รีเซต
พรีวิว ลาลีก้า : "ศึกเอล กลาซิโก้" เรอัล มาดริด vs บาร์เซโลน่า

พรีวิว ลาลีก้า : "ศึกเอล กลาซิโก้" เรอัล มาดริด vs บาร์เซโลน่า

พรีวิว ลาลีก้า : "ศึกเอล กลาซิโก้" เรอัล มาดริด vs บาร์เซโลน่า
Supanat
22 ธันวาคม 2560 ( 14:58 )
7.9K

พรีวิว ลาลีก้า “ศึกเอล กลาซิโก้” เรอัล มาดริด vs บาร์เซโลน่า สโสมรที่เก่งที่สุดในโลก เพิ่งไปคว้าแชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ มาดๆ เปิดบ้านที่กรุงมาดริด ทำศึกฟุตบอลคู่หยุดโลกกับคู่อริบาร์เซโลน่า

โดยเกมคู่นี้ลงแข่งขันกันในวันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม  2560 เวลา 19.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทางช่อง BeIN Sports 2

***********

รายการ : ลาลีก้า
วัน / เวลาทำการแข่งขัน : 23 ธันวาคม  2560 เวลา 19.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
สนาม : ซานติเอโก้ เบอร์นาบิว (มาดริด /สเปน)
ถ่ายทอดสด :  BeIN Sports 2TrueID App

***********

สภาพทีม “เรอัล มาดริด”

เรอัล มาดริด ไม่มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลังคว้าแชมป์สโมสรโลกมาเมื่อวันที่ 17 แต่ มาร์ก้า ตีข่าวว่า ซูปเปอร์สตาร์ของทีมอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บริเวณน่อง และต้องเช็คความฟิตจนนาทีสุดท้ายก่อนเกมเอล กลาซิโก้

ในตำแหน่งอื่นๆ “ราชันชุดขาว” ได้ดานี่ การ์บาฆาล หายจากอาการป่วย ลงสนามในตำแหน่งแบ็คขวาได้อีกครั้ง หลังลงในนัดชิงชนะเลิศฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ กับเกรมิโอ้ 90 นาทีเต็ม แต่ลูกทีมของซีเนอดีน ซีดาน อาจจะเสียเปรียบเรื่องอาการเหนื่อยล้าจากการเดิน เพราะต้องบินกลับมาจาก ดูไบ

 

***********

สภาพทีม “บาร์เซโลน่า”

“อาซูลกราน่า” ไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมจากเดิม คือ อุสมาเน เดมเบเล่ และซามูเอล อุมติตี้ ที่หมดสิทธิ์ลงสนามอย่างแน่นอน แต่ได้ราฟินญ่า กลับลงมาซ้อมกับทีมได้แล้วหลังบาดเจ็บที่เข่าต้องพักยาวไปกว่า 9 เดือน ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ผู้เล่นของบาร์ซ่า ฟิตสมบูรณ์พร้อมออกไปเยือนเรอัล มาดริด ในศึกเอล กลาซิโก้

***********

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม (ทุกรายการ)
เรอัล มาดริด
17 ธ.ค. 60 ชนะ เกรมิโอ้ 1-0 (ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ) N
14 ธ.ค. 60 ชนะ อัล จาซีร่า 2-1 (ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ) N
09 ธ.ค. 60 ชนะ เซบีย่า 5-0 (ลาลีก้า) H
07 ธ.ค. 60 ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 3-2 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) H
03 ธ.ค. 60 เสมอ แอธเลติก บิลเบา  0-0 (ลาลีก้า) A

บาร์เซโลน่า
18 ธ.ค. 60 ชนะ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า 4-0 (ลาลีก้า) H
11 ธ.ค. 60 ชนะ บียาร์เรอัล 2-0 (ลาลีก้า) A
06 ธ.ค. 60 ชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 2-0 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) H
02 ธ.ค. 60 เสมอ เซลต้า บีโก้ 2-2 (ลาลีก้า) H
30 พ.ย. 60 ชนะ เรอัล มูร์เซีย  5-0 (โกปา เดลเรย์) H

***********

รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เรอัล มาดริด : เกย์ลอร์ นาวาส, ดานี่ การ์บาฆาล, เซร์คิโอ รามอส, ราฟาแอล วาราน, มาร์เชโล่, ลูก้า โมดริช, กาเซมิโร่, โทนี่ โครส, อิสโก้, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

บาร์เซโลน่า :  มาร์ค อังเดร แตร์ สตีเก้น, เซร์จี้ โรเบร์โต้, เคราร์ด ปีเก้, โธมัส แฟร์มาเล่น, ยอร์ดี้ อัลบา, เปาลินโญ่, อีวาน ราคิติช, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์,อันเดรส อิเนียสต้า, ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ

***********

บทวิเคราะห์

แม้ว่าเรอัล มาดริดจะสามารถอััดอัล จาซีร่า ในรอบรองและเกรมิโอ้ ในรอบชิงชนะเลิศคว้าถ้วยฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ แต่ถ้าลงไปดูฟอร์มแต่ละนัด “ราชันชุดขาว” ไม่ได้มีฟอร์มการเล่นที่ดีและน่าประทับใจเลย ในเกมกับอัล จาซีร่า ยอดทีมจากกรุงมาดริดเป็นฝ่ายโดนนำไปก่อนในครึ่งแรก แต่ด้วยชื่อชั้นของนักเตะ มาดริดก็พลิกสถานการณ์ กลับมาเอาชนะได้ 2-1 ส่วนในเกมนัดชิงชนะเลิศ มาดริดต้องรอถึงนาที 53 ถึงจะได้ประตูชัยจากลูกฟรีคิกของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ คว้าแชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ มาครองได้

ซึ่งจาก 2 นัดและในนัดอื่นๆ ที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้มาดริด ประสบปัญหาขาดความเฉียบคมในการจบสกอร์  ถ้านับเฉพาะในลาลีก้า ทีมจากเมืองหลวงแห่งนี้ยิงไปเพียง 30 ประตูจาก 15 นัดเท่านั้น แตกต่างจากบาร์เซโลน่า ที่ยิงไปมากถึง 42 ประตู และในส่วนของสถิติรายบุคคล นักเตะที่ยิงมาที่สุดของเรอัล มาดริด นับเฉพาะลาลีก้าคืออิสโก้, อเซนซิโอ้ และโรนัลโด้ ยิงไปเพียงคนละ 4 ประตูเท่านั้น ส่วนยอดกองหน้าของทีมอย่างคาริม เบนเซม่า ยิงได้เพียง 2 ลูกจากการลง 11 นัด และดาวซัลโวของมาดริด อยู่ในอันดับ 22 ของดาวซัลโวในลาลีก้า

ทำให้บ่งบอกถึงปัญหาของเรอัล มาดริดได้อย่างดีว่าในปีนี้ พวกเขาขาดการจบสกอร์ที่เฉียบคม ความดุดันในเกมรุกของ “ราชันชุดขาว” หายไปอย่างสิ้นเชิงในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งกองหน้า ตัวทำสกอร์ ซีเนดีน ซีดาน ยังพยายามเข็นลูกรักอย่างเบนเซม่า ลงสนามเป็นตัวจริงอยู่ตลอด แม้ว่าฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวจะตกลงไปอย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งการปรับเปลี่ยนในตำแหน่งตรง อาจจะทำให้ปัญหาความเฉียบคมของเรอัล มาดริด หมดไป

ส่วนฝั่งทีมเยือน แม้ว่า 3 ประสานลือโลกอย่าง MSN จะจบสิ้นลงไปจากการย้ายออกไปของเนย์มาร์ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เกมรุกของ “อาซูลกราน่า” ด้อยไปลง รวมถึงอาการบาดเจ็บของ อุสมาเน เดมเบเล่ ที่แฟนๆ บาร์ซ่า คาดหวังว่าจะเข้ามาแทนที่ของยอดนักเตะชาวบราซิล ไม่ได้ทำให้ความอันตรายในแดนรุกหายไป ซึ่ง 42 ประตูในลีกเป็นสิ่งที่การันตีได้อย่างดี รวมถึง 14 ประตูของเมสซี่ รวมกับ 9 ประตูของหลุยส์ ซัวเรซ ทำให้บรรดาแฟนบอล ฝากความหวังไว้ได้ว่า กองหน้า 2 คนนี้ยังผลิตประตู และสร้างสรรค์เกมให้ทีมได้อยู่

เปาลินโญ่ เพิ่งย้ายเข้ามาในฤดูกาลนี้ด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร พร้อมด้วยข้อครหามากมาย ส่วนใหญ่เป็นในแนวที่ว่าไม่สามรถเข้ามาช่วยยกระดับทีมได้ และด้วยค่าตัวกว่า 40 ล้านยูโร น่าจะเป็นการทิ้งเงินไปเปล่าๆ แต่ผ่านมา 16 นัดอดีตกองกลางกว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาไม่ได้ย้ายมาเล่นๆ เขาสามารถเข้ามาเป็นตัวหลักของ บาร์เซโลน่า ได้ ด้วยผลงานลงสนาม 21 นัดในทุกรายการ ยิง 6 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์

ด้านสถิติ”ศึกเอล กลาซิโก้” เจอกันมาแล้วทั้งหมด 269 นัด บาร์เซโลน่าเอาชนะไป 111 ครั้ง และมาดริด เอเนฝ่ายเก็บชัยไป 99 ครั้ง ยิงประตูรวมกัน 900 ประตู สำหรับการเล่นในบ้าน “ราชันชุดขาว” ไม่แพ้ใครในบ้านติดต่อกัน 8 นัดในทุกรายการ และ แพ้เพียง 1 นัดจาก 17 นัดล่าสุด ด้านบาร์เซโลน่า ไม่แพ้ใครติดต่อกัน 24 นัดติดต่อกัน และทีมที่เขาแพ้ให้ทีมสุดท้ายคือ เรอัล มาดริด ในศึก ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า

ส่วนเอล กลาซิโก้ ครั้งที่ 270 จะเป็นเช่นไร เรอัล มาดริด จะสามารถค้วาชัย นัดที่ 100 หรือใครจะเป็นคนยืงประตูที่ 901 โรนัลโด้ จะก้าวขึ้นมาเป็นรองดาวซัลโว ในศึกเอล กลาซิโก้ ได้ไหมหลังตามหลังอัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ อยู่ 1 ประตู รอติดตามวันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดผ่านทาง BeIN Sports 2TrueID App

***********

ผลสกอร์ที่คาด : เรอัล มาดริด 1-2 บาร์เซโลน่า

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้