รีเซต
TRUE FOCUS : วิเคราะห์หลังเกมประวัติศาสตร์ นัดชิงชนะเลิศ ช้าง เอฟเอ คัพ 2017 ... by "Arm Phukrit"

TRUE FOCUS : วิเคราะห์หลังเกมประวัติศาสตร์ นัดชิงชนะเลิศ ช้าง เอฟเอ คัพ 2017 ... by "Arm Phukrit"

TRUE FOCUS : วิเคราะห์หลังเกมประวัติศาสตร์ นัดชิงชนะเลิศ ช้าง เอฟเอ คัพ 2017 ... by "Arm Phukrit"
armcasanova
26 พฤศจิกายน 2560 ( 12:07 )
6.8K

TRUE FOCUS : วันนี้ผมขอพูดถึงเหตุการณ์ บรรยากาศ ความสนุกเร้าใจ ความผิดหวัง สมหวัง วิเคราะห์ทั้งสองทีม ในแมตช์ประวัติศาสตร์ นัดชิงชนะเลิศช้าง เอฟเอ คัพ 2017 การพบกันของทีมยักษ์ใหญ่ระหว่าง เชียงราย ยูไนเต็ด พบ แบงค็อก ยูไนเต็ด

 

 

ผลปรากฎว่า เชียงราย ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายเอาชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในเกม 90 นาทีด้วยสกอร์ 4-2 ได้ตั๋วไปลุยรอบเพลย์ออฟในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเกมนี้การแจกใบแดงกันสูงถึง 4 ใบอีกด้วย เดี๋ยวเรามาเริ่มโฟกัสกันเป็นข้อๆ ดังนี้

 

  1. บรรยากาศในการแข่งขัน

การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ ถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทั้งสองสโมสร ซึ่งมีตั๋วใบเดียวสำหรับการไปเล่นรอบเพลย์ออฟ ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก และถ้วยแชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ ใบใหม่เป็นเดิมพัน บรรยากาศในสนามกองเชียร์เริ่มส่งเสียงเชียร์ปลุกเร้าทีมของตัวเองอย่างคึกคัก ผู้คนจำนวนนับหมื่นคนต่างพากันสวมเสื้อเชียร์ทีมของตัวเอง บรรยากาศในค่ำคืนวันเสาร์มันมีความยิ่งใหญ่ ชวนให้ขนลุก ทั้งเสียงตีกลอง, เสียงตะโกนร้องเพลง,เสียงโห่,เสียงให้กำลังใจ รวมไปถึงกดดันคู่ต่อสู้ เรียกได้ว่าสมศักดิ์ศรีนัดชิงชนะเลิศ ช้าง เอฟเอ คัพ 2017 เลยทีเดียว ผมต้องขอชื่นชมแฟนบอลทั้งสองทีมเลยครับ ที่ช่วยกันสร้างบรรยากาศที่สุดยอด ผมนั่งอยู่ในบล็อกสื่อ ยังรู้สึกสนุกไปกับการเชียร์ของพี่ ๆ เลยจริง ๆ

 

  1. การทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน

ผู้ตัดสินชี้ขาดในแมตช์นี้คือ สงกรานต์ บุญมีเกียรติ ก่อนอื่นเลยผมต้องบอกว่า แมตช์นี้เป็นแมตช์ที่มีความสำคัญกับทั้งสองทีม โดยมีตั๋วลุย ACL เป็นเดิมพัน และแชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร มองกันด้วยภาพรวมแมตช์นี้มีใบแดงมากถึง 4 ใบ นักเตะที่โดนไล่ออกในแมตช์นี้ประกอบไปด้วย สถาพร แดงสี, สรรวัชญ์ เดชมิตร, เอกชัย สำเร ของแบงค็อก ยูไนเต็ด และ ฐิติพันธ์ พ่วงจนทร์ จากทางฝั่งเชียงราย ยูไนเต็ด ผมต้องขอบอกทุกท่านแบบนี้ครับ จากที่ผมนั่งชมเกมการตัดสินของผู้ตัดสินในแมตช์นี้ ถือว่าทำหน้าที่ได้ดี อาจจะมีบางจังหวะที่ไม่ทันเกม แต่ก็ยังสามารถปรึกษากับทางทีมงานบ้างในบางจังหวะและตัดสินใจได้เด็ดขาด สามารถควบคุมเกมไม่ให้เดือดไปมากกว่านี้ เนื่องจากนักเตะทั้งสองทีมมัจังหวะการเข้าปะทะกันบ่อยครั้ง รวมไปถึงการโต้เถียงกันของผู้เล่นทั้งสองฝ่ายด้วย

 

  1. แบงค็อก ยูไนเต็ด

เริ่มจากที่ แข้งเทพ มีเวลาพักมามากกว่าทาง กว่างโซ้งฯ ด้วยสภาพร่างกายถือว่าสดกว่าแน่นอน สำหรับในเรื่องของการวางตัวของ กุนซือมาโน่ จัดผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนาม ได้ เจย์ซี่ จอห์น, ดราแกน บอสโกวิช และ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ผู้เล่นต่างชาติลงสนามกันอย่างฟอร์มหน้า แต่เกมนี้ แบงค็อก โดนใบแดงถึง 3 คน ในกรณีของ สถาพร แดงสี ดูแล้วค่อนข้างรุนแรงเกินไปที่ได้รับเหลืองที่สองเนื่องจากมันเป็นจังหวะต่อเนื่องในการขึ้นโหม่ง ส่วนในกรณีของ สรรวัชญ์ เดชมิตร ถามว่าสมควรโดนไหม พูดกันตรงๆ สมควรครับ เนื่องจากลูกนั้นเจ้าแคมป์ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย บอลมาทางไหนก็เตะออกไปทางนั้น จนทำให้ไปโดนซุ้มม้านั่งสำรองของเชียงราย จนทำให้ถูกไล่ออกไป และสุดท้าย ทางด้านของ เอกชัย สำเร มันเป็นจังหวะการฟาวล์ที่เขาเรียกกันว่า ไม่มีทางเลือกเพราะจะต้องตัดเกมในจังหวะนั้นประจวบกับเป็นกองหลังตัวสุดท้าย ก็ต้องยอมรับไปโดยปริยาย

มองในส่วนของเกมรุก แน่นอนในปีนี้ แนวรุกแข้งเทพทำงานกันอย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากในลีก เป็นทีมที่ยิงเยอะที่สุดในไทยลีก 97 ประตู เรียกได้ว่าเป็นทีมที่เล่นเอ็นเตอร์เทนแฟนบอลได้เป็นอย่างดี เกมรุกในช่วงต้นเกมพูดได้เลยว่า ดูดีมีระดับอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะลูกต่อบอลสวย ๆ ในหลาย ๆ จังหวะ จนทำให้มีโอกาสขึ้นนำไปก่อน แต่ทว่าพวกเขาไม่สามารถจบสกอร์ในลูกที่สองได้ จึงทำให้กว่างโซ้ง สามารถตีเสมอได้ ในส่วนของเกมรับ ในความรู้สึกของผมผมคิดว่า แข้งเทพ ต้องรีบหาเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ตัวใหญ่ไว้ใจได้สัก 1 คน และผู้รักษาประตูมือดีในประเทศไทย หรือจะเป็นโควตาอาเซียนมาประจำการเฝ้าบ้านอีก 1 คน เนื่องจากว่าในแมตช์นี้ เห็นได้ชัดเจนจากลูกที่ทีมเสียประตู เกมในลีกปีนี้ แข้งเทพ เป็นเทพที่ยิงได้เยอะ แต่ก็เสียประตูไม่น้อยโดยเสียไป 57 ประตู เมื่อเทียบกับบิ๊กทีมอื่น ๆ

ผมเคยได้ยินประโยคหนึ่งที่เกี่ยวกับเกมฟุตบอล และผมรู้สึกว่ามันเหมาะกับทีมแข้งเทพในเวลานี้ ประโยคนั้นคือ “เกมรุกทำให้เราเป็นผู้ชนะ…แต่เกมรับมันทำให้เราเป็นแชมป์”

 

  1. เชียงราย ยูไนเต็ด

ก่อนแมตช์นี้ กว่างโซ้งฯ มีแมตช์กลางสัปดาห์ชิงแชมป์ลีกคัพ กับกิเลนผยอง แต่ทว่าดูจากการวางตัวของ กุนซือกาม่า เห็นได้ชัดว่าแมตซ์นี้มีความสำคัญมากกว่า เนื่องจากการจัดตัวผู้เล่น และในแมต์ที่แล้ว หลังจากโดนนำ 2-0 ก็จัดการเลือกเก็บตัวผู้เล่นสำคัญๆ อย่าง ศิวกร และ ฐิติพันธ์ เพื่อมาเล่นในเกมที่จะต้องพบกับบียู และที่สำคัญในเกมนี้ กาม่า เลือกใส่ชื่อของ วานเดอร์ หลุยส์ ศูนย์หน้าชาวบราซิเลียน ลงสนามเป็นตัวจริง ซึ่งนัดกลางสัปดาห์เขาไม่ได้ลงสนาม ในส่วนของเกมรุก ผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดแน่นอนหนีไม่พ้น ศูนย์หน้าหมายเลข 10 ของทีม วานเดอร์ หลุยส์ ในแมตช์นี้ ทำ 2 ประตู และเป็น 2 ประตูสำคัญที่ช่วยพาทีมจบ 90 นาที คว้าแชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ และได้โควตาไปเล่นรอบเพลย์ออฟศึก ACL ในซีซั่นหน้า ในส่วนของเกมรับ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ อาทิตย์ ดาวสว่าง ในแมตช์นี้ไม่ได้ลงสนามเนื่องจากติดโทษแบน กาม่า ตัดสินใจส่ง ชินภัทร ลีเอาะ ลงทำหน้าที่แทน โดยรวมแล้ว กองหลังชุดแชมป์ซีเกมส์ 2017 ทำหน้าที่ได้ดีในการหยุดเกมรุกของแข้งเทพ หากมองลึกลงไปที่อายุของตัวผู้เล่นในทีม จะเห็นได้เลยว่า กว่างโซ้ง เป็นทีมแห่งอนาคต เนื่องจากว่า มีผู้เล่นที่อายุน้อยกว่า 25 ปี ในทีมหลายคนอีกด้วย

 

 

 

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้