รีเซต
TRUE OPINIONS : ภารกิจพิชิตบอลเปลี่ยนโค้ช "โคล้ด ปูแอล" บิ๊กบอสจิ้งจอกสยาม

TRUE OPINIONS : ภารกิจพิชิตบอลเปลี่ยนโค้ช "โคล้ด ปูแอล" บิ๊กบอสจิ้งจอกสยาม

TRUE OPINIONS : ภารกิจพิชิตบอลเปลี่ยนโค้ช "โคล้ด ปูแอล" บิ๊กบอสจิ้งจอกสยาม
kentnitipong
1 พฤศจิกายน 2560 ( 11:07 )
831

TRUE OPINIONS : ตลอด 3 ปีที่ผมทำงานให้กับสโมสรแห่งหนึ่งในไทย ผมเคยอยู่ระหว่างรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงเฮดโค้ชมาแล้ว 5 ครั้ง และเกือบทุกครั้งเกิดขึ้นกลางฤดูกาล

 

 

ทุก ๆ ครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงหัวเรือใหญ่ สาเหตุที่มาที่ไปมักเกิดจากการที่แฟน ๆ ของสโมสรเริ่มทนไม่ได้กับผลงานที่ย่ำแย่ของสโมสร และแน่นอนว่าการ “รีเซ็ท” ความรู้สึกติดลบของแฟนบอลที่ง่ายที่สุดก็คือการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม

เราเปลี่ยนผู้เล่นกลางฤดูกาลไม่ได้ ดังนั้น “ผู้จัดการทีม” จึงเป็นตำแหน่งที่มีชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายมากที่สุด

ความเป็นจริงข้อนี้สามารถใช้ได้กับทุกที่ในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลีกที่มีการแข่งขันและเม็ดเงินไหลเวียนสูงสุดอย่าง พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

เคร็ก เชคสเปียร์ หัวเรือใหญ่แห่ง เลสเตอร์ ซิตี้ ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่ต้องต้องโบกมือลา หลัง 8 นัดผ่านไป เขาสามารถพาทีมชนะไปได้แค่นัดเดียว จมอยู่อันดับที่ 18 ของตาราง

และนั่นก็คงเป็นเหตุผลที่มากพอ ในการสั่งปลดนายใหญ่แห่งฝูงจิ้งจอกสยาม

ไมเคิล แอปเปิลตัน ถูกแต่งตั้งขึ้นมาคุมทัพชั่วคราว ท่ามกลางข่าวลือของการเฟ้นหาผู้จัดการทีมคนใหม่ ซึ่งหลาย ๆ ชื่อถูกหยิบยกขึ้นมา อย่าง คริส โคลแมน หรือ ฌอน ไดซ์ ก่อนที่สุดท้ายกลายเป็น “โคล้ด ปูแอล” อดีตผู้จัดการทีมเซาแธมป์ตัน ที่เข้ามารับเผือกร้อนชิ้นนี้

 

 

อย่างไรก็ตาม โคล้ด ปูแอล กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ถือเป็นตัวเลือกที่เซอร์ไพรส์แฟนบอลจิ้งจอกสยามไม่น้อย แม้โค้ชชาวฝรั่งเศสจะมีดีกรีที่ไม่ธรรมดาในการทำทีมในแผ่นดินบ้านเกิด เมื่อพา โมนาโก คว้าแชมป์ลีก เอิง (ยุคดาวิด เทรเซเก้ต์, มาร์โก้ ซิโมเน่, ฟาเบียง บาร์กเตซ, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่) รวมถึง นำทัพ “โอแอล” โอลิมปิก ลียง เข้ารอบรองชนะเลิศ UCL เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร แต่ผลงานของเจ้าตัวในการคุมทีมหนแรกบนเกาะอังกฤษกับ เซาธ์แฮมป์ตัน จบลงด้วยเครื่องหมายคำถาม

ในปีแรก และปีเดียวของโค้ชชาวฝรั่งเศส เขาพาทีมนักบุญแดนใต้ เข้ารอบชิงชนะเลิศ ลีก คัพ  และจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 8 ของตาราง แต่ ปูแอล กลับไม่เป็นที่ชื่นชอบในหมู่แฟน “เดอะ เซนต์” มากนัก หลังจากฟุตบอลสไตล์ “เน้นชัวร์” ของเขาทำให้ทีมยิงประตูในลีกได้แค่ 41 ลูก

ซึ่งนั่นมันน้อยกว่าปีที่ เซาธ์แฮมป์ตัน ตกชั้นในฤดูกาล 2004/05 ด้วยซ้ำ

เมื่อขุดสถิติลงลึกไปอีกพบว่า 5 นัดสุดท้ายในรัง เซนต์ แมรี่ ของ ปูแอล ทีมของเขาไม่สามารถทำประตูคู่แข่งได้เลย ซึ่งพอบวกกับผลงานในบ้านที่ทั้งฤดูกาลเก็บชัยไปแค่ 6 นัด แฟน ๆ พันธุ์แท้ของทีมที่ถือตั๋วปีราคามหาศาลคงไม่พึงพอใจแน่ ๆ

ด้วยเหตุผลข้างต้น ไม่แปลกที่แฟน ๆ จิ้งจอกสยาม จะต้องเลิกคิ้วแปลกใจ โดยเฉพาะเมื่อ เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นสโมสรที่โด่งดังและประสบความสำเร็จจากการเล่นฟุตบอลไดเร็คและสวนกลับเร็ว ซึ่งดู ๆ แล้ว ปูแอล ย่อมถือว่าเป็นกุนซือที่มีปรัชญาในด้านสไตล์ฟุตบอลตรงกันข้ามกับ เดอะ ฟ็อกซ์ อย่างสิ้นเชิง

สุดท้ายแล้ว โคล้ด สามารถตอบคำถามจากผู้ที่สงสัยในตัวเขาได้บางส่วน หลังพาทีมเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ในนัดประเดิมสนามของตัวเองไปด้วยสกอร์ 2-0 “จากการเล่นฟุตบอลไดเร็ค” อันเป็นเอกลักษณ์ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ส่งให้ “จิ้งจอกสยาม” เก็บชัยในบ้านตัวเองได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองเดือน

 

 

เกมนี้ต้องขอชื่นชม ปูแอล ตรงที่เขาเลือกที่จะไม่รีบเข้ามาปรับเปลี่ยนสไตล์ของทีม โดยส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการที่เจ้าตัวเพิ่งคุมทีมลงซ้อมได้แค่สองวัน จะให้มาปรับเปลี่ยนสไตล์ฟุตบอลคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ สอดคล้องกับที่ เจมี่ วาร์ดี้ ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “บอสเพิ่งเข้ามารับงานเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เขาบอกกับพวกเราว่าเขายังจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมาก แค่ปรับแท็คติกเล็กน้อย”

อย่างไรก็ตาม ปูแอล อาจจะยังวางใจไม่ได้ แม้จะออกตัวใน คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ได้ดี เนื่องจากตามสถิติแล้ว เลสเตอร์ ซิตี้ คือที่มาของนิยาม “บอลเปลี่ยนโค้ช” อย่างแท้จริง

 

 

ย้อนความหลังไปเมื่อช่วงก่อนเริ่มฤดูกาล 2015/16 เลสเตอร์ ซิตี้ ประกาศปลด ไนเจล เพียร์สัน กุนซือคู่บุญที่พาทีมเลื่อนชั้นจากลีกแชมเปี้ยนชิพ และเป็นคนเดียวกับที่กระตุ้นทีมให้รอดตายได้แบบเหลือเชื่อในฤดูกาลแรกของลีกสูงสุด ก่อนแทนที่ตำแหน่งหัวเรือใหญ่ด้วย เคลาดิโอ รานิเอรี่

แน่นอนเรื่องราวหลังจากนั้น ทุกคนทราบกันดีว่ากุนซือชาวอิตาเลียนได้จารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์ลูกหนัง หลังพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ไปแบบหักปากกาเซียน

ฤดูกาลถัดมา หลังจากพาทีมแพ้ 5 นัดรวดจนตกมาอยู่อันดับที่ 17 ของตาราง ก็เป็นทีของ รานิเอรี่ ที่มีอันต้องโดนปลดจากตำแหน่งบ้าง และจิ้งจอกสยามก็ได้ เคร็ก เชคสเปียร์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมที่อยู่กับ เดอะ ฟ็อกซ์ มาตั้งแต่ปี 2011 พาทีมฟื้นคืนชีพคัมแบ็คชนะ 5 นัดรวดในลีกและผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายศึก UCL ก่อนจะพ่าย แอตเลติโก มาดริด ไปแบบได้ลุ้น

ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจ ที่เราจะเห็น เลสเตอร์ ซิตี้ เก็บชัย 3 นัดรวดในทุกรายการ หลังการปลด เคร็ก เชคสเปียร์ (ชนะ สวอนซี ซิตี้ 2-1, ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-1 และ เอฟเวอร์ตัน 2-0)

 

 

เป็นหน้าที่ของ โคล้ด ปูแอล ที่ต้องทำการบ้านในจุดนี้ ว่าเขาจะมีทางออกอย่างไรในการสร้างแรงจูงใจให้นักเตะ จิ้งจอกสยาม สามารถยืนระยะได้แบบยาว ๆ ไม่ใช่มีฮึดเฉพาะช่วง “ฮันนีมูน” หลังเปลี่ยนโค้ชหมาด ๆ อย่างที่ผ่าน ๆ มา

…หรือไม่ก็อยากแนะนำให้ลองเปลี่ยน ผู้จัดการทีม ทุกเดือนดู ดีไม่ดีเราอาจจะเห็น เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นแชมป์พรีเมียร์ ลีก อีกครั้งก็เป็นได้…

***********

 

บอลไทยบอลนอก ไม่พลาดทุกบิ๊กแมตช์ รวม 7 ลีก 5 ถ้วย มันส์ ชัดระดับ HD พร้อมกีฬาฮิตอีกมากมาย และ คลิปไฮไลท์ฟุตบอล
ติดตามข่าวสารได้ที่ TrueID App และ เว็บไซต์ Sport.Trueid.net หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID

 

ยอดนิยมในตอนนี้