รีเซต
TRUE OPINIONS : อันดับสองที่ดีที่สุด (อีกแล้ว) ที่อาจมีค่าเท่ากับ "ฟุตบอลโลก" ... by "จอน"

TRUE OPINIONS : อันดับสองที่ดีที่สุด (อีกแล้ว) ที่อาจมีค่าเท่ากับ "ฟุตบอลโลก" ... by "จอน"

TRUE OPINIONS : อันดับสองที่ดีที่สุด (อีกแล้ว) ที่อาจมีค่าเท่ากับ "ฟุตบอลโลก" ... by "จอน"
kentnitipong
10 พฤศจิกายน 2560 ( 12:15 )
12.6K

TRUE OPINIONS : ทำแฟนบอลหายใจไม่ทั่วท้องกันพอหอมปากหอมคอสำหรับทีมชาติไทย ชุด ยู-19 ที่เดินทางไปแข่งศึก ยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย 2018 รอบคัดเลือก กลุ่ม ไอ ที่ประเทศมองโกเลีย ระหว่างวันที่ 4-8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แต่จนแล้วจนรอด “ช้างศึกจูเนียร์” ก็ฝ่าด่าน ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายที่ประเทศอินโดนีเซียปีหน้าได้สำเร็จ ในฐานะ 1 ใน 5 ทีม อันดับสองที่ดีที่สุด

 

 

ทั้งนี้ ทีมชาติไทย ยู-19 ก็เป็น “ขุนพลช้างศึก” ชุดที่สามของปีนี้แล้ว ที่จบอันดับ 2 ที่ดีที่สุด (อีกแล้ว) หลังจากที่ รุ่นน้องอย่าง ยู-16 และรุ่นพี่อย่าง ยู-23 ก็สามารถผ่านเข้ารอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชีย ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม เหมือนกัน

แต่อันดับสองที่ดีที่สุด ที่หลายๆ คนดูแคลนว่า เป็นการเข้ารอบมาได้แบบสะบักสะบอมนั้น
มันอาจจะมีค่ายิ่งใหญ่เท่ากับคำว่า “ฟุตบอลโลก” เลยก็เป็นได้

 

 

เริ่มต้นอย่างเร้าใจ และชื่อของ สิทธิโชค ภาโส บนสกอร์บอร์ด

นับเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งของ มาร์ค อลาเบดร้า ปาลาซิโอส ตัวแทนจาก เอคโคโน่ ที่ดูแลทีมช้างศึก ชุด ยู-19 ชุดนี้ ที่ได้ใช้งาน สิทธิโชค ภาโส กองหน้าจากคาโงชิม่า ยูไนเต็ด ทีมในระดับ เจ 3 ประเทศญี่ปุ่น ในรายการนี้ และ”เจ้าย้า” ก็พิสูจน์ตัวเองได้ทันทีตั้งแต่ 39 วินาทีแรกของเกมกับ สิงคโปร์ เมื่อจัดการยิงขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่ไก่โห่

และจบเกมแรกบนแผ่นดินมองโกเลีย สามสกอร์ที่ “เจ้าย้า” ทำได้ก็กลายเป็นแฮตทริคแรกของเขา บนสีเสื้อทีมชาติไทย ยู-19 พร้อมพาทีมชาติไทย ประเดิมสนามสวยสด บด สิงคโปร์ 3-1

เกมที่สอง ทีมชาติไทย ต้องลงเล่นท่ามกลางหิมะที่ปกคลุมพื้นสนามหญ้าเทียมแบบแทบจะเต็มพื้นที่ กับทีมชาติมองโกเลีย เจ้าภาพ ซึ่งแม้ชื่อชั้น และทรงบอลของทีมชาติไทยจะเหนือกว่า แต่ด้วยสภาพอากาศ และสภาพสนามที่ไม่เอื้ออำนวย ก็ทำให้ผมเองก็รู้สึกหวั่นใจอยู่เหมือนๆ กัน แต่สุดท้าย น้องๆ ยู-19 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ถล่ม มองโกเลีย ราบคาบ 5-2

เบ็ดเสร็จ 2 เกมแรก ทีมชาติไทย เก็บได้ 6 แต้ม ยิงได้ 8 ประตู และเสีย 3 ประตู โดยที่ สามกำลังหลักของทีมในแต่ละตำแหน่ง ต่างก็โชว์ฟอร์มได้ดี เริ่มจาก สิทธิโชค ภาโส ที่ยิงไป 5 ลูกจาก 2 นัด, เอกนิษฐ์ ปัญญา ตัวรุกจากเชียงราย ซิตี้ ก็ยิงไป 1 ลูก และแอสซิสต์อีก 4 ครั้ง

ส่วนอีกรายที่ต้องชื่นชมเลยก็คือ กฤษฎา กาแมน กองหลังกัปตันทีม ที่เป็นแนวรับซึ่งฉวยโอกาสเปิดเกมรุกได้ดีมากๆ และแอสซิสต์ให้กับ “เจ้าย้า” ได้ถึง 2 ประตูใน 2 เกมแรก โดยเป็นการโยนบอลยาวอย่างแม่นยำจากแดนหลัง ซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติไทย ที่มีวิชั่นส์ในการเล่นเกมรุกแบบนี้มานานมากแล้ว

แม้จะฟอร์มดีแค่ไหน แต่ผลงานสองนัดแรกจะหมดความหมายทันที
ถ้านัดสุดท้าย ผลออกมาไม่เป็นใจ…

 

ความโหดร้ายของอุณหภูมิ -15 C กับเบอร์หนึ่งเอเชียที่ชื่อว่า ญี่ปุ่น

นี่น่าจะเป็นเกมฟุตบอลของทีมชาติไทย ที่ลงเล่นในอุณหภูมิที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว สำหรับการพบกับ ทีมชาติญี่ปุ่น ในนัดสุดท้าย เอาแค่ตอนที่ผมเห็นตัวเลข อุณหภูมิ -15 องศาเซลเซียส ขึ้นบนหน้าจอมือถือ ขณะชมจากไลฟ์ ตอนนั้นบอกตรงๆ ว่า ถึงกับอุทานคำหยาบออกมาเลยทีเดียว

อุณหภูมิก็ติดลบ 15 องศาเซลเซียส
สนามก็หญ้าเทียมที่เด็กไทยไม่คุ้นชิน
คู่ต่อสู้ก็ระดับเกรดเอของทวีป

ไม่ใช่ว่ากลัวแพ้ หรือกลัวญี่ปุ่นนะ แต่ผมบอกตรงๆ ว่า หวั่นใจจริงๆ เพราะอยากให้น้องๆ ชุดนี้ได้ไปต่อในรอบสุดท้ายของชิงแชมป์เอเชีย แต่มันเกินคาด เพราะในช่วงครึ่งแรก ความโหดร้ายของอากาศ ก็ไม่สามารถทลายกำแพงความตั้งใจ และการเล่นเกมรับอย่าง “โคตรจะมีวินัยสุดๆ” ของเด็กไทยได้ พร้อมกับสามารถยันสกอร์ไว้ได้ที่ 0-0

พอกลับมาครึ่งหลัง ทีมชาติไทย ก็ต้องมาเสียประตูจนได้ ในช่วงหลังจากผ่าน 60 นาทีแรกไปแปปเดียว แต่แล้วไม่นานหลังจากนั้น เอกนิษฐ์ ปัญญา ยอดตัวรุกของทีม ก็มาซัดประตูตีเสมอ ปลุกทัพช้างศึกได้สำเร็จ ก่อนที่สุดท้ายจะโดนทีเด็ดของ เคียวสุเกะ ทากาวะ ที่จัดการเบิ้ลอีกลูกให้ญี่ปุ่นออกนำอีกครั้ง 2-1

คิดแล้วมันก็คล้ายๆ กับเกมของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่เพิ่งแพ้ ออสเตรเลีย 1-2
ครึ่งแรก จบสกอร์ที่ 0-0 ก่อนที่ครึ่งหลัง โดนนำ 0-1 และตีเสมอได้ 1-1 แต่สุดท้ายก็มาเสียประตู จนทำให้แพ้ 1-2 จนได้

ช่วงท้ายเกม 20 นาทีสุดท้าย ทีมชาติไทย ยู-19 ตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมรับกันอย่างระมัดระวัง เพื่อรักษาสกอร์แพ้ให้น้อยที่สุด และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จ โดยที่สกอร์ 1-2 ก็ส่งผลให้ “ช้างศึกจูเนียร์” กลายเป็นหนึ่งในอันดับสองที่ดีที่สุด ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้แต่แรก

ระยะห่างระหว่างบิ๊กเนมเอเชีย กับ ทีมชาติไทย มันลดลงแล้ว
แต่ก็ยังห่างกันอยู่อีกหลายก้าว
ต้องพัฒนา และตั้งใจกันต่อไป

 

 

อันดับ 2 ที่ดีที่สุด (อีกแล้ว)

ก็อย่างที่เกริ่นแต่แรกว่า นี่คือการคว้าอันดับสองที่ดีที่สุด ชุดที่ 3 แล้วในรอบปีนี้ของทีมชาติไทย โดยก่อนหน้านี้ ยู-23 กับ ยู-16 ก็หวุดหวิดไปเหมือนกัน แต่สำหรับผม การเข้ารอบสุดท้ายได้ คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดของการไปเล่นทัวร์นาเมนต์รอบคัดเลือก เพราะมันคือเป้าหมายแรก เหนือการเป็นแชมป์กลุ่ม

แต่การเดินทางยังไม่สิ้นสุด เป้าหมายต่อไป ที่ต้องโฟกัส นั่นคือ การทำงานอย่างหนักทุกชุด เพื่อให้เกิดผลงานที่ดีที่สุด โดยมี ฟุตบอลโลก ยู-17 กับ ยู-20 ในปี 2019 เป็นโบนัส

“ใครบ้างไม่อยากได้โบนัส”

ในปีหน้า ทีมชาติไทย ทุกชุด ทั้ง ยู-23, ยู-16 และ ยู-19 มีงานหนักระดับชิงแชมป์เอเชียรออยู่ ส่วนตัวของผมไม่ได้มองถึงการเป็นแชมป์ อยากให้ทำผลงานให้ดีที่สุดไว้ก่อน ทำงานอย่างเต็มที่ทุกภาคส่วน

ถ้าการจับสลากเป็นใจ ทีมชาติไทย ก็น่าจะได้ลุ้นผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้
ถ้าถึงตอนนั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้แล้ว…

และฟุตบอลโลกระดับเยาวชนครั้งต่อไปสำหรับทีมชาติไทย
อาจไม่ต้องรอจนถึงชาติหน้าอีกแล้ว…

 

 

“จอน”

(อนึ่ง การแข่งขันฟุตบอล ยู-16 และ ยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย จะนำสี่ทีมที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เข้าแข่งขันฟุตบอลโลก ยู-17 และ ยู-20 ในปี 2019 ในฐานะตัวแทนจากทวีปเอเชีย)

 

ชมสด!! ศึกไทยลีก พร้อมติดตามข่าวสารทีมชาติไทย ได้ที่ Trueid App และ เว็บไซต์ Sport Trueid หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line@Trueid

 

ยอดนิยมในตอนนี้