TRUE TALK : ประกาศผลสอบช้างศึกบุกเชือดเมียนมาฟีฟ่าเดย์ 1-3 ... by "บก.เก้น"

TRUE TALK : ถือเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่ไม่ง่ายของทีมชาติไทยภายใต้การนำของ มิโลวาน ราเยวัช หลังทัพ “ช้างศึก” สามารถบุกมาเอาชนะทีมชาติเมียนมาที่งัดลูกหนักใส่แข้งจากลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้งเกมไปด้วยสกอร์ 1-3 ในแมตช์อุ่นเครื่องฟีฟ่า เดย์

วันนี้ Sport.trueid.net จะพาทุกท่านมาติดตาม TRUE TALK : ประกาศผลสอบช้างศึกบุกเชือดเมียนมาหวิว 1-3 สดจากสนามมัณฑะลาร์ ธิริ ประเทศเมียนมา เรามาดูกันว่าแข้งช้างศึกแต่ละคนจะได้คะแนนมากน้อยแค่ไหนจากการลงสนามในเกมนี้

กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ : 7 คะแนน

แม้จะพลาดท่าเสียประตูจากลูกซัดจ่อๆ ของ อ่อง ทู แต่ทว่ากัปตันตองก็ยังแสดงให้เห็นถึงการเป็นนายทวารจอมเซฟอย่างแท้จริง หลังต้องออกแรงพุ่งในหลายๆ จังหวะ ตลอดจนยังมีช็อตแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ หลังเข้าไปเคลียร์กับผู้ตัดสินหลังเห็นเพื่อนๆ โดนเข้าหนักในหลายๆ จังหวะ

นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม : 7 คะแนน

เติมเกมรุกได้มันส์ และมีโอกาสได้หลุดขึ้นไปเปิดบอลสร้างโอกาสในพื้นที่อันตรายอยู่หลายครั้ง ขณะที่เกมรับก็ยังลงมารับมือกับแข้งเจ้าถิ่นได้ดี ถือเป็นฟอร์มการเล่นที่ ราเยวัช เองน่าจะพอใจไม่น้อย ถือเป็นการได้ทดสอบทีมเผื่อในยามที่ทีมชาติไทยไร้ ทริสตอง โด เชื่อว่าแมตช์นี้น่าจะเป็นเกมที่เรียกความมั่นใจให้กับ “เจ้าต้น” ได้พอสมควรกับการคัมแบ็คสู่ทัพ “ช้างศึก” อีกครั้ง

อดิศร พรหมรักษ์ : 6.5 คะแนน

ถูกส่งลงสนามในบทบาทของเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวจริง แต่ฟอร์มของ “เจ้าเก่ง” ในเกมนี้ยังดูไม่เนียนตาเหมือนกับการได้ยืนในตำแหน่งแบ็กขวาในเกมที่ไปเยือนออสเตรเลีย โดยเฉพาะจังหวะการสั่งการ และประสานงานกับ “เจ้าโย่ง” ที่ยังดูติดๆ ขัดๆ

พรรษา เหมวิบูลย์ : 6.5 คะแนน

ดูเหม่อๆ ไปพอสมควร โดยเฉพาะจังหวะการเคลียร์บอลที่ปกติแล้วถือเป็นลูกถนัดของเจ้าตัว จนหวิดให้แนวรุกเมียนมาได้ลุ้นยิงในกรอบอยู่หลายครั้ง กระทั่งเสียประตูในช่วงต้นครึ่งหลัง การเสียประตูในเกมนี้ถือเป็นบทเรียนที่เจ้าตัวต้องเรียนรู้ และเพิ่มความเด็ดขาดมากขึ้น

พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา : 6.5 คะแนน

ต้องเผชิญกับการขึ้นเกมรุกทางริมเส้นของเมียนมาจนหวิดจะเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน โดยเฉพาะจังหวะเสียประตู ขณะที่การเติมเกมรุกของวิงแบ็กจากค่าย “กิเลนผยอง” รายนี้ยังดูขัดๆ โดยเฉพาะการได้หลุดเข้าไปดวลกับผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น แต่ทว่าเจ้าตัวกลับเกิดอาการลังเลก่อนที่ทีมจะพลาดโอกาสได้ประตูไปอย่างน่าเสียดาย ถือเป็นเกมที่ไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไหร่สำหรับ “เจ้าบาส”

ปกเกล้า อนันต์ : 6.5 คะแนน

หากไม่นับจังหวะเคาะบอลแบบ Box to Box ปกติในแดนกลาง ปกเกล้า ก็แทบจะเป็นอีกหนึ่งคนที่มีบทบาทกับทีมน้อยจริงๆ โดยเฉพาะจังหวะสอดแถวสองขึ้นไปเติมเกมรุกที่หายไปเลย ช่นเดียวกับลูกยิงไกลที่ถูกซ่อนเข้ากลีบเมฆจนทำให้แผงมิดฟิลด์ของเมียนมาสามารถครองเกมในแดนกลางได้ในหลายๆ ช่วง

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ : 7 คะแนน

เจอลูกบดของแข้ง “สิงห์โตทอง” ตั้งแต่เสียงนกหวีดแรกของเกมจนทำเอา ฐิติพันธ์ มีเป๋ไปเหมือนกัน  แต่ “เจ้านิว” ก็ยังสามารถพังประตูในเกมนี้ได้จากลูกที่จุดโทษก่อนจะเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม โดยรวมแล้วถือเป็นเกมที่เจ้าตัวยังไม่ได้งัดศักยภาพออกมาเต็มร้อย อาจจะด้วยต้องพะวงกับการเข้าสกัดที่หนักของแข้งเมียนมาอยู่ตลอดเวลา

มงคล ทศไกร : 7 คะแนน

สมกับเป็นจ่าเย็นจริงๆ กับการชิงจังหวะยืนถูกที่ถูกเวลากระทั่งพังประตูให้กับทีมชาติไทยได้สำเร็จ ถือเป็นการตอบแทนความไว้วางใจจาก มิโลวาน ราเยวัช ได้อย่างยอดเยี่ยม

ธีราทร บุญมาทัน : 7 คะแนน

แม้จะมีเวลาอยู่ในสนามเพียง 58 นาที แต่ดาวเตะสารพัดประโยชน์รายนี้ก็ได้แสดงให้เห็นถึงพิษสงรอบตัว โดยเฉพาะจังหวะการผ่านบอล การเปิดบอลที่กล้าได้กล้าเสีย พร้อมกับพิสูจน์ให้แฟนบอลทุกคนได้เห็นว่า ต่อให้เขาจะถูกจับไปเล่นตรงไหน “เจ้าอุ้ม” คนนี้ก็พร้อมจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้สมกับการเป็นนักเตะทีมชาติไทย

สรรวัชญ์ เดชมิตร : 7 คะแนน

แอสซิสต์ปลิดวิญญาณของมิดฟิลด์ร่างบางจาก แบงค็อก ยูไนเต็ด รายนี้ยังคงคมกริบดุจใบมีดอาบน้ำผึ้งอยู่เสมอ หลังเจ้าตัวไหลบอลให้กับ ธีรศิลป์ หลุดเข้าไปซัดง่ายๆ ในกรอบเขตโทษ ถือเป็นจังหวะที่เราต้องยกเครดิตให้ดาวเตะรายนี้ไปเต็มๆ

สิ่งที่ “แคมป์” น่าจะต้องปรับหากยังหวังที่จะยึดพื้นที่ในแดนกลางก็คือ จังหวะการเล่นที่ต้องเร็วกว่านี้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนบอลจากรับเป็นรุก รวมถึงการจบสกอร์ที่ต้องเด็ดขาด และเยือกเย็นเพื่อการเป็นจอมทัพในแดนกลางที่สมบูรณ์แบบ

ธีรศิลป์ แดงดา (C) : 8 คะแนน

ยังคงแสดงให้เห็นถึงคลาสบอลที่เหนือกว่าทุกคนในสนาม ไม่มีอาการตื่นเต้น เหนื่อยล้าให้เราเห็นเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังสามารถพังประตูได้อีกด้วย ถือเป็นเกมที่ “มุ้ย” สอบผ่านแบบสบายๆ

ตัวสำรอง

สิโรจน์ ฉัตรทอง : 7.5 คะแนน

เป็นครึ่งชั่วโมงที่ “ปีโป้” สามารถเรียกเสียงฮือฮา และสร้างโอกาสให้กับทีมชาติไทยได้หลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะพาบอลกระชากหนีแนวรับเจ้าถิ่นจนนำมาซึ่งการเรียกจุดโทษให้กับทีมได้สำเร็จ

ความแข็งแกร่ง และความเร็วของหัวหอกร่างยักษ์รายนี้ยังเป็นอีกหนึ่งอาวุธเด็ดที่ ราเยวัช เองมักจะใช้ในช่วงท้ายเกม และหากไม่มีอาการบาดเจ็บอะไร เชื่อว่าเกมนัดต่อไปที่จะพบกับ เคนย่า “ปีโป้” น่าจะได้รับโอกาสอีกครั้งจากกุนซือเลือดเซิร์บ

สุพจน์ จดจำ : – คะแนน

ถูกส่งลงสนามประเดิมเกมทีมชาตินัดแรกในชีวิต ก่อนจะงัดลูกขยันคอยไล่วิ่งกดดันแนวรับเมียนมาอยู่บ่อยครั้ง แต่ทว่า “เจ้าบอย” ต้องโชคร้ายหลังได้รับอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ปิดฉาก 14 นาทีแรกในสีเสื้อทีมชาติไปอย่างเจ็บปวด

บดินทร์ ผาลา : – คะแนน

มีส่วนร่วมกับเกมน้อยเกินไป ยังต้องปรับในเรื่องของความแข็งแกร่ง

ชาริล ชัปปุยส์ : – คะแนน

เทพบุตรลูกหนังจากค่าย “กิเลนผยอง” ถูกส่งลงมาคุมแดนกลางในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม แต่ยังมีส่วนร่วมกับทีมน้อยจนเกินไป คงต้องรอดูว่าการกลับไปอุ่นเครื่องกับทีมชาติเคนย่าที่ เอสซีจี สเตเดี้ยม นั้น ชัปปุยส์ จะได้รับโอกาสมากกว่านี้หรือไม่

สุริยา สิงห์มุ้ย : – คะแนน

มีเวลาน้อยเกินไป

สุพรรณ ทองสงค์ : คะแนน

มีเวลาน้อยเกินไป

สำหรับทีมชาติไทย จะเดินทางกลับจากประเทศเมียนมา วันที่ 6 ตุลาคม 2560 และจะลงอุ่นเครื่องพบกับทีมชาติเคนยา ในวันที่ 8 ตุลาคม 2560 ที่สนามเอสซีจี สเตเดียม เวลา 19.30 น.

ชมสด!! ศึกไทยลีก พร้อมติดตามข่าวสารทีมชาติไทย ได้ที่ Trueid App และ เว็บไซต์ Sport Trueid หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line@Trueid