แข่งตลอดทั้งเกม และในเกมนี้ ชินภัทร ยังคงทำหน้าที่ได้ตามแทคติก ที่ “โค้ชโย่ง” วางเอาไว้ และปิดโอกาสของ มาเลเซีย ที่พยายามเจาะด้วยลูกโด่ง รวมถึงจัดการกับลูกแทงตามช่องได้ในหลายจังหวะ

 

ชัยวัฒน์ บุราญ (เชียงราย ยูไนเต็ด) : 6 คะแนน

“เจ้าบอล” อาศัยความฟิต และความคล่องตัวลงมารับบทการทำเกมทางริมเส้นฝั่งซ้าย รวมถึงต้องช่วย สุริยา ในเกมรับด้วย แม้ว่าจะมีโอกาสลงสนามไม่นาน แต่แข้งหมายเลข 10 รายนี้ ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในทุกจังหวะของการเข้าบอล เพื่อลบฝันร้ายจากใบแดงในการแข่งขันรอบแรก และ ชัยวัฒน์ ก็ทำได้

 

 

โค้ชโย่งวรวุธ ศรีมะฆะ (กุนซือทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ 2017) : 10 คะแนน

“แพ้เป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร” ด้วยความสำเร็จในวันนี้ เราคงไม่มีอะไรจะมอบให้กับ “โค้ชโย่ง” มากไปกว่า “คำขอโทษ” และ “คำขอบคุณ” ที่ทำให้แฟนบอลชาวไทยอย่างเราๆ มีความสุขในค่ำคืนนี้

 

ขอบคุณครับ “โค้ชโย่ง”

ติดตามข่าวซีเกมส์ 2017 ได้ที่นี่

ร่วมเชียร์ไทยไปกับ TrueID ในซีเกมส์ 2017
เชียร์สดทุกวัน ชมครบทุกไฮไลท์ได้ที่แอป ทรูไอดีและTrueid.net

ยอดนิยมในตอนนี้