รีเซต
TRUE TALK : ก้องภพ สรงกระสินธ์ .. “ความรู้สึกมันก็สุดๆ นะ เพราะคนญี่ปุ่นเค้าไม่ได้ยอมรับใครง่ายๆ” ... by "จอน"

TRUE TALK : ก้องภพ สรงกระสินธ์ .. “ความรู้สึกมันก็สุดๆ นะ เพราะคนญี่ปุ่นเค้าไม่ได้ยอมรับใครง่ายๆ” ... by "จอน"

TRUE TALK : ก้องภพ สรงกระสินธ์ .. “ความรู้สึกมันก็สุดๆ นะ เพราะคนญี่ปุ่นเค้าไม่ได้ยอมรับใครง่ายๆ” ... by "จอน"
kentnitipong
12 ธันวาคม 2560 ( 12:57 )
10.5K

TRUE TALK : หลายคนคงทราบดีว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ถือเป็นอีกวันประวัติศาสตร์ของครอบครัว “สรงกระสินธ์” เนื่องจากทาง มิสเตอร์ คิโยชิ ทาตานิ ประธานบริษัท มิซูโน สิงคโปร์ พร้อมกับ พิสุทธิ์ บุนนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายมิซูโน่ ได้จัดงานแถลงข่าว การเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และแบรนด์ มิซูโน่ ในประเทศไทย โดยจัดขึ้นที่ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ชั้น 5 ควอเทียร์ วอเตอร์ การ์เดน โดยมีสักขีพยาน และแฟนคลับมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

 

 

โดยงานเมื่อวานที่ผ่านมา ผมก็ได้ไปร่วม และมีโอกาสนั่งพูดคุยกับคุณพ่อจุ้ง “ก้องภพ สรงกระสินธ์” บิดาผู้ปลุกปั้นเจ้าเจให้เติบโตกลายเป็นสุดยอดนักเตะที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ สินค้าระดับโลกในปัจจุบัน

“รองเท้าสตั๊ดคู่แรกของเจเหรอ ตอนนั้นมันอายุประมาณ 6 ขวบ พ่อซื้อให้เป็นยี่ห้อ Kronos นะ มันเพิ่งเริ่มเล่นใหม่ๆ เลย เป็นรองเท้าสตั๊ดมีปุ่มคู่แรกของมัน อันเล็กนิดเดียว ตอนนี้ยังเก็บไว้อยู่เลย”

“ต่อมา พอพ่อส่งมันมาเรียนที่กรุงเทพ (โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร) ตอนนั้นเมื่อปี 2547 เจอายุประมาณ 10 ขวบจะเข้า 11 ขวบ พ่อก็ซื้อสตั๊ดคู่ใหม่ให้ เป็น มิซูโน่ (Mizuno) เนี่ยแหละ สีขาว ราคาประมาณ 1,250 – 1,300 บาท เป็นรองเท้าหลักพันคู่แรกของเจเลย เราเห็นว่ามันดี และคุ้มค่า เลยซื้อให้ใส่ จริงๆ เท้าเจมันเล็กนะ หาไซส์ใส่ยาก แต่พอมันได้ใส่ มันก็ชอบ เป็นคู่โปรดของมันเลย เชือกผูกยาวๆ มันชอบ ใส่จนขาดเลยตอนนั้น”

“พ่อก็ไม่เคยคิดหรอกว่า วันนึงเขาจะกลายเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ แต่จำได้ว่า เขาใส่ Mizuno แล้วก็ประสบความสำเร็จนะ ตอนเล่นที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร กับเจ้าบอย (จาตุรงค์ พิมพ์คูณ) บาส (พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา) และก็เจ้านิว (ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์) ในรายการ เค แบงค์ ลิตเติ้ลลีก ตอนนั้นไอ้เจ้าเจเป็นคนแรกของรุ่นเลยนะที่ได้ลงหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน”

 

 

ช่วงแรกของการสนทนา ผมได้สอบถามเรื่องราวในอดีต และความหลังเกี่ยวกับรองเท้าสตั๊ดของเจ ที่เคยสวมใส่แบรนด์ มิซูโน่ มาตั้งแต่เมื่อ 13 ปีที่แล้วโดยประมาณ ก่อนที่เจ้าหนุ่มขี้เล่นจากสามพรานคนนี้ จะก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ มิซูโน่ ให้แฟนบอลไทยได้ชื่นชมกันในวันนี้

“มันก็สุดๆ อะนะ พ่อว่า ประเทศญี่ปุ่นเขาเจริญ เค้าไม่ได้ให้การยอมรับใครง่ายๆ หรอก เห็นไหมหละช่วงแรกๆ คนญี่ปุ่นยังไม่ค่อยให้บอลเลย แต่พอเราเล่นดีขึ้น เราพิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็นได้ 3-4 แมตช์หลังสุด เขาก็เริ่มมีการให้บอลมาที่เจมากขึ้น เล่นบอลกับพื้นมากขึ้น แสดงว่า เขายอมรับเรา และสุดท้ายทางมิซูโน่ ก็เห็นความสำคัญของเจ้าเจ”

 

 

ช่วงท้ายของการสนทนา ผมไม่ลืมที่จะถามถึงเป้าหมายของคุณพ่อที่มีต่อลูกชายในซีซั่นหน้าที่กำลังจะมาถึง “ผมยังอยากให้เขาอยู่ที่ญี่ปุ่นอีก 1 ปีนะ (ชนาธิป กำลังมีข่าวกับ เลสเตอร์ ซิตี้ และ OH Leuven ทีมในลีกเบลเยียม ซึ่งมีเจ้าของเป็นคนไทย) ใจจริง พ่อไม่อยากให้เขารีบไปยุโรปหรอก อยากให้เขาซึมซับบรรยากาศการเล่นฟุตบอลอาชีพในญี่ปุ่นกับทาง คอนซาโดเล่ ซัปโปโร อีก 1 ปี เพื่อที่ว่าจะได้เพิ่มความแข็งแกร่ง”

“ถ้าเราเล่นเด่น ยังไงก็มียุโรปมามองเห็นอยู่แล้ว เพราะที่ญี่ปุ่น มีแมวมองจากยุโรปมาดูประจำ และตอนนี้มันก็ปรับตัวได้แล้ว อยู่แบบแฮปปี้ มีความสุข ถ้าไม่มีความสุขหรือเดือดร้อนนะ มันก็คงร้องกลับบ้านแล้วแหละ แต่นี่มันดูมีความสุขมากเลย”

 

“จอน”

 

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้