รีเซต
TRUE TALK : สิ่งที่ผมเห็นจากทีมชาติไทย ยู-23 ในศึก M-150 Cup … by "จอน"

TRUE TALK : สิ่งที่ผมเห็นจากทีมชาติไทย ยู-23 ในศึก M-150 Cup … by "จอน"

TRUE TALK : สิ่งที่ผมเห็นจากทีมชาติไทย ยู-23 ในศึก M-150 Cup … by "จอน"
kentnitipong
16 ธันวาคม 2560 ( 17:48 )
8.3K

TRUE TALK : จะเริ่มต้นยังไงดีหละ กับการวิจารณ์ฟอร์มของทีมชาติไทย ชุด ยู-23 ที่เพิ่งลงแข่งทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่อง M-150 Cup 2017 ที่บุรีรัมย์ ไปหมาดๆ และคว้าอันดับที่ 4 ภายใต้การคุมทีมของ โซรัน ยานโควิช อดีตกองหน้าทีมชาติบัลแกเรีย วัย 43 ปี

 

 

ที่ผมบอกว่า จะเริ่มต้นยังไงดี นั่นหมายถึง มันดูงงๆ ไปหมดกับผลการแข่งขันทั้งสามเกมที่จบลงไป รวมถึงระบบการเล่นเอย แทคติกเอย อะ ลองดู มาเริ่มว่ากัน

เปิดฉากอย่างเร้าใจ ร้อนแรง และน่าสนใจ

ทีมชาติไทย ในรายการของรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ครั้งนี้ จับสลากได้อยู่กลุ่มเดียวกับ ญี่ปุ่น และ เกาหลีเหนือ สองทีมร่วมกลุ่มในการแข่งขันจริงระดับทวีป “ศึก ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2018” ที่ประเทศจีน ต้นปีหน้า

“ช้างศึก” เริ่มต้นสวยงาม ด้วยชัยชนะเหนือ ญี่ปุ่น 2-1 จากการพังประตูของ ศฤงคาร พรหมสุภะ และชัยวัฒน์ บุราณ ท่ามกลางเสียงชื่นชมในผลการแข่งขันที่ต่อกรกับ ญี่ปุ่น ได้อย่างดี แม้จะมีเสียงค่อนแคะว่า ญี่ปุ่น นั้น เอาชุดอายุไม่เกิน 20 ปี มาแข่งขัน แต่หากลงลึกถึงรายละเอียด ขุนพลนักเตะไทยเองก็อายุเฉลี่ยไม่ถึง 21 ปีเช่นเดียวกัน และมีนักเตะเกินครึ่งหนึ่งที่ยังมีอายุอยู่ที่ระดับไม่เกิน 21 ปี รวมถึงมีเพียง 3 คนเท่านั้นที่อายุแตะหลัก 22 ปี

ฉะนั้น เกมในวันนั้น นับเป็นเกมที่ยอดเยี่ยม และสมควรได้รับคำชมอย่างยิ่ง


ทีมชาติไทย ในวันนั้น ใช้นักเตะเกินครึ่งมาจากชุดคว้าแชมป์ซีเกมส์ และเติมเต็มได้อย่างในตำแหน่งแบ็คขวาด้วย จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ ที่มาจาก เจลีก 3 รวมถึง วันชัย จารุนงคราญ แบ็คซ้ายที่ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริง

ส่วนแผงกลางขึ้นไป ได้ สุภโชค สารชาติ กับ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา สองดาวเตะมาผนวกกับ รัตนากร ใหม่คามิ, พิชา อุทรา, ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา และเจนรบ สำเภาดี

เล่นดี ใช้ได้ มุ่งมั่น มีความกระหายในชัยชนะ ไม่กลัวศักดิ์ศรีของญี่ปุ่น
จนสุดท้ายความพยายามก็นำพามาซึ่งสามแต้มแรก
และหนทางการเข้าชิง เปิดกว้างซะเหลือเกิน

ขอแค่เสมอ แต่ก็ทำไม่ได้

เกมที่สอง ทีมชาติไทย ขอเพียงแค่เสมอกับ เกาหลีเหนือ ที่แพ้ ญี่ปุ่น มาขาดลอย ก็จะได้ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ซึ่ง โซรัน ยานโควิช เอง ก็ตัดสินใจโรเตชั่นถึง 8 คน

และนั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาด…

 



นาทีที่ 81 เกาหลีเหนือส่งลูกบอลเข้าซุกก้นตาข่าย และนั่นคือการเสียประตูสองนัดติดต่อกัน เป็นผลให้ทีมชาติไทย ต้องหลุดวงโคจรการเข้าชิง และไปลุ้นคว้าอันดับที่ 3 แทน

นนท์ ม่วงงาม คือผู้เล่นทดแทน รายเดียวที่ไม่ได้ถูกวิจารณ์ เนื่องจากฟอร์มการเล่น และความเป็นผู้รักษาประตูที่พิสูจน์ฝีมือของตนเองได้ในระดับหนึ่ง ทำให้แฟนบอลไทย (ส่วนใหญ่) ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรมากมายนัก

แต่ส่วนของตำแหน่งอื่นๆ นั้น แทบจะหาความบาลานซ์ของการเล่นฟุตบอลเป็นระบบระเบียบไม่ได้เลยในเกมวันนั้น สันติภาพ จันทร์หง่อม (แบ็คขวา), วรวุฒิ นามเวช (เซนเตอร์ฮาล์ฟ), สหรัฐ ปองสุวรรณ (แบ็คซ้าย) คือสามแนวรับที่ได้โอกาสลงในเกมที่สอง และทำผลงานได้เพียงแค่ พอใช้

ส่วน ที่ต้องทำการบ้านหนักๆ เลยคือ 4 แนวรุก หน้าสองกองกลางอย่าง รัตนากร ใหม่คามิ และธนาสิทธิ์ ศิริผลา นั่นคือ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ชัยวัฒน์ บุราญ และสิทธิโชค กันหนู ที่ยังไร้ซึ่งประสิทธิภาพในการทำประตูแบบสุดๆ จนแทบร้องโอยยยย ในบางจังหวะ

แต่เอาหน่า เพิ่งชนะ ญี่ปุ่น มา
ชนะ เวียดนาม เอาที่สามก็ได้

แต่ที่ไหนได้…..

ทีมชาติไทย 1-2 เหงียน คอง เฟือง

สมาธิไม่ดี ติดประมาท เพิ่งชนะเขามา และปล่อยพื้นที่ กับโอกาสให้กับ เหงียน คอง เฟือง มากเกินไป

ซึ่งเพียงแค่ 22 นาทีแรกของเกมเท่านั้น ที่สตาร์หน้า “ก้อง ห้วยไร่” รายนี้ ทำให้เห็นว่า เขาไม่กลัวนักเตะไทย ไม่กลัวทีมชาติไทย และกระหายอยู่เสมอที่จะพังประตูช้างศึก

 



2 ลูก จากการโหม่งที่เฉียบขาด รวมถึงการใช้จังหวะที่ดี ชิงบอลไปจบสกอร์ ภายในเวลาแค่ 22 นาที พิสูจน์ให้เห็นเลยว่า คอง เฟือง ไม่ใช่ว่าจะไม่เก่งอย่างที่ใครๆ ชอบปรามาสเขา และผมเชื่อเหลือเกินว่า เขาสามารถเป็นโควตาอาเซียนที่ยอดเยี่ยมได้ หากมีสักทีมในไทยลีก ให้โอกาสเขา

กลับมาที่ทีมไทย .. ปัญหาที่ผมมองว่า สำคัญเลยนั่นคือ กองกลาง

ในซีเกมส์ที่ผ่านมา กองกลางของไทย มีทั้ง พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล และ นพพล พลคำ สองผึ้งงานจอมขยัน ที่ช่วยกันวิ่ง ช่วยกันไล่ ทำงานอย่างหนัก จนทำให้ทีมชาติไทย เสียประตูยาก

“เกมรุก ทำให้คุณชนะ
แต่เกมรับ จะทำให้คุณเป็นแชมป์”

เหรียญทอง ซีเกมส์ 2017 คือบทพิสูจน์สำคัญของคำคมฟุตบอลประโยคนี้ แต่ในทัวร์นาเมนต์นี้ ต้องยอมรับว่า รัตนากร ใหม่คามิ และ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ยังไปได้ไม่ถึงเท่าที่ พิธิวัต กับ นพพล เคยทำให้เราเห็นได้ ซึ่งเมื่อบาลานซ์แดนกลางไม่มีสมดุลที่ดีพอ การเคลื่อนบอลจากรับมารุก หรือการตัดเกมก่อนบอลจะไปถึงหน้าปากประตู ก็ทำได้ไม่สมูธพอ

และความพ่ายแพ้ เวียดนาม คาบ้าน จนได้แค่ที่ 4
มันทำให้เราต้องทิ้งชัยชนะเหนือญี่ปุ่นไว้ข้างหลัง
เติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย และต้องเดินหน้าอย่างแข็งแรงกว่านี้
หากคิดจะประสบความสำเร็จ

เติมเต็มส่วนไหนดีก่อนทัวร์นาเมนต์จริงจะเริ่มต้น

อีกไม่กี่วันแล้ว ทีมชาติไทย ต้องเดินทางไปลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศจีน ยังมีหลายจุดที่ต้องแก้ไข โดยในตำแหน่ง ผู้รักษาประตู ไร้ข้อสงสัยในตัวของ นนท์ ม่วงงาม

แผงแนวรับ สุริยา สิงห์มุ้ย คือคนที่ตอบโจทย์ที่สุดในตำแหน่งแบ็คซ้าย (ในกรณีที่เขาสามารถไปได้ ไม่ติดภารกิจกับทาง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด) หรือจะเป็น เควิน ดีรมรัมย์ อีกคนที่น่าสนใจ มาแทนที่คนที่ได้รับโอกาสในทัวร์นาเมนต์นี้ ส่วนฝั่งขวา หากคิดจะใช้ จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์จริงๆ ก็ต้องเพิ่มทักษะของการเล่นแบ็คให้กับเขามากกว่านี้ ทั้งการเล่นเป็นทีม การวิ่งเติมโอเวอร์แล๊บขณะไม่มีบอล และการเล่นเกมรับอีกด้วย

กองกลางสองคน ยังไงก็ต้องบอกว่า พิธิวัต กับ นพพล คือตัวเลือกที่ดีกว่าจริงๆ เพราะหากยังใช้ รัตนากร ใหม่คามิ จับคู่กับ “เต๋าดินโญ่” ก็มีสิทธิ์ต้องลุ้นกันเหนื่อยแน่

ส่วนแนวรุก โอยยย พูดถึงแนวรุกแล้วก็ ต้องร้อง เฮ้อออ…

ตัวเลือกกองหน้าน้อย และการฝากความหวังไว้ที่วันเดอร์คิดส์วัยไม่ถึง 20 ปี

ปัญหาสะสมจากการแข่งขันซีเกมส์ ที่ยังไม่ได้ถูกแก้ไข เรายังคงมีตัวเลือกในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าเพียง 2 คน แค่ เจนรบ สำเภาดี และ สิทธิโชค กันหนู เท่านั้น และทัวร์นาเมนต์ ทั้งคู่ก็ไม่ได้ยิงเลยสักประตู

เกมกับเวียดนามเห็นได้ชัดเลยว่า การพาบอล การขึ้นเกม การเลี้ยงเข้ากรอบเขตโทษ เราฝากความหวังในการพังประตูไว้ที่ สุภโชค สารชาติ โคตรดาวรุ่งจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มากจนเกินไป จนทำให้ผมคิดว่า หากต้องเอาเด็กอายุขนาดนี้มาแบกทีม ทำไมไม่ลองใช้กองหน้าตัวเป้าอายุน้อยๆ ไปเลย อย่าง สิทธิโชค ภาโส เพื่อเสริมสร้างกระดูกให้กับ “เจ้าย้า” ในระดับอายุสูงขึ้นไปในตัว เพราะ ยู-23 ชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้ไม่ได้มีโควตาไป โอลิมปิก เกมส์ แต่อย่างใด

“ข้ามรุ่นได้ ข้ามรุ่นเลยครับ ถ้ามันจะมีผลดีต่อตัวเด็ก และทีมชาติไทย”

โซรัน ยานโควิช รวมถึงทีมสต๊าฟของทีมชาติไทย ชุดนี้ รวมถึงฝ่ายเทคนิคของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยังมีเรื่องต้องให้แก้ไขพอสมควร ก่อนการแข่งขันจริง ในรุ่น ยู-23 อย่าเรียกว่าพอสมควรเลย เรียกว่า หลายเรื่องหลายราวมากๆ ตั้งแต่กองหลัง กองกลาง กองหน้า

ผมหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างดี ได้เห็นอะไรที่เป็นรูปเป็นร่าง เป็นระเบียบแบบแผน การเข้าทำที่เป็นระบบ การเล่นเกมรับที่รัดกุมกว่านี้ ในศึกชิงแชมป์เอเชีย เดือนหน้านะครับ

“จอน”

 

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้