"ส.ขนไก่ไทย" จัดเต็ม! "ปัทมา" กางแผนปี 61 เตรียมดันมือตบติดท็อปเทนโลก
สมาคมกีฬาแบดมินตัน พร้อมเดินหน้าเต็มสูบ กางแผนงานในปี 2561 สมาคมพร้อมจัดเต็มดันนักกีฬาแบดมินตัน ขึ้นติดท็อปเทนโลก พร้อมสร้างและปรับปรุงศูนย์ฝึก
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงแผนงานของสมาคมฯ ในปี พ.ศ.2561 ว่า ตลอดปีที่แล้วเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของสมาคมฯ ทั้งในเรื่องการฝึกซ้อม, เตรียมนักกีฬา และบริหารจัดการในการส่งนักกีฬาแข่งขันเก็บคะแนนสะสมอันดับโลก
อันนำมาซึ่ง การเตรียมแผนงานในปีนี้ เพื่อพัฒนาต่อยอดจากสิ่งที่ได้ดำเนินการไว้แล้ว ส่วนข้อผิดพลาดและบทเรียนที่ได้รับในปีที่ผ่านมาจะถูกนำมาปรับปรุงแก้ไข ตามเป้าประสงค์ระยะสั้นสำหรับปี 61 ตามแผนงานของสมาคมฯ
คุณหญิงปัทมา กล่าวอีกว่า สมาคมฯ ตั้งเป้าหมายว่านักตบลูกขนไก่ไทย จะต้องก้าวขึ้นไปติด 10 อันดับแรกของวงการแบดมินตันโลกทุกประเภท จากที่ตอนนี้ติดท็อปเทน 3 ประเภท คือ หญิงเดี่ยว, หญิงคู่ และคู่ผสม ขณะเดียวกันก็จะสร้างฟิตเนส เซ็นเตอร์ ภายในสมาคมฯ ให้สมบูรณ์
พร้อมกับเสริมเรื่องของโภชนาการให้กับนักกีฬา รวมถึงพัฒนาทีมงานผู้ฝึกสอนให้มีปริมาณควบคู่ไปกับคุณภาพเพิ่มขึ้น และพัฒนาทีมงานทั้งนักวิทยาศาสตร์การกีฬา, นักสรีระวิทยา และนักจิตวิทยาการกีฬา ด้วย ซึ่งทั้งหมดจะผลักดันให้นักกีฬามีความพร้อมทั้งร่างกาย, จิตใจ และทักษะฝีมือ จึงมั่นใจได้ว่าในปี พ.ศ.2561 จะเป็นปีแห่งความสำเร็จของวงการแบดมินตันไทย
“นอกจากนี้สมาคมฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรกับ บริษัท ทรู คอร์เปอเรชั่น เพื่อประชาสัมพันธ์ ด้วยการถ่ายทอดสดการแข่งขันสะสมคะแนนอันดับโลกอย่างต่อเนื่อง การจัดทำรายการโทรทัศน์เพื่อออกอากาศในสถานีเครือข่ายของทรูและ ทรูไอดี รวมถึงการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ซึ่งจะเป็นผลดีกับวงการกีฬาแบดมินตันไทยอย่างแน่นอน” คุณหญิงปัทมา กล่าว
นายกสมาคมตบลูกขนไก่ไทย กล่าวต่อว่า เป้าหมายในปีนี้ ที่มีรายการสำคัญคือทีมชาย และทีมหญิงชิงแชมป์โลก “โธมัส-อูเบอร์ คัพ 2018” วันที่ 20-27 พ.ค. ซึ่งเราเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ที่อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี นั้น เราหวังว่าทีมหญิงจะเข้าถึงรอบรองชนะเลิศให้ได้ หลังจากเคยคว้าที่ 3 เมื่อปี พ.ศ.2555 โดยที่ผ่านมาทีมสาวไทยทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับจังหวะ และโอกาส เพราะว่า ทีมหญิงในอันดับต้นๆ ของโลกทั้ง ญี่ปุ่น, จีน, เกาหลีใต้, อินเดีย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และไทย สามารถเอาชนะกันและกันได้ แต่หากได้เสียงเชียร์จากคนไทยในสนาม จะทำให้เรามีความได้เปรียบ ทั้งในเรื่องของพลังใจและความกดดันของคู่ต่อสู้ ส่วนทีมชาย คงต้องยอมรับว่า เรายังเป็นรองคู่แข่งขันอยู่พอสมควร การผ่านเข้ารอบสองจึงเป็นเป้าหมายแรกก่อน
ส่วนมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 วันที่ 18 ส.ค.-2 ก.ย. ที่อินโดนีเซีย นั้น ทีมหญิงก็ถือว่ามีโอกาสไม่น้อย เพราะเราเคยคว้าเหรียญเงิน ในครั้งที่ 16 เมื่อปี พ.ศ.2553 ที่กว่างโจว ประเทศจีน ส่วนทีมชาย ในเวลานี้อาจเป็นเรื่องยาก แม้เราเคยได้เหรียญทองในครั้งที่ 5 เมื่อปี พ.ศ.2509 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ขณะที่ประเภทบุคคลเชื่อว่า หญิงเดี่ยว, หญิงคู่ และคู่ผสม มีโอกาสคว้าเหรียญรางวัลได้
ทั้งนี้สมาคมฯ เตรียมที่จะจัดแข่งขันรายการสะสมคะแนนโลกแรกของปีนี้ คือศึก “ปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2018 พรีเซ็นเต็ด บายเครือเจริญโภคภัณฑ์ และทรู คอร์ปอเรชั่น” วันที่ 9-14 ม.ค.นี้ ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ในราคา 50, 100 และ 500 บาท รวมทั้งบัตร VIP ที่สามารถเข้าชมได้ทุกวันราคา 2,000 บาท (พร้อมรับของที่ระลึกการแข่งขัน) ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ทิคเก็ต ในร้าน 7-Eleven หรือร้านที่มีสัญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกสาขาทั่วประเทศ และ www.allticket.com ส่วนนักเรียน นักศึกษา สามารถเข้าชมฟรีตลอดการแข่งขัน
ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports