รีเซต
FUTSAL TALK : แชมป์ฟุตซอล AFF "ช้างศึก" ครั้งนี้มีคุณค่ากว่าครั้งไหนๆ ... by "ตรู่ เชียร์ไทย"

FUTSAL TALK : แชมป์ฟุตซอล AFF "ช้างศึก" ครั้งนี้มีคุณค่ากว่าครั้งไหนๆ ... by "ตรู่ เชียร์ไทย"

FUTSAL TALK : แชมป์ฟุตซอล AFF "ช้างศึก" ครั้งนี้มีคุณค่ากว่าครั้งไหนๆ ... by "ตรู่ เชียร์ไทย"
kentnitipong
5 พฤศจิกายน 2560 ( 14:14 )
8K

Futsal Talk กับ “ตรู่ เชียร์ไทย” … เป็นนัดชิงชนะเลิศฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน ที่ระทึกใจที่สุดนับตั้งแต่มีการแข่งขันเมื่อปี 2001 เป็นต้นมา ขอแสดงความยินดีกับทีมชาติไทย นำแชมป์กลับบ้านแบบใจหายใจคว่ำ หลังจากเอาชนะ มาเลเซีย 4-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ จนว่ากันว่านี่คือแชมป์อาเซียนที่ได้มาด้วยความยากลำบากที่สุดของทัพ “ช้างศึก”

 

 

ไทยครองแชมป์รวมทั้งหมด 13 ครั้ง ล่าสุด “เอเอฟเอฟ ฟุตซอล แชมเปี้ยนชิพ 2017” ที่ประเทศเวียดนาม เป็นเจ้าภาพ คู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ออสเตรเลีย ถอนตัวจากการแข่งขัน นั่นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ โฆเซ่ มาเรีย เมนเดส หรือ “ปูลปิส” กล้าที่จะใช้ชุดผสม และพักตัวหลักอย่าง ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง, อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ, จิรวัฒน์ สอนวิเชียร, กฤษดา วงษ์แก้ว และณัฐพล สุทธิโรจน์

เป็นโอกาสให้นักเตะจากชุดยู 20 มูฮัมหมัด อุสมานมูซา, ปาณัสม์ กิตติภานุวงศ์, รณชัย จูงวงษ์สุข, ธนโชติ เสาะแสวง และวีระศักดิ์ ศรีไชย ได้โชว์ผลงาน และเก็บประสบการณ์อย่างเต็มที่ โดยใน 3 รายหลังเป็นการลงแข่งชิงแชมป์อาเซียนหนแรกอีกด้วย และเป็นโอกาสให้ทีมต่างๆ มีสิทธิ์จะแย่งแชมป์จากไทยได้มากขึ้น เพราะคู่แข่งมองว่ายังบลัดของไทยยังไม่อาจทดแทนรุ่นพี่ได้

ใครที่ได้ดูได้ชมนัดชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา คงจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ตื่นเต้น เร้าใจ และสะใจสุดๆที่ทีมชาติไทย กลับมาคว้าแชมป์จนได้ จากที่โดนนำ 3-1 สู่การกลับมาตีเสมอเป็น 3-3 ในเวลาปกติ นี่คือครั้งแรกที่เราไม่ชนะมาเลเซีย ในช่วง 40 นาทีปกติ ต้องต่อเวลาพิเศษเกือบจะเสียประตูเพิ่มแต่ว่า มาเลเซีย ยิงจุดโทษจุดที่ 2 ไม่เข้า สุดท้ายเรามาได้ประตูชัยจาก รณชัย จูงวงษ์สุข ชนะ 4-3 สถานการณ์พลิกไปพลิกมาทำให้ลุ้นกันชนิดตาไม่กระพริบเป็นแน่

 

 

มาเลเซีย ไม่ได้ตั้งรับในแดนแล้วรอสวนกลับอย่างเดียว เขาขึ้นมาเพรสซิ่งหน้าเขตโทษของไทย เวลาไทยเซตเกมในแดนตัวเองก็จะมาคุมพื้นที่ถึงบริเวณกลางสนาม ที่สำคัญลูกทีมของ ชิว ชุน ยอง กล้าเลี้ยง กล้าลุย ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเล่นงานไทยจนผิดพลาดให้เห็นบ่อยครั้ง…

มาเลเซีย ไม่ได้ฟลุ๊คที่สามารถต่อกรกับไทยได้ขนาดนี้ เพราะไทยหืดขึ้นคอมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งผมจะไล่เรียงเหตุการณ์ตามลำดับ

ตั้งแต่ มาร์เซโล่ เซร์ปา โคเอลโญ่ เข้ามาคุมทีมชาติมาเลเซีย เมื่อปี 2012 ก็เริ่มสร้างระบบเป็นวางพื้นฐานกันใหม่ นักเตะมาเลเซียมีความสามารถที่ดีอยู่แล้ว เพียงแค่ต้องทำความเข้าใจแท็กติกให้มากขึ้น จากนั้นในชิงแชมป์อาเซียน 2013 ที่ ม.กรุงเทพธนบุรี วันที่ 22 ตุลาคม 2556 เป็นนัดที่ 3 ในกลุ่มเอ ผมจำได้ดี (เพราะผมเป็นผู้บรรยายการแข่งขันในเกมนี้ ฮ่า ฮ่า) ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น นั่นก็คือเป็นครั้งแรกที่ไทยยิงมาเลเซียไม่ได้ในช่วงครึ่งแรก เจาะยังไงก็ไม่เข้า วิคเตอร์ เฮอร์มันส์ โค้ชทีมชาติไทยในตอนนั้น ใช้แผนที่ไม่เคยใช้ นั่นก็คือส่งหน้าเป้า 2 คนพร้อมกัน เป็นครั้งแรกที่ผมเห็น ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง และ เจษฎา ชูเดช ลงเล่นในชุดเดียวกัน และคงเป็นการตัดสินใจที่ถูก เพราะไทยเอาชนะ 2-0

 

 

จากนั้นชิงแชมป์อาเซียน 2016 รอบรองชนะเลิศ ชิว ชุน ยอง เฮดโค้ชที่สานงานต่อจาก มาร์เซโล่ ทำให้คนดูทั้งใน อินดอร์ สเตเดี้ยม และหน้าจอทีวีต้องช็อค เพราะเป็นครั้งแรกที่ไทยต้องตามหลังในช่วงครึ่งแรก สกอร์ห่างถึง 3-0 แต่ด้วยหัวจิตหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ ทำให้ไทยเป็นฝ่ายชนะ 5-3 ก่อนที่ไทยจะคว้าแชมป์ในบั้นปลาย

บ็ดเสร็จตอนนี้ดวลกัน  27 ครั้ง ไทย ชนะ 26 เสมอ 1 ยิงได้ 174 ประตู ส่วนมาเลเซีย ยิงได้ 34 ประตู เมื่อก่อนไทยข่ม และกล้าพูดได้ว่าเขาเกรงศักดิ์ศรีเรา แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว หากจะสรุปสั้นๆให้เห็นถึงพัฒนาการของ มาเลเซีย ในการเจอกับไทย คือ

– ชิงแชมป์อาเซียน 2013 เป็นครั้งแรกที่ไทยยิงประตูครึ่งแรกไม่ได้ (ครึ่งแรกเสมอ 0-0 จบเกมไทยชนะ 2-0)

– ชิงแชมป์อาเซียน 2016 เป็นครั้งแรกที่ไทยต้องตามหลังในช่วงครึ่งแรก (ครึ่งแรกตาม 0-3 จบเกมไทยชนะ 5-3)

– ชิงแชมป์อาเซียน 2017 เป็นครั้งแรกที่ไทยเสมอ หลังจากก่อนหน้านี้ชนะมาเลเซีย 26 นัดรวด (เวลาปกติเสมอ 3-3 จบเกมไทยชนะ 4-3 ช่วงต่อเวลาพิเศษ)

 

 

ดูจากอันดับโลกก็ไม่แปลกใจเลยที่ มาเลเซีย คือทีมที่แรงกิ้งขยับมากที่สุดนับตั้งแต่ ธันวาคม 2016 อยู่ที่ 74 ตอนนี้พุ่งมา 23 ขั้น รั้งอันดับ 51 ของโลก (จัดอันดับโลกโดย futsalworldranking.be อัพเดทข้อมูลวันที่ 5 พฤศจิกายน 2560)

แน่นอนว่าสิ่งที่ไทยได้นั่นก็คือ การสร้างนักเตะรุ่นใหม่ๆขึ้นมา ต่อให้ครั้งนี้ไม่ได้แชมป์ ผมก็เห็นด้วยที่ “ปูลปิส” ใส่ชื่อดาวรุ่งเหล่านี้ลงแข่งที่เวียดนาม ในอนาคตอาจจะแกร่งกว่ารุ่นพี่ก็ได้ ใครจะไปรู้

และต้องขอบคุณ มาเลเซีย ที่ทำให้แชมป์ครั้งนี้ของทีมชาติไทย มีความหมายกว่าครั้งอื่นๆ เพราะเป็นนัดชิงชนะเลิศที่ลำบากที่สุดของไทย ปีหน้าคู่แข่งแย่งแชมป์อาเซียนอาจจะไม่ใช่ ออสเตรเลีย หรือ เวียดนาม แต่จะกลายเป็น มาเลเซีย เพราะสู้ได้ขนาดนี้ ต่อไปเขาไม่กลัวเราอีกแล้ว…

 

ชมสด!! ศึกไทยลีก พร้อมติดตามข่าวสารทีมชาติไทย ได้ที่ Trueid App และ เว็บไซต์ Sport Trueid หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line@Trueid

 

ยอดนิยมในตอนนี้