เสียงเชียร์คือพลัง! เปิดใจ "เจนรบ สำเภาดี" กัปตันทีมทัพช้างศึกU23 ชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศจีน
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน นี่คือหนึ่งในศูนย์หน้าที่ถูกจับตามอง ว่าเป็นอนาคตของทีมชาติไทยชุดใหญ่ หลังในศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศกาตาร์ เมื่อปี 2016 เจ้าตัวแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ความเร็ว ในการต่อกรแบบข้ามรุ่นกับทีมระดับท็อปของเอเชีย
มองกลับมาที่ปัจจุบัน บทบาทจากรุ่นน้องสู่การเป็นรุ่นพี่ในช้างศึก U23 พร้อมปลอกแขนกัปตันที่ต้องคอยนำ คอยกระตุ้นน้องๆ ลงสนาม อีกครั้ง
“รายการนี้เป็นรายการใหญ่ระดับเอเชีย ผมว่ามันเป็นงานที่ยากอยู่แล้ว แต่ละทีมต่างมีมาตรฐานที่สูง” เจนรบ กล่าวเริ่ม
“ในรอบก่อนที่กาตาร์ ผมมาในฐานะรุ่นน้องในทีม ทีมเรามีคุณภาพที่สูงมาก ทั้งตัวรุ่นพี่ที่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในสโมสรได้อย่างรวดเร็ว และมีความสามารถและรวมทีมกันมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังได้เล่นกับทีมชาติไทยชุดใหญ่ ผมคิดว่ามันแตกต่างจากทีมชุดนี้ เพราะมีหลายคน ที่ไม่ได้โอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ”
“ผมยังจำได้ถึงประสบการณ์เมื่อสองปีก่อนที่กาตาร์ ผมได้ลงสองนัด เป็นตัวจริงหนึ่งนัด สำรองอีกหนึ่งนัด ผมก็เสียดายที่ไม่สามารถทำประตูได้ในครั้งนั้น แต่อย่างที่ทราบว่ามันคือระดับเอเชีย อย่างน้อยเราก็ได้ประสบการณ์จากครั้งนั้นพอสมควร ผมเองก็หวังที่จะนำเอาประสบการณ์ครั้งนั้นมาคอยบอกรุ่นน้อง ตามแต่ละสถานการณ์ไป”
ในปีที่ผ่านมา ดาวยิงจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไหร่ หลังยิงไปได้เพียงประตูเดียวเท่านั้นในระดับสโมสร “ผมเองก็กดดันนะครับที่ทำประตูไม่ได้มาก แต่ก็พยายามไม่ได้หยิบมาคิดมาก เพราะสุดท้ายเรารู้ตัวเองเสมอว่าทุกครั้งที่ลงสนามไปผมทำเต็มที่ และหากผมทำประตูไม่ได้ แต่สุดท้ายทีมเก็บชัยชนะได้ ก็ถือเป็นสิ่งที่น่าพอใจ”
“กับกระแสวิจารณ์ในช่วงที่ผ่านมา ผมทำเต็มที่เสมอเพื่อทีมชาติ ทุกนัด ผมยอมรับว่าเราอาจจะทำผลงานได้ไม่เข้าตา แต่สุดท้ายเรามีเป้าหมายชัดเจนคือจะพยายามประสบความสำเร็จให้ได้ ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกันครับ และผมก็ได้ขอโทษ และอยากจะขอโทษพี่ๆอีกครั้ง ผมเองก็ต้องกลับมาคิดว่าต้องปรับปรุงเรื่องนี้อย่างไร แต่ผมอยากให้รู้ว่าไม่ว่าผมจะทำได้ดีหรือไม่ดี แต่เมื่อลงสนามผมก็ทำเต็มที่เสมอ เพราะอยากให้เรามีความสุขด้วยกันทั้งนักฟุตบอลรวมถึงแฟนบอล”
“การแข่งขันครั้งนี้ ผมไม่ได้กดดันอะไร เพราะถ้ามองภาพรวมนี่คือประสบการณ์ที่ดีมากสำหรับพวกเราทุกคน ถ้าเราเข้ารอบต่อไปได้ มันถือเป็นการพิสูจน์ว่าเราสามารถต่อกรกับทีมระดับเอเชียได้ ครั้งก่อนทีมเก็บได้สองแต้ม ผมเองก็หวังที่จะทำให้ดีกว่าเดิม ตอนนั้นเรามีสองแต้มก็จริง และต้องไปตัดสินการเข้ารอบที่ประตูได้เสีย ทุกคนก็รู้เลยว่านี่แหละคือระดับเอเชีย แต่ละทีมต่างมีมาตรฐานสูง แต่ละแต้มที่ได้มาต่างมีคุณค่ามาก”
“ผมอยู่กับทีมชุดนี้มานาน ผมเองก็หวังว่าจะออกสตาร์ทด้วยการเก็บชัยชนะให้ได้ สุดท้ายผมอยากกล่าวขอโทษพี่ๆแฟนบอลทุกคน ที่เราทำผลงานในช่วงก่อนหน้านี้ได้ไม่ตามเป้า แต่เราทำเต็มที่เสมอ และพยายามเอาข้อผิดพลาดมาพัฒนาเสมอ ผมอยากขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจกับพวกเรา คนที่เชียร์เรา เราก็จะรับมันไว้ และนำเป็นพลัง เช่นเดียวกับคนที่ติเรา เราก็จะนำเอาคำนั้นมาเป็นตัวพิสูจน์และพัฒนาตัวเองต่อไป เพราะทุกคำพูด ทุกกำลังใจต่างเป็นแรงฮึดสำคัญที่ทำให้พวกเรารู้ว่าต้องสู้เพื่อใคร และลงสนามไปเพื่ออะไร”
ฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะลงซ้อมอีกครั้งที่สนามแข่งขัน เจียงหยิน สปอร์ต เซนเตอร์ ในวันที่ 9 มกราคม 2561 เวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะประเดิมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี กลุ่ม บี มีดังนี้
วันที่ 10 มกราคม 2561
คู่ที่ 1 เกาหลีเหนือ U23 พบ ไทย U23 ที่สนาม เจียงหยิน สปอร์ตส์ เซ็นเตอร์ เวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ช่อง 7 สี และ บักกาบู ทีวี ถ่ายทอดสด
คู่ที่ 2 ญี่ปุ่น U23 พบ ปาเลสไตน์ U23 ที่สนาม เจียงหยิน สปอร์ตส์ เซ็นเตอร์ เวลา 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
วันที่ 13 มกราคม 2561
คู่ที่ 1 ปาเลสไตน์ 23 พบ เกาหลีเหนือ U23 ที่สนาม เจียงหยิน สปอร์ตส์ เซ็นเตอร์ เวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่ที่ 2 ไทย U23 พบ ญี่ปุ่น U23 เจียงหยิน สปอร์ตส์ เซ็นเตอร์ เวลา 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ช่อง 7 สี และ บักกาบู ทีวี ถ่ายทอดสด
วันที่ 16 มกราคม 2561
คู่ที่ 1 ญี่ปุ่น 23 พบ เกาหลีเหนือ U23 ที่สนาม เจียงหยิน สปอร์ตส์ เซ็นเตอร์ เวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่ที่ 2 ไทย U23 พบ ปาเลสไตน์ U23 ที่สนาม ฉางโจว โอลิมปิก สปอร์ตส์ สเตเดี้ยม เวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ช่อง 7 สี และ บักกาบู ทีวี ถ่ายทอดสด
ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports