รีเซต
TRUE OPINIONS : หลี่ หย่งหง กับอนาคตของ "เอซี มิลาน" ... by "อ.เอี่ยม"

TRUE OPINIONS : หลี่ หย่งหง กับอนาคตของ "เอซี มิลาน" ... by "อ.เอี่ยม"

TRUE OPINIONS : หลี่ หย่งหง กับอนาคตของ "เอซี มิลาน" ... by "อ.เอี่ยม"
kentnitipong
1 ธันวาคม 2560 ( 18:10 )
3K

TRUE OPINIONS : สวัสดีครับแฟนบอล และแฟนกีฬา TrueID Sports ทุกท่าน กลับมาพบกันอีกเช่นเคยครับ จริงๆ แล้วช่วงนี้มีประเด็นเรื่องของฟุตบอลให้พวกเราได้ติดตามกันพอสมควร และหนึ่งในประเด็นที่ผมจะเก็บมาฝากพี่น้องทุกท่านก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องผลงานที่ไม่ค่อยสู้ดีนักของยักษ์หลับแห่งแดนมะกะโรนีอย่าง เอซี มิลาน ที่ทุ่มทุนไปมหาศาลในฤดูกาลนี้ แต่ปัจจุบันยังรั้งได้แค่เพียงอันดับ 7 ของตารางกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ตามหลังจ่าฝูง นาโปลี ถึง 18 แต้ม แถมยังมีการเปลี่ยนแปลงในทีมอีกพอสมควร

 

 

ซึ่งเชื่อได้เลยว่าแฟนบอลมิลานคงผิดหวังกันไม่น้อย และเริ่มมีคำถามในใจเกี่ยวกับอนาคตของทีมในยุคของประธานคนใหม่ที่เคยให้สัญญาว่าจะใช้เงินมหาศาลที่เขามีนำพาสโมสรกลับมายิ่งใหญ่ให้ได้อีกครั้ง

คำถาม คือ เขาคนนี้ร่ำรวยตามคำอวดอ้างจริงหรือไม่ ?

 

 

ใช่ครับ… วันนี้ผมจะพาไปรู้จักกับ หลี หย่งหง ประธานสโมสร เอซี มิลาน คนปัจจุบัน

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายน กลุ่มทุน รอสโซเนรี่ สปอร์ต อินเวสต์เมนต์ (Rossoneri Sport Investment) นำโดยบุรุษจากจีนนามว่า หลี หย่งหง เข้ามาซื้อหุ้นของสโมสร เอซี มิลาน ต่อจาก ซิลวิโอ้ แบร์ลุสโคนี่ จำนวน 99.93 เปอร์เซ็นต์ ด้วยสนนราคาถึง 860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.8 หมื่นล้านบาท) ซึ่งถือเป็นสถิติการลงทุนในธุรกิจฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงที่สุดของประเทศจีนเลยทีเดียว

ด้วยการลงเม็ดเงินมหาศาลระดับนี้ แต่เชื่อไหมครับว่าแฟนบอลชาวอิตาเลียนแทบไม่มีใครเคยได้ยินชื่อของ หลี หย่งหง มาก่อน

แต่นี่ยังไม่น่าแปลกใจเท่ากับการที่แม้กระทั่งคนจีนเองก็แทบจะไม่มีใครรูจักชื่อของเขาเช่นกัน !

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า หลี หย่งหง ไม่เคยมีชื่อติดอยู่ในทำเนียบมหาเศรษฐีคนร่ำรวยของสาธารณรัฐประชาชนจีนเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้กระทั่งเรื่องที่เขาชี้แจงทรัพย์สินให้กับบอร์ดบริหารฟุตบอลของอิตาลีสมัยที่จะเข้าเทคโอเวอร์ เอซี มิลาน ว่าเขาร่ำรวยจากธุรกิจการทำอาณาจักรเหมืองแร่ในจีนนั้นกลับกลายเป็นว่าในวงการธุรกิจเหมืองแร่แทบไม่มีใครรู้จักชื่อของเขาเช่นกัน

สืบเนื่องจากเรื่องนี้ หน่วยงานตรวจสอบธุรกิจของจีน รายงานว่า อาณาจักรเหมืองแร่ที่ หลี หย่งหง อ้างว่าเขาเป็นเจ้าของธุรกิจนั้น แท้จริงแล้วถูกลงทะเบียนในชื่อผู้อื่น แถมออฟฟิศของบริษัทนั้นกลับว่างเปล่า เท่านั้นยังไม่พอที่ประตูของออฟฟิศยังมีป้ายปิดประกาศจากเจ้าของที่ดินว่า “ค้างค่าเช่า” ซึ่งพอเรื่องแดงขึ้นมาทางโฆษกของ เอซี มิลาน รีบออกมาชี้แจงแบบเลี่ยงบาลีว่า หลี หย่งหง ได้ผ่านการตรวจสอบจากฝ่ายกฎหมาย และธนาคารเรียบร้อยแล้วก่อนเข้ามาบริหารสโมสร

เหมือนเป็นการสุมเชื้อไฟให้ลุกโพลง เมื่อฝั่งตรวจสอบของจีนเพิ่มหลักฐานความน่าสงสัยในตัว หลี หย่งหง เมื่อหลักฐานชิ้นสำคัญแสดงให้เห็นว่า อาณาจักรเหมืองแร่ที่หลี หย่งหง อ้างว่าเขาเป็นเจ้าของนั้น ดันมีการผลัดเปลี่ยนมือถึง 4 คนในรอบปีที่ผ่านมา โดย 2 ใน 4 คนนั้นมีการเปลี่ยนมือกันโดยที่ไม่มีการซื้อขายสักหยวนเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกสำหรับการทำธุรกิจที่ใสสะอาด

และแน่นอน หลี หย่งหง ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยที่โฆษกเจ้าเดิมออกมาปกป้องประธานของเขาเช่นเคย โดยให้เหตุผลว่า หลี หย่งหง มักจะตกเป็นเหยื่อในเกมการเมืองและธุรกิจและด้วยนิสัยที่ไม่ค่อยคิดซับซ้อนเรื่องกฎหมายต่างๆอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดในตัวประธานสโมสร

แล้วเขาเอาเงินจากไหนมาเทคโอเวอร์ เอซิ มิลาน…

 

 

จากการเปิดเผยของ มาร์โก ฟาซโซเน่ ผู้บริหารของ เอซี มิลาน ให้สัมภาษณ์ว่า เงินกว่า 1 ใน 3 (ราว 354 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่ใช้เทคโอเวอร์มาจากการกู้ยืมจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ เอลเลียต แมเนจเม้นท์ โดยกู้มาในนามบริษัทของ หลี หย่หง ที่เพิ่งจดทะเบียนที่หมู่เกาะบริติช เวอร์จิ้น และลักซัมเบิร์ก โดยที่เงินดังกล่าวจะต้องใช้คืนภายในเดือนตุลาคม 2018

ด้วยเวลาที่จำกัดในการคืนเงินที่กู้มา เอซี มิลาน ภายใต้การบริหารงานของ หลี หย่งหง เลือกที่จะเพิกเฉยต่อหนี้สินเหล่านั้น แต่กลับทุ่มเงินถึง 274 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.9 พันล้านบาท) เพื่อซื้อตัว 11 ผู้เล่นเข้ามาเสริมทีมส่งผลให้ เอซี มิลาน กลายเป็นหนึ่งในสโมสรที่ใช้เงินมากที่สุดของทวีปยุโรปในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา

เหมือนจะดูดีสำหรับความร่ำรวยของ หลี หย่งหง แต่สถานะทางการเงินของเขาถูกตั้งคำถามอีกครั้งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ เอซี มิลาน ยื่นข้อเสนอซื้อตัว 2 ผู้เล่น (ไม่เปิดเผยชื่อ) เข้ามาเสริมทัพแต่ดันถูกตรวจพบปัญหาเรื่องการเงิน และโอนเงินล่าช้าไปยังต้นสังกัดของนักเตะทั้ง 2 ราย แต่สุดท้าย เอซี มิลาน ก็สามารถปิดดีลพร้อมการรีไฟแนนซ์หนี้สินได้อย่างทุลักทุเล

เมื่อมีคนเริ่มตั้งคำถาม คราวนี้ท่านประธาน หลี หย่งหง รีบออกมาประกาศว่าสถานะทางการเงินของเขาไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะเขายังมีเหมืองแร่ฟอสเฟตในเมืองฝูฉวน มณฑลกุ้ยโจว ไว้ในการครอบครอง และสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาล

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด หน่วยงานตรวจสอบของจีนเจ้าเดิม ได้งัดหลักฐานออกมาแฉทันทีว่า เหมืองแร่ฟอสเฟตที่ หลี หย่งหง อ้างถึงนั้น แท้จริงแล้วถูกบริหารงานโดยกลุ่มกว่างตง ไลออน แอสเซ็ต แมเนจเม้นท์ ที่ก่อตั้งโดย 2 นักธุรกิจตระกูลหลี  คือ หลี ซั่งปิง และ หลี ซ่างซง ซึ่งเป็น 2 บุคคลที่ หลี หย่งหง อ้างว่าเป็นครอบครัวเดียวกันกับเขา แต่ภายหลัง หลี ซั่งปิง กลับให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่รู้จักกับ หลี หย่งหง หักหน้าท่านประธานแห่งเมืองมิลานซะอย่างนั้น

แล้วสรุป 2 คนนี้ รู้จักกันหรือไม่ ?

 

 

เพื่อแฟนมิลาน เรื่องนี้ผมต้องขุดให้ลึก โดยเมื่อเดือน พฤษภาคม 2016 หลี ซั่งปิง จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท Sino-Europe Sports Asset Management Changxing Company และ 2 วันหลังจากบริษัทของเขาผ่านการตรวจสอบ ดันมีบุคคลลึกลับอีกคนไปจดทะเบียนบริษัทในชื่อคล้ายกันคือ Sino-Europe Sports Investment Management Changxing Company ที่สำคัญที่อยู่ในใบจดทะเบียนของทั้ง 2 บริษัทดันอยู่ในตึกเดียวกันที่เมืองหูโจว มณฑลเจ้อเจียง ซะงั้น!

สุดท้ายอย่างที่เราทราบกันครับ กลายเป็นกลุ่มบริษัท Sino-Europe Sports Investment ที่ถูกลอกคราบไปใช้ชื่อกลุ่มบริษัท รอสโซเนรี่ สปอร์ต อินเวสต์เมนต์  (Rossoneri Sport Investment) เข้ามาบริหาร เอซี มิลาน ภายใต้หัวใหญ่ชื่อ หลี หย่งหง

หลังเหตุการณ์ดังกล่าว สื่อจีนติดต่อสัมภาษณ์ หลี ซั่งปิง ทางโทรศัพท์ เขาตอบเพียง 2 คำถาม ด้วยการปฏิเสธในเรื่องการจัดตั้งบริษัท Sino-Europe และย้ำว่าเขาไม่มีส่วนได้เสียอะไรใน เอซี มิลาน อีกด้วย

ส่วนออฟฟิศหรูหราของบริษัทกว่างตง ไลออน ที่ หลี หย่งหง อ้างว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้บริหารนั้น สื่อจีนรายงานว่าถูกปล่อยให้ทิ้งร้างพร้อมป้ายปิดประกาศการไล่ที่หน้าประตูทางเข้า เก้าอี้ที่ระเกะระกะ รวมทั้งฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์ที่หายไป ยังไม่รวมถึงหนอนที่ไต่ยั้วเยี้ยในถังขยะเต็มไปหมด

ความเคลือบแคลงในความร่ำรวยของ หลี หย่งหง ยังไม่จบแค่นี้ หน่วยงานตรวจสอบของจีนได้เผยแพร่ว่าเขามีคดีติดตัวพอสมควร

ปี 2013 หน่วยงานหลักทรัพย์ของจีน สั่งปรับเงิน หลี หย่งหง จำนวน 2.9 ล้านบาท ในข้อหาหลบเลี่ยงการส่งรายงานการขายหุ้นมูลค่าราว 1.6 พันล้านบาท

ย้อนกลับไปอีกนิด ปี 2011 หลี หย่งหง อ้างตัวว่าเป็นผู้บริหารของบริษัทการบินแกรนด์ ดราก้อน หลังจากนั้นไม่นานสายการบินดังกล่าวออกมาปฏิเสธว่า หลี หย่หง ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัททั้งในอดีต และปัจจุบัน

หนักที่สุดคือปี 2004 บริษัทกว่างตง กรีน ริเวอร์ ในการบริหารงานของครอบครัว หลี หย่งหง ถูกจับกุมในข้อหาต้มตุ๋นนักลงทุนกว่า 5,000 ราย เป็นเงินกว่า 2 พันล้านบาท เป็นเหตุให้พ่อกับน้องชายของเขาถูกจับเข้าคุกทันที ส่วน หลี หย่งหง รอดตัวเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ

ศึกหนล่าสุดยังประดังเข้าหา หลี หย่งหง ไม่สิ้นสุด เมื่อ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ประกาศก้องในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 19 ที่ผ่านมา ว่า จีนจะเร่งรัดและควบคุมการออกเงินกู้ให้กับนักธุรกิจที่จะนำเงินไปลงทุนกับทีมฟุตบอลในต่างประเทศ โดยเฉพาะรายที่กู้ไปแล้วจะต้องรีบนำเงินมาคืนให้เร็วที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าถึงแม้ สี จิ้นผิง จะไม่เจาะจงว่าเป็นใคร แต่ทุกสื่อของจีนทราบกันดีว่าเขาหมายถึง หลี หย่งหง ที่กู้เงินจากธนาคารจีนจำนวนมหาศาลไปลงทุนกับยอดทีมแห่งเมืองมิลานนั่นเอง

 

ครั้งหนึ่ง เอซี มิลาน เคยครองความเป็นเต้ยในวงการลูกหนังโลกมาร่วม 30 ปี

ขอบคุณภาพ : Fanatik

 

อนาคตของ เอซี มิลาน ภายใต้การบริหารงานของ หลี หย่งหง ยังคงเป็นคำถามต่อไปว่าเขาจะนำพายักษ์หลับให้ตื่นตามคำมั่นสัญญาได้หรือไม่ โดยเฉพาะประวัติและสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีนักของเขาเองในขณะนี้

ผมในฐานะแฟนฟุตบอลคนหนึ่งก็ได้ภาวนาให้สาวกมิลานนิสต้าทุกท่านผ่านมรสุมลูกใหญ่นี้ไปให้ได้ และเฝ้ารอ “ปีศาจแดง ดำ” ให้กลับมาผงาดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในเวทียุโรปครับ

 

“อ.เอี่ยม”

 

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ