รีเซต
TRUE OPINIONS : "เอล แดงดา" สู่ "มุ้ยซัง"? ต่างแดนคำรบสามของธีรศิลป์ ในวัยแตะ 30 สายเกินไปไหม ... by "จอน"

TRUE OPINIONS : "เอล แดงดา" สู่ "มุ้ยซัง"? ต่างแดนคำรบสามของธีรศิลป์ ในวัยแตะ 30 สายเกินไปไหม ... by "จอน"

TRUE OPINIONS : "เอล แดงดา" สู่ "มุ้ยซัง"? ต่างแดนคำรบสามของธีรศิลป์ ในวัยแตะ 30 สายเกินไปไหม ... by "จอน"
kentnitipong
15 ธันวาคม 2560 ( 15:48 )
5.5K

TRUE OPINIONS : สร้างความฮือฮาอย่างยิ่ง สำหรับภาพถ่ายร่วมกันในเมืองไทยของผู้บริหารสโมสร ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า ทีมดังจาก เจลีก กับบอร์ดบริหารของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อย่าง คุณระวิ โหลทอง, คุณวิลักษณ์ โหลทอง และ คุณรณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสร

 

 

ทุกคนทราบดีว่า ก่อนหน้านี้ สโมสรที่ซีซั่นล่าสุดจบอันดับ 15 ของ เจลีก ซึ่งเป็นอันดับสุดท้ายของการรอดตกชั้น กำลังต้องการศูนย์หน้าเบอร์ 1 ทีมชาติไทย อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา และพวกเขากำลังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างนักเตะภายในทีมพอสมควร หลังล้มเหลวจนเกือบตกชั้นในปีนี้ ทั้งที่เพิ่งคว้าแชมป์เจลีกมาเมื่อปี 2012, 2013 และ 2015 ที่ผ่านมา แถมยังเพิ่งคว้าอันดับที่ 3 ในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก “ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ” มาเมื่อ 2 ปีที่แล้วอีกด้วย

“สิ่งที่เราได้เห็น และควรภาคภูมิใจ คือ ธีรศิลป์ แดงดา กำลังเป็นเป้าหมายในการเสริมทัพ เพื่อทวงคืนความยิ่งใหญ่ให้กับทีมบิ๊กเนม เจ ลีก”

หลังข่าวดังกล่าวปรากฏ ก็ได้มีการวิจารณ์ไปต่างๆ นาๆ โดยเฉพาะประเด็นอายุที่กำลังจะแตะหลัก 30 ปี รวมถึงความล้มเหลวของ ธีรศิลป์ ครั้งที่เคยออกไปผจญโลกลูกหนังยังต่างแดน 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ทั้งรอบอังกฤษ และสวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้สัญญากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมถึง อีกครั้งกับ สโมสรอัลเมเรีย ที่ลา ลีกา สเปน 

 

ครั้งที่สามแล้วนะ จะล้มเหลวเหมือนเดิมไหม
จะปรับตัวได้ไหมนะ จะไปเร็วกลับเร็วอีกไหม
อายุไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ปีหน้าก็เลขสามแล้ว
ไหนจะเรื่องลูก (น้องมาดริด) และครอบครัวอีก….

 

คำถามต่างๆ นาๆ เกิดขึ้น ภายใต้ข้อพิสูจน์ และคำตอบที่ยังไม่สามารถมองเห็นได้ ถ้าไม่ลองอย่างที่เขาบอก “ไม่ลอง ก็ไม่รู้”

ย้อนหลังไปในวัยไม่ถึง 20 ปี ธีรศิลป์ แดงดา ที่มีข้อกังขาว่าเป็น “เด็กเส้น” ถูกส่งไปชุบตัวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมแข้งรุ่นพี่อย่าง สุรีย์ สุขะ และ เกียรติประวุฒิ สายแวว ซึ่งเพียงไม่นานหลังจากนั้น “มุ้ย” ก็ต้องระเห็จไปอยู่กับ กราสฮ็อปเปอร์ ซูริค ทีมสำรอง และสัมผัสกับกลิ่นของสิ่งที่เรียกว่า “ล้มเหลวในต่างแดน” ครั้งแรก เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว

ธีรศิลป์ กลับมาสู่บ้านเกิด ก่อนจะพัฒนาตนเองขึ้นมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นสุดยอดศูนย์หน้าของทีมชาติไทย และเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งสถิติมากมาย สถิติแล้วสถิติเล่าที่เขาสร้างขึ้น ทำให้ผู้คนขนานนามว่า “เทพมุ้ย” และสุดท้าย จากผลงานทั้งหมดทั้งมวล ก็ส่งให้เขาต้อง โก อินเตอร์ อีกครั้ง

 

ขอบคุณภาพ : Marca

 

ครั้งที่สองในต่างแดน ธีรศิลป์ ปรากฏตัวที่สเปนในฐานะนักเตะผู้ถูกยืมตัวไปอยู่กับ อัลเมเรีย ทีมในศึก ลา ลีกา ที่ดึงตัวเขาไปร่วมทีม โดยที่ก่อนหน้านั้น “เทพมุ้ย” ไม่ได้รับการเซ็นสัญญาจากการร่วมทดสอบฝีเท้าที่ถิ่น “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด

ณ อัลเมเรีย … “เทพมุ้ย” ในวัย 26 ปี มีปัญหาเรื่องการปรับตัว ต้องทำอาหารกินเอง การสื่อสาร และภาษา โอเคว่า ฟุตบอลเป็นภาษาสากลก็จริง แต่แค่ภาษาฟุตบอลอย่างเดียว คงไม่พอหรอก และหากปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีกว่านี้ เขาก็คงไม่สัมผัสความล้มเหลวเป็นคำรบที่สองในต่างแดน

ที่นั่น เขาได้โอกาสการลงสนามทั้งหมด 10 เกมเท่านั้น แบ่งเป็น ลา ลีกา 6 เกม และ โกปา เดล เรย์ อีก 4 เกม ซึ่งในเกมลีก เขาออกสตาร์ทเป็นตัวสำรองทั้งหมด และได้ลงสนามเพียง 131 นาทีเท่านั้น แม้ในศึกฟุตบอลถ้วยที่เขาได้ลง 4 เกม (ตัวจริง 3 นัด) ได้ทำให้เขาสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักเตะไทยคนแรกที่ยิงประตูได้ในศึก โกปา เดล เรย์ 2014 ในเกมพบกับ เรอัล เบติส ซึ่งมันคือประตูแรกของนักเตะไทย ในฟุตบอลอาชีพของสเปน ทว่าทั้งหมดทั้งมวล มันเป็นเพียงประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ไม่ใช่การยืนระยะได้ หรือเรียกอย่างเต็มปากว่า ประสบความสำเร็จ แต่อย่างใด

 

สองครั้งที่ต่างแดนของ “เทพมุ้ย”
แม้มันจะไม่ได้จบที่ความสวยหรูดูดี โด่งดังคับฟ้า
แต่ก็ทำให้เขากลับมาแบบแข็งแกร่งขึ้น รวดเร็วขึ้น แน่นอนขึ้น คมกริบขึ้น
ดูได้จากการโชว์ฟอร์มกับ เมืองทอง ใน 3 ปี หลังสุด

 

ด้วยฟอร์มที่เรียกได้ว่า โคตรดี เนี่ยแหละ ทำให้โอกาสการค้าแข้งต่างแดนของเขา เข้ามาอีกครั้ง ในวัย 30 ปี… และครั้งนี้มันก็อาจจะเป็นโอกาสชนิด “รถด่วนขบวนสุดท้าย” แล้วซะด้วย
แถมยังเป็นรถด่วนขบวนเจลีก ที่นักเตะไทย ไม่มีใครไม่อยากขึ้น

เห้ย แต่มุ้ยก็อายุ 30 ปี แล้วนะ…

ท่านที่กำลังมีประโยคนี้ในหัว บอกเลยว่า เรื่องอายุช่างมันเถอะครับ จะเลขสาม หรือเลขอะไร ถ้าเขาอยากได้ นั่นหมายถึง คุณภาพของเรามีค่ามากพอ กับค่าจ้าง จะไปแค่ 1 ปี 2 ปี หรือแค่ครึ่งปี ถ้ามีโอกาส ผมบอกเลย ไปเถอะครับ

แล้วเรื่องครอบครัวหล่ะ มุ้ยกำลังมีลูกน้อยน่ารักน่าชังนะ

ข้อนี้ ผมคิดว่าสมัยนี้ ทั้งการเดินทางเอย หรือการสื่อสารเอย ค่อนข้างง่ายกว่าสมัยก่อนเยอะ ในกรณีที่ลูกและครอบครัวไม่ตามไปด้วย แต่ผมคิดว่า การนำครอบครัวไปอยู่ด้วย คือสิ่งที่ดีที่สุดกับตัวมุ้ยเอง เห็นได้จากนักเตะต่างชาติที่เข้ามาทำมาหากินในไทยลีก ก็มีจำนวนมากที่นำลูก และภรรยามาอยู่ด้วย เพราะนี่คือฟุตบอลอาชีพ และหากคิดจะเป็นนักเตะอาชีพที่เล่นในสโมสรต่างบ้านเกิดเมืองนอน ก็ต้องเจอเรื่องราวนี้กันทั้งนั้น

 

ขอบคุณภาพ : เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

 

ในเมืองไทย มุ้ยไม่ต้องพิสูจน์แล้ว เขาจะจากไปแบบตำนาน และผู้ชนะ หากล้มเหลวกลับมา เขาก็ยังคือตำนาน และผู้ชนะอยู่ดี… ประเทศญี่ปุ่น ปรับตัวง่ายกว่าครับ คนไทยเยอะกว่า เดินทางไปมาหาสู่ง่ายกว่า มีนักเตะไทยแวะเวียนไปลงเล่นหลายคน แฟนคลับเองก็ไปหาง่ายกว่า ความเหงา น่าจะไม่เท่าที่สเปน รวมถึงอาหารการกิน และความเป็นอยู่ ที่ไม่แตกต่างจากไทยมากนัก

ไปเถอะครับ ไม่มีอะไรสายไปหรอก ต่อให้มุ้ยอายุ 32 หรือ 33 ปี ผมก็ยังสนับสนุนให้ไปอยู่ดี ไปโชว์ให้เค้าเห็นว่าเรามีศักยภาพมากแค่ไหน  อีกอย่างผลประโยชน์หลังจากที่มุ้ยกลับมา ไม่ใช่แค่เพียงตัวมุ้ยเท่านั้นที่จะได้รับ มันจะส่งอิทธิพลไปถึงนักเตะไทยคนอื่นๆ รวมถึงทีมชาติไทยในอนาคตอีกด้วย

ผมไม่อยากให้มุ้ยต้องกลายเป็นแบบ “เดอะ ตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ที่เคยไม่ยอมขึ้นเครื่องไปค้าแข้งที่เบลเยียมกับ อันเดอร์เลชท์ จนต้องมาเสียดายภายหลัง รวมถึง “อาดำ” นที ทองสุกแก้ว ที่เคยเล่าให้ผมฟังว่า เขาเคยเลี่ยงการเล่นฟุตบอลต่อในลีกญี่ปุ่น จนทำให้พลาดการเป็นนักเตะไทยคนแรกที่ได้ลงสนามในศึก เจ ลีก ญี่ปุ่น มาแล้ว

“รู้งี้นะ กูอยู่ต่อแล้ว ถ้ารู้ว่า เจ ลีก (ลีกอาชีพ) จะเกิดขึ้นหลังจากที่กลับมาแค่ 2 ปี”
นี่คือคำพูดของอาดำ ที่เคยบอกผมเอาไว้

 

ยังไม่มีอะไรสายเกินไป จนกว่าวันที่เรารู้สึกตัว
และบอกกับตัวเองว่า “รู้งี้ กูจะ…”

 

“จอน”

 

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้