รีเซต
TRUE TALK : รู้จัก 4 นักเทนนิสสาวลุยศึก "อินเตอร์คอนติเนนตัล เวิลด์ เทนนิส ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017" ... by "บก.เก้น"

TRUE TALK : รู้จัก 4 นักเทนนิสสาวลุยศึก "อินเตอร์คอนติเนนตัล เวิลด์ เทนนิส ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017" ... by "บก.เก้น"

TRUE TALK : รู้จัก 4 นักเทนนิสสาวลุยศึก "อินเตอร์คอนติเนนตัล เวิลด์ เทนนิส ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017" ... by "บก.เก้น"
kentnitipong
13 ธันวาคม 2560 ( 17:24 )
519

TRUE TALK : ถือเป็นข่าวดี (มากๆ) สำหรับแฟนกีฬาชาวไทย และคอเทนนิสทั่วทั้งเอเชีย ที่บ้านเรากำลังจะมีอีกหนึ่งทัวร์นาเม้นต์กีฬารายการใหญ่ส่งท้ายปี อย่าง “อินเตอร์คอนติเนนตัล เวิลด์ เทนนิส ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017” ณ ทรู อารีน่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

 

โดยการแข่งขันครั้งนี้ เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งวงการลูกสักหลาด เพราะนักกีฬาแต่ละคนที่ตัดสินใจตบเท้าเข้าร่วมแข่งขันในรายการนี้ ล้วนแต่เป็นมือดังระดับท็อป (ติด 1 ใน 10) ของโลกทั้งสิ้น ซึ่งนักเทนนิสหญิงระดับโลก 4 คนที่เข้าร่วมแข่งขันนั้นประกอบด้วย โจฮันน่า คอนต้า มืออันดับ 9 ของโลกจากสหราชอาณาจักร , เยเลน่า ออสตาเพนโก้ มือ 7 ของโลกจากลัตเวีย เจ้าของแชมป์แกรนด์ สแลม รายการ เฟร้นช์ โอเพ่น 2017,  แคโรลิน่า พลิสโคว่า มือ 4 ของโลกจากสาธารณรัฐเช็ก อดีตรองแชมป์ ยูเอส โอเพ่น และ ซิโมน่า ฮาเล็ป มือ 1 ของโลกจากโรมาเนีย

เพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสในการติดตาม “อินเตอร์คอนติเนนตัล เวิลด์ เทนนิส ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017” มากยิ่งขึ้น วันนี้ผมขออาสาพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับสี่สาวนางฟ้าแห่งวงการเทนนิสที่เข้าแข่งขันในรายการนี้ โดยคนแรกผมขอเริ่มต้นที่ “โจฮันน่า คอนต้า” นักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งของสหราชอาณาจักร ณ เวลานี้

 

 

โจฮันน่า เดิมทีจริงๆ แล้วเกิดที่ ออสเตรเลีย (ซิดนีย์) ครับ แต่ทว่าพื้นเพดั้งเดิมของครอบครัว คอนต้า นั้นอพยพมาจาก ฮังการี ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายมายังอังกฤษเมื่อเธออายุได้ 14 ปี ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เธอนั้นก้าวสู่การเล่นเทนนิสแบบเต็มตัว

นอกจากนี้ต้องบอกเลยว่าเจ้าตัวมีสายเลือดนักกีฬาอยู่ในตัวเต็มเปี่ยม เนื่องจากคุณตาของ โจฮันน่า อย่าง “ทามาส เคอร์เตซ” นั้นเคยพกดีกรีถึงการเป็นแข้ง “แม็กยาร์” หรือทีมชาติฮังการียุครุ่งเรืองมาแล้ว รวมถึงเคยเป็นโค้ชทีมชาติกาน่าอีกด้วย ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ โจฮันน่า จะสามารถก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเลือดของความเป็นนักสู้ และความมุ่งมั่นตามแบบฉบับ “แม็กยาร์”

โจฮันน่า เริ่มต้นการเทิร์นโปรในปี 2008 และสามารถประเดิมโทรฟี่แชมป์แรกของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF) ได้ทันทีตั้งแต่ก่อนฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ 17 ซะด้วยซ้ำ (มอสทาร์, บอสเนียฯ) ก่อนจะค่อยๆ ขยับทำอันดับขึ้นมากว่า 300 อันดับในปี 2009 จนสื่อต่างประเทศต้องหันมามองกันควับถึงความร้ายกาจของดาวรุ่งเมืองผู้ดีรายนี้

แม้เจ้าตัวจะมีฟอร์มสะดุดไปบ้างในปี 2010 แต่สุดท้ายด้วยความอดทน โจฮันน่า เอาชนะใจ และทลายกำแพงของตัวเองลงได้สำเร็จหลังจากผงาดขึ้นมาติด Top 50 ได้ภายในปี 2015 จนได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลนักเทนนิสที่มีพัฒนาการยอดเยี่ยมของ WTA ในปีดังกล่าว

ต้องยอมรับว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลา “ขาขึ้น” ของโจฮันน่า อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในปี 2017 ที่เจ้าตัวสามารถคว้าแชมป์ WTA มาครองได้ถึงสองรายการ ไล่มาตั้งแต่การคว่ำอดีตรองแชมป์วิมเบิลดันอย่าง อั๊กเนียสก้า รัดวานสก้า ในศึก 2017 Apia International Sydney ต่อด้วยการไล่ทุบกระดูกชิ้นโตทั้ง ซิโมน่า ฮาเล็ป, วีนัส วิลเลี่ยมส์ ก่อนปิดฉากได้อย่างสวยงาม หลังเอาชนะ แคโรไลน์ วอซเนี้ยคกี้ (มือ 3 ของโลก) ได้ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์ ไมอามี่ โอเพ่น มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญในชีวิตการเล่นเทนนิสของเธอที่ได้รับการกล่าวขวัญจากแฟนเทนนิสทั่วโลกนั่นก็คือการที่ โจฮันน่า สามารถสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักหวดลูกสักหลาดหญิงจากสหราชอาณาจักรคนแรกในรอบ 39 ปีที่ผ่านเข้าถึงรอบเซมิไฟน่อลศึกแกรนด์สแลม อย่าง วิมเบิลดัน ได้หลังจากที่หวดเอาชนะมือหนึ่งของโลกอย่าง ซิโมน่า ฮาเล็ป เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา

 

 

จุดเด่นที่สื่อต่างประเทศต่างยกให้เป็นอาวุธเด็ดของ โจฮันน่า คอนต้า นั่นคือ ลูกเสิร์ฟอันหนักหน่วง (1st Serve points won อยู่ที่ 70.3 %) บวกกับเล่นอันดุดัน และรวดเร็ว ถือเป็นสไตล์ที่แม้กระทั่งโค้ชของ เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ เองก็ยังเคยพูดถึงเธอในทำนองว่า นี่คือนักเทนนิสที่รับมือได้ยาก และกำลังก้าวขึ้นมาเป็นนักหวดแถวหน้าอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจสำหรับนักเทนนิสสาวหมายเลขหนึ่งแห่งสหราชอาณาจักรรายนี้ก็คือ โจฮันน่า มีสถิติ Head to Head ที่ดีเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็นการดวลกับ ซิโมน่า ฮาเล็ป (ชนะ 3 แพ้ 1) เยเลน่า ออสตาเพนโก้ (ชนะ 1 ครั้ง) จะมีเพียงแค่ แคโรลิน่า พลิสโคว่า เท่านั้นที่ทำผลงานได้เหนือกว่าเธอยามพบกัน (ชนะ 1 แพ้ 5)

เรียกได้ว่า โจฮันน่า คอนต้า  คือม้ามืดตัวจริงสำหรับการแข่งขันในรายการนี้ ณ ทรู อารีน่า หัวหิน

 

***********

 

 

นักเทนนิสคนต่อมาที่ผมจะพูดถึงนั่นก็คือ “เยเลน่า ออสตาเพนโก้” นักหวดมือ 7 ของโลกจาก ลัตเวีย ประเทศเล็กๆ ที่ติดทะเลบอลติก ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป ซึ่งไม่น่าเชื่อประเทศที่มีประชากรเพียง 2 ล้านคนเศษ (2016) จะสามารถผลิตนักกีฬาฝีมือดีให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกไล่มาตั้งแต่ มาริส สตรอมเบิร์กส์ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกสองสมัยติด จากการแข่งขันจักรยานประเภท BMX พ่วงด้วยแชมป์โลกอีก 2 สมัย ขณะที่ คริสตัปส์ พัวร์ซิงกิส เองก็ถือเป็นนัดยัดห่วงชั้นแนวหน้าที่เล่นให้กับ นิวยอร์ค นิกส์ ในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ ด้วยส่วนสูงที่มากถึง 7 ฟุต 3 นิ้ว (2.21 เมตร)

นอกจากนี้ มาเรียนส์ ปาฮาร์ส ก็ยังเคยฝากผลงานให้แฟนบอลพรีเมียร์ลีกได้คิดถึง จากผลงานที่ทำไว้ให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน (137 นัด / 43 ประตู) ช่วงปลาย 90’s จนถึงกลางยุคมิลเลนเนียม

เถลไถล ไปซะนาน กลับมามาที่นักเทนนิสมากฝีมือคนนี้กันต่อครับ คือผมต้องบอกก่อนว่า จริงๆ แล้ว จุดเริ่มต้น หรือเส้นทางชีวิตของ เยเลน่า ออสตาเพนโก้ นั้นแลดูจะแตกต่างออกไปจากนกเทนนิสคนอื่นอย่างสิ้นเชิงครับ  เพราะเป้าหมายแรกของเธอนั้นไม่ใช่การเป็นนักเทนนิส แต่กลับเป็น “นักเต้น” ทั้งที่ๆ ตัวเธอเองก็ถือเป็นก็มีสายเลือดนักกีฬาอยู่เต็มเปี่ยม จาก คุณพ่อซึ่งเคยเป็นอดีตนักเตะของ เอฟซี เมธาลู ซาโปริซย่า ทีมฟุตบอลเก่าแก่ในยูเครน

แม้ว่าเธอจะก้าวเข้าสู่โลกของการเต้นตั้งแต่ 5 ขวบ และฝึกปรือทักษะอย่างจริงจังจนเคยเข้าแข่งขันในรายการระดับประเทศ อย่าง ลัตเวีย แชมเปี้ยนชิพ มาแล้ว แต่ทว่าสุดท้าย สาวน้อยจาก ริก้า ผู้นี้ กลับตัดสินใจเบนเข็มเลือก เทนนิส เป็นเส้นทางใหม่อันน่าท้าทายด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า “เทนนิส ตอบโจทย์ของชีวิต”

“จริงอยู่ที่ฉันอาจจะเริ่มต้นการเต้นมาตั้งแต่ยังเด็ก แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องตัดสินใจเลือกอะไรสักอย่าง แน่นอน ฉันตัดสินใจเลือกเทนนิสอย่างไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉันชอบมันมากกว่า และมั่นใจว่าจะทำได้ดีอย่างแน่นอน”

แชมป์ “จูเนียร์ วิมเบิลดัน” ในปี 2014 ถือเป็นจุดเริ่มต้นอันยอดเยี่ยมที่ เยเลน่า ได้ฉายแววให้ทุกคนได้เห็นว่า สาวน้อยจากลัตเวียรายนี้ คืออนาคตอันสดใสในวงการลูกสักหลาด การไต่อันดับโลกจาก 308 สู่ อันดับ 7 ของโลกด้วยระยะเวลาแค่ 4 ปี กับวัยเพียงแค่ 20 ปี ย่อมเป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นดีที่ เยเลน่า ออสตาเพนโก้ ฝากไว้ให้กับ WTA

แต่ความสำเร็จตั้งแต่วัยเด็กนั้นไม่เพียงพอที่จะเติมเต็มความกระหายในชัยชนะของเธอได้ นักหวดสาวเลือดลัตเวียเลือกที่จะเดินหน้าล่าโทรฟี่แชมป์ต่อ ด้วยการฝึกซ้อมอย่างหนัก บวกกับความมุ่งมั่น ทำให้เธอเริ่มฉายแววความเป็นซูเปอร์สตาร์อีกครั้งหลังโชว์ฟอร์มเก่งด้วยการผ่านเข้าชิงเทนนิสรายการใหญ่ไล่มาตั้งแต่ที่ ควิเบค (แคนาดา), ชาร์ลส์ตัน ใน เซาธ์ แคโลไลน่า (สหรัฐอเมริกา) และที่ โดฮา ประเทศกาตาร์

 

 

แต่นั่นยังคงไม่น่าจดจำเท่ากับเหตุการณ์ที่ทำให้เธอดังเป็นพลุแตก นั่นคือ การคว่ำนักเทนนิสหญิงที่ว่ากันว่าดีที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้อย่าง ซิโมน่า ฮาเล็ป (ที่เดินทางมาร่วมแข่งขันในรายการนี้ด้วย) ในศึกโรล็องด์ การ์โรส 2017 หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ “เฟร้นช์ โอเพ่น”

เพราะในแมตช์นั้น สาวน้อยจาก ริก้า วัย 20 ปีสวมบทหัวใจสิงห์หลังจากตามหลัง ฮาเล็ป ก่อนในเซ็ตแรก ด้วยการงัดไม้ตายอย่างลูกวินเนอร์กว่า 54 ครั้งในไฟน่อลแมตช์  : 299 ครั้ง ตลอดทัวร์นาเม้นต์ (ขอบคุณข้อมูลจาก BBC) คอยถล่มนักหวดสาวจากโรมาเนียจนเสียกระบวนท่า สุดท้ายเป็น เยเลน่า ออสตาเพนโก้ ที่หักปากกาเซียนคว้าแชมป์แกรนด์สแลมสมัยแรกไปครองอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับการจารึกชื่อตัวเองเข้าไปอยู่ในทำเนียบประวัติศาสตร์ว่าเป็นนักเทนนิสมือไร้อันดับคนแรกที่คว้าแชมป์เฟร้นช์ โอเพ่น นับตั้งแต่ที่ มาร์กาเร็ต สคริเว่น (สหราชอาณาจักร) ทำได้ในปี 1933

“เพราะเกมรุก คือเกมรับที่ดีที่สุด” นั่นคือปรัชญาที่นักหวดสาววัยเพียงแค่ 20 ปีรายนี้ ยืนกรานกับทุกๆ คนว่านี่คือ คาแรคเตอร์ของเธอ ดังนั้นเชื่อได้เลยว่าว่า ออสตาเพนโก้ น่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจแฟนเทนนิสทั่วทั้งเอเชียทุกสายตาที่พร้อมจะโฟกัสมาที่รายการ “อินเตอร์คอนติเนนตัล เวิลด์ เทนนิส ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017” อย่างแน่นอน

 

***********

 

 

เดินทางมาถึงคนที่สามแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเธอคนผู้เล่นที่แฟนๆ รู้จักกันเป็นอย่างดี แถมยังเคยมีดีกรีถึงการขึ้นแท่นตำแหน่งมือหนึ่งของโลกถึง 7 สัปดาห์ และเธอคนนั้นคือ … แคโรลิน่า พลิสโคว่า” นักหวดสาวมือ 4 ของโลกจากสาธารณรัฐเช็ก

พาสต้า, พับลิค เอเนมี่ (ภาพยนตร์), เพลงป็อปฟังสบาย และหนังสือทุกเล่มจากปลายน้ำหมึกของ เปาโล โคเอลโญ่ คือสิ่งที่ช่วยทำให้เธอผ่อนคลายในยามว่างหลังกรำศึกหนักบนคอร์ทเทนนิส จนบางครั้งผมเองก็แอบคิดว่า หรือนี่อาจจะเป็นกุนแจสำคัญนอกเหนือไปจากการฝึกซ้อมที่ทำให้ พลิสโคว่า โชว์ผลงานได้อย่างสม่ำเสมอตลอดช่วง 5 ปีหลังสุด

เจ้าของส่วนสูงถึง 6 ฟุต 1 นิ้ว (186 เซนติเมตร) รายนี้ถือเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่มาจากครอบครัวนักกีฬา เพราะว่าฝาแฝดของเธออย่าง  คริสติน่า พลิสโคว่า เองก็เป็นนักเทนนิสสาวที่ลงแข่งในระดับ WTA อยู่ด้วยเช่นกัน (มือวางอันดับ 62 ของโลก)

ฝาแฝดพลิสโคว่าได้รับการจับตามองจากเหล่ากูรูในวงการเทนนิสอย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่ที่ทั้งสองสามารถคว้าแชมป์แกรนด์ สแลม ในรุ่นจูเนียร์ได้ทั้งสองคน โดย แคโรลิน่า นั้นคว้าแชมป์ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น 2010 ขณะที่ คริสติน่า นั้นก็ไม่ยอมน้อยหน้า หลังไปซิวแชมป์รายการที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง วิมเบิลดัน มา เรียกได้ว่า ทั้งสองคือคู่ดูโอดาวจรัสแสง ณ ขณะนั้นอย่างแท้จริง

กลับมาที่ แคโลลิน่า กันต่อครับ หลังจากที่เปิดหัวได้อย่างสวยหรู นักหวดสาวจากเช็กรายนี้มุ่งหน้าสู่เวทีใหญ่ครั้งแรกกับ เฟร้นช์ โอเพ่นในปี 2012 แต่ทว่าด้วยกระดูกเทนนิสที่ยังไม่แข็งแรงนัก บวกกับการถูกจับไปชนกับมือวางอันดับ 8 ของโลกในเวลานั้นอย่าง มาริยง บาร์โตลี่ (อดีตแชมป์วิมเบิลดัน 2013) ทำให้เจ้าตัวต้องหยุดเส้นทางเอาไว้เพียงแค่รอบแรกเท่านั้น

แต่บาดแผลในครั้งนั้นไม่ได้ทำให้ไฟในตัวของ แคโรลิน่า นั่นมอดลงแต่อย่างใด แต่กลับกลายเป็นเชื้อเพลิงที่คอยโหมให้นักหวดสาวจากเช็กแกร่งขึ้นทั้งกาย และใจยิ่งกว่าเดิม ตอกย้ำถึงความเป็น “ของจริง” ของเธอ ดั่งวลีที่ว่า “เพชรก็ยังเป็นเพชรอยู่วันยังค่ำ”

พลิสโคว่า ลบล้างความผิดหวัง และเริ่มตั้งต้นใหม่ในปี 2013 ก่อนจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้ เหลือเชื่อว่าแชมป์ WTA รายการแรกในชีวิตของเธอนั้นอยู่ในแถบอาเซียนนี่เอง (มาเลเซี่ยน โอเพ่น 2013) ก่อนจะควงคู่กับฝาแฝดอย่าง คริสติน่า คว้าแชมป์ ลินซ์ โอเพ่น (ออสเตรีย) ในประเภทคู่มาครองได้อีกด้วย

 

 

หลังจากจั่วหัวคว้าโทรฟี่แรกมาครองได้แล้ว แคโรลิน่า พลิสโคว่า ก็เหมือนได้ค้นพบกับแนวทางการเล่นของตัวเอง ก่อนจะคว้าแชมป์ WTA มาครองได้ถึง 9 รายการจากทั่วทุกมุมโลก อีกทั้งยังเคยก้าวไปถึงการเป็นรองแชมป์ ยูเอส โอเพ่น  2016 แบบชนิดที่ต้องฝ่าด่านอรหันต์มาเยอะเหลือเกิน ตั้งแต่การเฉือนเอาชนะ วีนัส วิลเลี่ยมส์ ในรอบ 4 ชนิดที่ต้องลากยาวกันจนถึง Tie Break จากนั้นมาหักด่านนัดหวดตัวแม่อย่าง เซเรน่า วิลเลี่ยมส์  ในรอบรองชนะเลิศ จนมาพ่ายต่อ แองเจลิก แคร์เบอร์ ในนัดชิงไปอย่างน่าเสียดาย รวมถึงการทะลุไปถึงรอบตัดเชือกรายการแกรนด์ สแลม เคลย์คอร์ท อย่าง เฟร้นช์ โอเพ่น (แพ้ ซิโมน่า ฮาเล็ป มือ 1 ของโลกในปัจจุบัน)

ทั้งหมดนี้ล้วนแต่การันตีได้ถึงความสม่ำเสมอในเรื่องของฟอร์มการเล่น จนในที่สุดวันที่เธอรอคอยก็มาถึง…

วันที่ 17 กรกฎาคม 2017 ทาง WTA ได้ประกาศแรงกิ้งนักเทนนิสหญิงประจำสัปดาห์ ซึ่งปรากฎว่าผู้ที่ก้าวขึ้นมาครองบัลลังก์ราชินีแห่งวงการเทนนิสคนใหม่นั้นคือ แคโรลิน่า พลิสโคว่า นั่นเอง นั่นคือจุดสูงสุดของการเล่นเทนนิสอาชีพครั้งหนึ่งในชีวิตของเธอ และถึงแม้ว่าเธอเองจะหล่นมาอยู่ในมือวางอันดับ 4 ณ ปัจจุบัน แต่ขึ้นชื่อว่าการเคยก้าวไปถึงการเป็นนักเทนนิสหญิงมือวางอันดับ 1 ของโลกมาแล้ว ก็ย่อมเป็นดีกรีที่แสดงให้เห็นถึงฝีไม้ลายมือที่พิเศษกว่าใครของ แคโรลิน่า

ผมลืมบอกไปว่า อาวุธเด็ดที่แทบจะเป็นเครื่องหมายการค้าของเธอนั่นก็คือ “ลูกเสิร์ฟ” อันทรงพลัง ทั้งนี้จากสถิตินั้นพบว่าตัวเธอเองเสิร์ฟ ACES ไปกว่า 452 ครั้งตลอดการลงเล่น WTA ในปี 2017 ขณะที่ปี 2015 และ 2016 นักหวดสาวจากเช็กรายนี้ยังโชว์โหดด้วยการเสิร์ฟ ACES รวมกันกว่า 1,025 ครั้ง แถมยังมี 1ST SERVE POINTS WON % อยู่ที่ 72.9 % ฉะนั้น หากคู่แข่งของเธอไม่ทำการบ้านเพื่อต้านทานลูกเสิร์ฟดีๆ งานนี้มีเหนื่อยแน่นอน

การเดินทางมาลงแข่งขันในรายการ “อินเตอร์คอนติเนนตัล เวิลด์ เทนนิส ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017” น่าจะเป็นอีกหนึ่งเวทีที่เราจะมาพิสูจน์กันว่า อดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลกอย่าง แคโรลิน่า พลิสโคว่า นั้นดีพอที่จะกลับมาทวงบัลลังก์ราชินีแห่งวงการลูกสักหลาดได้รึเปล่า

***********

 

 

มาถึงนักเทนนิสสาวคนสุดท้ายที่ตัวผมเองตั้งใจจะเก็บเอาไว้ปิดท้ายสกู๊ปชิ้นนี้ แน่นอนครับ เธอคือนักเทนนิสที่มี WTA แรงกิ้งสูงที่สุดในรายการ เพราะการเดินทางมายังประเทศไทยในครั้งนี้ เธอมาในฐานะนักเทนนิสหญิงหมายเลข 1 ของโลกคนปัจจุบัน… “ซิโมน่า ฮาเล็ป” นักหวดสาวจากโรมาเนีย

แฟนกีฬาคนไทยอาจจะรู้จักประเทศโรมาเนียจากตำนานผีดิบอย่าง แดร็กคูล่า จนสื่อกีฬาบ้านเราต่างพากันเรียกทัพลูกหนังของชาติแถบยุโรปตะวันตกนี้ว่า “แข้งผีดิบ” และด้วยผลงานการผ่านเข้าไปอวดฝีเท้าในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายถึง 7 ครั้ง, การก้าวถึงรอบควอเตอร์ไฟน่อลที ่USA 94 รวมถึงแข้งใน “ยุคทอง” ของวงการฟุตบอลโรมาเนียอย่าง “มาราโดน่า แห่ง คาร์เปเธียนส์” จอร์จี้ ฮาร์จี้, จอร์จี้ โปเปสคู, อาเดรียน มูตู, แดน เปเตรสคู ส่งผลให้ ฟุตบอล ก้าวขึ้นมาเป็นกีฬาขวัญใจเบอร์หนึ่งอย่างช่วยไม่ได้

แต่หารู้ไม่ว่า นอกจากฟุตบอลแล้ว ก็ยังมี “เทนนิส” นี่แหละที่เป็นหนึ่งในกีฬายอดนิยมของชาวโรมาเนีย ทั้งนี้วัดจากการลงทะเบียนนักกีฬาของประเทศ พบว่ามีนักเทนนิสชาวโรมาเนียแห่มาลงทะเบียนกันมากกว่า 15,000 คน (เชื่อว่าปัจจุบันน่าจะเยอะกว่านี้มากๆ) อีกทั้งพวกเขายังเคยมีสุดยอดนักเทนนิสผู้เคยคว้าแชมป์แกรนด์ สแลม “เฟร้นช์ โอเพ่น” จนก้าวขึ้นแท่นมือหนึ่งของโลกเมื่อปี 1973 มาแล้วอย่าง อีลี่ นาสตาเซ่ รวมถึง เวอร์จิเนีย รูซิซี่ นักเทนนิสสาวชาวโรมาเนียผู้ไปหยิบแชมป์เฟร้นช์ โอเพ่น มาครองได้เช่นกัน

เห็นได้เลยว่า จากอดีตจนถึงปัจจุบัน วงการลูกสักหลาดโรมาเนียไม่เคยสิ้นนักเทนนิสฝีมือดี !!!

กลับมาที่ไฮไลท์ของเรากันต่อครับ ซิโมน่า ฮาเล็ป เองถือเป็นหนึ่งในนักเทนนิสพรสววรค์ เปรียบดั่งไข่มุกเม็ดงามแห่งวงการ หลังจากผงาดคว้าแชมป์เฟร้น โอเพ่น รุ่นจูเนียร์ มาครองได้ตั้งแต่ปี 2008 ด้วยการไล่หวดเอาชนะ เอเลน่า บ็อกดาน ไปสามเซตรวด

มาถึงตรงนี้ผมไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม ปารีส ถึงเป็นมหานครที่ ฮาเล็ป นั้นหลงใหล นั่นอาจจะเป็นเพราะเหตุการณ์การคว้าแชมป์เมื่อเกือบๆ 10 ปีที่แล้วก็เป็นได้

แม้ว่าจะมีแชมป์จากโรล็องด์ การ์โรส เป็นเครื่องการันตีฝีมือ แต่ใช่ว่าเส้นทางในการเล่นเทนนิสอาชีพของ ฮาเล็ป เองจะไม่เคยพบเจอกับปัญหา เพราะด้วยขนาดของสรีระหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่จนเป็นอุปสรรคในการเล่นเทนนิส ทำให้เธอต้องตัดสินใจผ่าตัดเพื่อลดไซส์ ซึ่งเธอเองก็ออกมายอมรับว่าได้เข้ารับการผ่าตัดจริง และนั่นถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญที่นักหวดสาวโรมาเนียรายนี้ถึงกับเอ่ยปากว่า “เธอกลับมาเล่นเทนนิสด้วยความมั่นใจ และความเร็วที่เพิ่มขึ้น”

พาสต้า, น้ำส้มคั้น, จัสติน เอแนง และโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ สองนักเทนนิสผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นไอดอลของเธอ คือสิ่งที่ช่วยหล่อหลอมให้ ฮาเล็ป เดินหน้าต่อในเส้นทางเทนนิส จนกระทั่งในปี 2012 ความยิ่งใหญ่ของนักหวดสาวโรมาเนียรายนี้เริ่มฉายแววชัดมากยิ่งขึ้น หลังจากที่พักฟื้นจากการผ่าตัด ซิโมน่า ฮาเล็ป เร่งฟอร์มจนสามารถก้าวขึ้นมาติด Top 50 ของโลกได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เทิร์นโปร โดยผลงานที่เด่นชัดที่สุดในปีนั้นเห็นทีคงหนีไม่พ้นการปราบอดีตมือหนึ่งของโลกอย่าง เยเลน่า แยนโควิช ตั้งแต่รอบแรก ก่อนที่ ฮาเล็ป จะไปโดน อักเนียสก้า รัดวานสก้า จับเฆี่ยนในรอบชิงชนะเลิศ แต่นั่นก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมที่ช่วยให้เธอยกระดับการเล่นขึ้นมาจนกลายมาเป็นมือหนึ่งของโลกในปัจจุบัน

ปีต่อมา ฮาเล็ป แสดงให้เห็นถึงความโหดให้กับวงการเทนนิสโลกยิ่งกว่าเดิม หลังเดินหน้าคว้าโทรฟี่แชมป์ WTA เป็นว่าเล่นถึง 6 รายการภายในปีเดียว ทำให้สุดท้ายในปีนั้น ซิโมน่า ฮาเล็ป สามารถทำอันดับทะลุขึ้นมาเกือบติด Top 10 ของโลก (จบปีนั้นด้วยการเป็นมือ 11)

คนมันจะดัง อะไรก็ฉุดไม่อยู่ เพราะถึงตรงนี้ ซิโมน่า ฮาเล็ป ได้แปลงร่างจากนักเทนนิสดาวรุ่ง สู่การเป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่มีพัฒนาการมากที่สุดในโลก การันตีได้จากรางวัลนักเทนนิสที่มีพัฒนาการมากที่สุดแห่งปี 2013 จาก WTA ซึ่งเป็นรางวัลสถาบันเดียวกับที่นักเทนนิสระดับโลกหลายๆ คนเคยสัมผัสมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น สเตฟฟี่ กราฟ, อรันซ่า ซานเชซ วิคาริโอ, โมนิก้า เซเลส, มาร์ติน่า ฮินกิส, เซเรน่า วิลเลี่ยมส์, มาเรีย ชาราโปว่า, รวมถึงไอดอลของเธออย่าง จัสติน เอแนง

 

 

เชื่อหรือไม่ว่านับตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2014 ฮาเล็ป นั้นไม่เคยหลุดจาก Top 10 แรงกิ้งของ WTA อีกเลยแม้แต่หนเดียว แถมส่วนใหญ่อันดับของเธอนั้นยังอยู่แถบๆ Top 5 เป็นอย่างน้อย ก่อนจะพีคสุดหลังก้าวขึ้นมาครองตำแหน่งนักเทนนิสหญิงมือวางอันดับ 1 ของโลก หากนับถึงตรงนี้้ก็ 10 สัปดาห์เข้าไปแล้ว

หากเรานับกันถึงวินาทีนี้ ฮาเล็ป เองสามารถคว้าแชมป์ในศึก WTA มาครองได้กว่า 15 รายการเข้าไปแล้ว ด้วยวัยเพียงแค่ 26 ปี นับได้ว่ายังมีเวลาเหลือเฟือที่จะให้นักหวดรายนี้ไล่เก็บเกี่ยวความสำเร็จ

และแม้ว่า ฮาเล็ป จะยังไม่เคยก้าวไปถึงจุดของการคว้าแชมป์แกรนด์ สแลม ได้แม้แต่รายการเดียว (ว่ากันว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะเข้ามาเติมเต็มให้เธอกลายเป็นนักเทนนิสที่สมบูรณ์แบบ) แต่ผลงานการเข้าชิง เฟร้นช์ โอเพ่น สองครั้ง (2014, 2017) รวมถึงรอบตัดเชือก วิมเบิลดัน และยูเอส โอเพ่น อีกอย่างละหน ก็น่าจะเป็นสิ่งที่บอกได้ว่า เธอคืออีกหนึ่งสุดยอดนักเทนนิสแห่งยุค และเชื่อได้เลยว่า ศึก “อินเตอร์คอนติเนนตัล เวิลด์ เทนนิส ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017” หนนี้

***********

และนี่คือกับแกล้มพอหอมปากหอมให้กับแฟนๆ เทนนิสทุกท่าน หวังว่าทุกอย่างคงจะได้ทำความรู้จักกับนักเทนนิสสาวมือระดับโลกทั้งสี่คน ที่จะมาสร้างปรากฎการณ์เทนนิสฟีเวอร์ให้กับวงการกีฬาบ้านเราอีกครั้ง

สำหรับการแข่งขันกีฬาเทนนิสรายการพิเศษระดับโลก “อินเตอร์คอนติเนนตัล เวิลด์ เทนนิส ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017” เริ่มแข่งขันกันในระหว่างวันที่ 23 – 24 ธันวาคม 2560 ณ สนามทรู อารีน่า หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รับชมการถ่ายทอดสดได้ทางช่องTrue tennis (True 670),True4U ช่่อง 24และ แอปพลิเคชั่นทรูไอดี (TrueID)

สำหรับแฟนนักกีฬาเทนนิสทั้ง 4 ท่านที่ต้องการรับชมการแข่งขันอย่างใกล้ชิดติดขอบสนาม สามารถซื้อบัตรได้ที่ www.thaiticketmajor.com ในราคาใบละ 2,500 บาท และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ 032-909-633 หรือ www.truearenahuahin.com

 

ติดตามผลการประกบคู่
อินเตอร์คอนติเนนตัล เวิลด์ เทนนิส ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017
>>> ที่นี่ <<<

 

แล้วเจอกันที่ ทรู อารีน่า หัวหิน ครับ

 

“บก.เก้น”

 

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้