สืบเนื่องจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทาง สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการแถลงข่าวการจับกุมขบวนการกำหนดผลฟุตบอลไทยลีกล่วงหน้าเพื่อแทงพนัน โดยมีผู้ต้องหาจำนวนทั้งหมด 12 คน แบ่งออกเป็นนักฟุตบอลระดับไทยลีก 5 คน, กรรมการ 2 คน, ผู้บริหารสโมสร 1 คน และนายทุนผู้ว่าจ้างอีก 4 คน

โดยหนึ่งในนักเตะที่ตกเป็นข่าวนั้น ก็คือ วีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตูดีกรีทีมชาติไทย และเหรียญทองซีเกมส์ เมื่อปี 2007 ซึ่งปัจจุบันเพิ่งถูกยกเลิกสัญญาจาก สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ไปหมาดๆ จากพิษของเหตุการณ์นี้

ทั้งนี้ สำหรับเกมการแข่งขันที่ตกเป็นที่สงสัย จากข้อมูลที่ทางตำรวจได้เปิดเผยออกมา ซึ่งมาจากคำให้การของผู้ที่ถูกจับกุมนั้น มีแนวโน้มว่าเกมที่ วีระ เกิดพุดซา ร่วมมือกับทางนายทุน เพื่อกำหนดผลการแข่งขันนั้น พร้อมกับรับเงินค่าตอบแทนจำนวน 3.5 แสนบาท ก็คือ เกมระหว่าง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่เปิดบ้านเสมอกับ สุพรรณบุรี เอฟซี 2-2 โดย 2 ประตูสุดท้ายเกิดขึ้นในนาที 78 และ 82

ซึ่งล่าสุด มีแฟนบอลจำนวนมากได้แชร์คลิปลูกตีเสมอของสุพรรณบุรี ในช่วงก่อนหมดเวลาเพียง 8 นาที เพราะจังหวะการเซฟของ วีระ เกิดพุดซา ค่อนข้างแปลกไปจากที่ควรจะเป็น และทาง TrueID Sports จึงได้ต่อสายตรงไปพูดคุยกับ “เจ้าเอ๊ะ” ชาคริต บัวทอง นักเตะสารพัดประโยชน์ของ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่เป็นคนแอสซิสต์ลูกดังกล่าวให้กับ นิโคลัส เบเลซ โหม่งท้ายเกมผ่านมือของ วีระ เข้าไป

“บอกตรงๆ ตอนนั้น ผมไม่รู้สึกเลยว่า เป็นจังหวะที่เค้าตั้งใจล้มบอลนะ เพราะมันเป็นลูกที่เร็ว จังหวะที่ผมเปิดให้ เบเลซ โหม่ง เป็นลูกที่โหม่งยาก ลูกมันเร็ว และเขาโหม่งดีมาก”

ดูคลิป “เปิด 4 แมตช์ต้องสงสัย ถูกโยงเข้ากับแก๊งล้มบอลไทย”

“ลูกที่เปิดไปมันเป็นลูกเอาท์สวิง (วิถีบอลโค้งออกจากประตู) ทำให้กองหลังกั๊กตำแหน่งกับผู้รักษาประตู และจังหวะที่โหม่ง ก็กดลงพื้น แรง และกระชั้นชิดด้วย มันทำให้ป้องกันยาก อีกอย่าง เกมวันนั้นฝนก็ตกด้วย ผมเลยคิดว่า มันเลยทำให้เค้ารับบอลผิดพลาด เพราะบอลอาจจะลื่นแฉลบ ซึ่งผมไม่เคยคิดเลยว่า ลูกที่ผมแอสซิสต์จะเป็นลูกที่เค้าล็อกผลการแข่งขัน แต่ถ้าลองคิดอีกแบบ หากเป็น พี่ตี๋ (สินทวีชัย หทัยรัตนกุล) ก็อาจจะกางแขนไว้ก่อน เพื่อทำตัวให้ใหญ่ ป้องกันลูกบอล”

สำหรับ ชาคริต บัวทอง นั้น ถือว่าเป็นนักเตะรุ่นราวคราวเดียวกับ วีระ เกิดพุดซา และเคยอยู่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่เดียวกับ วีระ ก่อนจะย้ายมาเรียนต่อที่ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งทั้งสองคนก็เคยผ่านการติดทีมชาติในชุดเยาวชนมาด้วยกัน โดย “เจ้าเอ๊ะ” ก็ได้ทิ้งท้ายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะนักฟุตบอลระดับซีเนียร์ในศึกไทยลีกปัจจุบัน

“ผมไม่ได้รู้สึกว่า ข่าวพวกนี้เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สักเท่าไร เพราะผมเป็นคนที่อยู่ในวงการฟุตบอลไทยมานาน คนในวงการทั่วไป ต่างก็รู้ดีว่า มีเรื่องพวกนี้อยู่มานานแล้ว พอผมได้ยินข่าวนี้ ผมก็รู้สึกเป็นห่วงวงการฟุตบอล ว่ามันจะเป๋ไหม มันจะเป็นอย่างไรต่อไป ผมไม่ได้ห่วงอนาคตของนักฟุตบอล หรือคนที่ทำแบบนี้หรอก คนเรามันรู้อยู่อะไรดีไม่ดี คนเราทำอะไรก็ได้อย่างนั้น”

“ผมมองว่า การออกมาจับกุมอะไรแบบนี้ ถือว่าเป็นเรื่องดีนะ เพราะผมเป็นนักฟุตบอล เวลาที่ผมเห็นการตัดสินแปลกๆ หรือการเล่นที่น่าสงสัย ผมก็จะรู้สึกสงสัย รู้สึกไม่ดี”

“แต่ต่อจากนี้ ผม และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นักฟุตบอลจะได้เล่นฟุตบอลในแบบที่ผมอยากเล่น ทุกอย่างจะใสสะอาด เราจะแพ้ชนะกันที่แทคติก ฝีมือ และความสามารถจริงๆ ไม่มีนอกมีใน ผมรู้สึกแฮปปี้กับข่าวนี้ในฐานะนักฟุตบอล และต่อจากนี้ใครที่คิดจะรับอะไรแบบนี้ ผมว่าเค้าต้องคิด ต้องกลัวบ้างแล้วแหละ วงการเราจะใสสะอาดมากขึ้นด้วยครับ”

“จอน”

สามารถดูบอลสดทางออนไลน์ ได้ที่นี่

ติดตามข่าวสารได้ที่ TrueID App และ เว็บไซต์ Sport.Trueid.net หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID