รีเซต
AFL The Club : รู้จักทีม "Fremantle Dockers" ผู้ตามหาแชมป์แรก ... by "RUT"

AFL The Club : รู้จักทีม "Fremantle Dockers" ผู้ตามหาแชมป์แรก ... by "RUT"

AFL The Club : รู้จักทีม "Fremantle Dockers" ผู้ตามหาแชมป์แรก ... by "RUT"
kentnitipong
12 มกราคม 2561 ( 14:04 )
122

AFL The Club : Fremantle Dockers ผู้ไม่เคยคว้าแชมป์ AFL น้องคนสุดท้องของ Western Australia ผู้พยายามที่จะแซงหน้า West Coast Eagles ให้ได้ สโมสรก่อตั้งขึ้นในปี 1994 และเข้าร่วมลีก AFL ในฤดูกาล 1995 และเป็นทีมที่ถูกถล่มเละซ้ำแล้วซ้ำเล่า 8 ฤดูกาลติดต่อกันที่ Freo จบฤดูกาลในลำดับสุดท้าย

 

 

จนกระทั่งฤดูกาล 2003 Freo จึงสามารถหนีบ๊วยได้สำเร็จไม่พอทีมยังจบในตำแหน่งที่ 5 ได้เข้า Final Series เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรในทันที

และปี 2006 ควรจะเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของทีม 9 เกมสุดท้ายในฤดูกาลปกติทีมชนะรวด พร้อมจบที่ 3 เข้ารอบ Final Series ด้วยโมเมนตั้มแบบนั้นใครๆ ก็ว่าถึงเวลาแล้วที่ Freo จะได้แชมป์หรืออย่างน้อยควรได้เข้าชิง และแล้วพวกเขาก็…

 

ฝันสลาย………..

 

Sydney Swans แชมป์ปี 2005 ขวางทางไว้ในรอบ Preliminary Final หรือรอบรองฯ พร้อมดับฝัน Western Derby Grand Final เพราะทีมที่เข้าชิงกับ Swans คือ West Coast Eagles

แปดปีต่อมาความฝันครึ่งหนึ่งของ Fremantle ก็เป็นจริง ทีมจบลำดับที่ 3 ในฤดูกาลปกติ และฝ่าฟันจนเข้าถึง AFL Grand Final แต่น่าเสียดายทีมที่ยืนขวางทางคือ Hawthorne Hawks และด้วยเพราะอาจะเป็นครั้งแรกที่ทีมเข้าชิง ด้วยประสบการณ์ของผู้เล่น การตื่นสนาม การโดนทิ้งห่างตั้งแต่ควอเตอร์แรกทำให้ Freo พ่ายไปในนัดชิง…

จนถึงปัจจุบัน Freo ก็ยังต้องหาแชมป์แรกของทีมต่อไป

Freo Dockers เคยมีรังเหย้าคือ Subiaco Oval แต่ในฤดูกาลหน้า Freo จะย้ายรังเหย้าไปอยู่สนามแห่งใหม่ (รวมทั้ง Eagles) Perth Stadium หรือ Optus Stadium ที่มีความจุ 60,000 คน และจะเป็นสนามใหญ่ที่สุดลำดับ 3 ของ AFL

 

 

ถึงแม้ทีมจะไม่ได้ก่อตั้งนานเท่าทีมอื่น แต่ Freo ก็สร้างผู้เล่นระดับตำนานของลีกไว้ โดยเฉพาะ Matthew Pavlich ผู้เป็นตำนานของทั้งทีม และวงการ ผู้เป็นผู้นำของทีมไม่ว่าทีมจะอยู่ในช่วงไหน Pav ถูกดราฟท์ลำดับที่ 4 ในปี 1999 (ถูกดราฟท์พร้อมกับอีกหนึ่งตำนานของทีม Paul Hasleby) หนึ่งในสุดยอดผู้เล่นตำแหน่ง Center Half-Forward ซึ่งทำ 700 ประตูจาก 353 เกมที่ลงเล่น (แน่นอนทั้งหมดเล่นให้ทีมเดียว) พร้อมติดทีม All-Australia 6 สมัย

ถึงแม้จะเริ่มต้นอาชีพในตำแหน่ง Full-back (แถมติดทีม All-Australia 2002 ในตำแหน่งนี้ด้วย) แต่ตำนานความเป็น CHF เริ่มต้นในฤดูกาลต่อมา Pav เป็นคนทำประตูได้มากที่สุดของทีม 8 ฤดูกาล โดยเฉพาะปี 2007 ที่เล่นในตำแหน่ง Full-Forward (192 ซม ถือว่าไม่สูงมากสำหรับตำแหน่งนี้) พร้อมทำ 72 ประตู น่าเสียดายที่ได้แค่ที่ 2 ของรางวัล Coleman Medal (คนทำประตูสูงสุด)

Pav เลิกเล่นในฤดูกาล 2016 และปัจจุบันหันมาทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการเวลาถ่ายทอดสดการแข่งขัน

 

 

ทีมชุดปัจจุบันนำโดย 2015 Brownlow Medalist ซูเปอร์สตาร์ Nat Fyfe ผู้ที่ถูกเลือกมาในรอบสอง Nat Fyfe เป็นมิดฟิลด์ตัวใหญ่ ที่เก่งมากในการ winning Clearance ด้วยความได้เปรียบรูปร่างทำให้ยากที่จะแทค Fyfe ให้ลงไปกองกับพื้น น่าสียดายที่ในช่วง 2 ปีหลัง Natต้องฝ่าฟันกับปัญหาการบาดเจ็บ ทำให้ทีมอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด การขาดหายไปของเค้าถึงขั้นทำให้ทีมที่ลุ้นแชมป์กลายเป็นทีมที่ไม่มีลุ้นกระทั่งจบลำดับ top 8

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ Fyfe เข้าแคมป์ Pre-season โดยไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนแม้แต่น้อย นั่นเป็นข่าวดีของทีมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะแผงมิดฟิลด์ของทีมที่จะได้ Fyfe กลับมาช่วยงาน David Mundy Lachie Neale ในการเอาบอลจาก Ruck มาเล่น สองพี่น้องตระกูล Hill Bradley และ Stephen ที่มี Speed ในการทำเกมด้านข้าง (Wing)

 

 

และในตำแหน่ง Ruckman ถึงแม้จะเป็นช่วงสุดท้าย หรืออาจจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของ Aaron Sandilands ยักษ์ใหญ่ 211 Cms ที่เอาชนะในการ Hitout เอาบอลมาให้มิดฟิลด์ของทีม ( Hiout to Advantage) ครั้งแล้วครั้งเล่า ฤดูกาลแล้วฤดูกาลเล่า ด้วยข้อได้เปรียบเรื่องความสูงใหญ่ Sandilands ไม่เสียเปรียบ Ruckman หน้าไหนก็ตามในลีก การันตีด้วยการติดทีม All-Australia 4 สมัย

แต่นอกจากจะเป็นจุดแข็งของทีมแล้ว Sandi ก็เป็นจุดอ่อนของทีมไปในตัว เพราะความเปราะของร่างกายทำให้ปีหลังๆ แทบไม่เคยลงเล่นครบ แม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์แต่พอผ่านฟิตก็ต้องลงเล่น ดังนั้นพัฒนาการในตำแหน่งนี้ของทีมจึงไม่ไปไหน เด็กๆ อย่าง Apeness Darcy หรือ Ruckman คนอื่นที่เข้ามาไม่ได้ลงเต็มเม็ดเต็มหน่วยจนทำให้ต้องตัดสินใจย้ายออกหรือพัฒนาไม่ทัน

ดังนั้น Sandilands ก็ต้องลงเล่นไปเรื่อยๆ ปีนี้ที่เคยบอกว่าเป็นปีสุดท้ายก็อาจจะไม่ใช่ก็ได้ถ้าจบฤดูกาลทีมยังหาคนแทนไม่ได้ดีพอ

 

 

เด็กๆ ภายใต้การคอนโทรลของ โค้ช Ross Lyon ผู้เคยพาทั้ง Fremantle Dockers และ Saint Kilda เข้าชิง AFL Grand Final อาจจะยังต้องใช้เวลาเติบโตอีกซักพัก โดยเฉพาะในแดนหน้าที่ชีวิตหลัง Pav ไม่ง่ายเลย ทั้งการเทรด Cam McCarthy หรือ Shane Kersten มาช่วยในการมาร์ค และทำประตูก็ไม่เข้าเป้า แม้จะมีกองหน้าตัวเล็กอย่าง จอมห้าว Hayden Ballantyne (ใครชอบนักบอลสไตล์ หลุยส์ ซัวเรซ แนะนำให้เชียร์ Dockers เลย (พวกแบดบอยแต่ถ้าอยู่ทีมตัวเองแล้วเกลียดไม่ลง แต่ทีมอื่นแช่งชักหักกระดูก)

แผงมิดฟิลด์นอกจาก Fyfe Mundy และ Neale ที่เหลือก็ยังเป็นเด็กที่พึ่งดราฟท์เข้ามาหรืออยู่ในช่วงปีที่ 1-3 ของอาชีพก็ยังต้องใช้เวลาสร้างร่างกายบวกประสบการณ์อย่าง Brayshaw Cerra Blakeley หรือ Cox แผงหลังด้วยสไตล์ของ Lyon ที่เน้นเหนียวแน่น โดยบางครั้งชอบมีกองหลังเพิ่มเป็น 7 ตัว (Lose Man Back โดยมากฟุตตี้เล่นหลัง 6 กลาง 6 หน้า 6) เพื่อความเหนียวแน่น แถมการ Trade Joel Hamling Full-Back ระดับแชมป์มาจาก Western bulldogs ก็ช่วยให้เกมรับยิ่งมั่นคงทนทาน

ปีนี้คงขึ้นกับ Nat Fyfe และมิดฟิลด์หลักว่าจะแบกทีมไหวหรือไม่ รวมถึง Ruckman คนอื่นที่จะมาช่วยงาน Sandi โอกาสจบ Top8มีแต่ไม่มาก ก่อนที่อีก 3 ปีข้างหน้าดาวรุ่งที่ขึ้นมาอาจพาทีมไปได้ไกลกว่านี้

 

Freo way to go
Hit ‘em real hard send ‘em down below
Oh Freo give ‘em the old heave ho
We are the Freo Dockers

Freo way to go
Hit ‘em real hard send ‘em down below
Oh Freo give ‘em the old heave ho
We are the Freo Dockers

We’re the rollers
We’re the rockers We’re the mighty Freo Dockers
We’re gonna roll ‘em and we’ll rock ‘em
We’re gonna send ‘em to the bottom

And if they get up, we’ll do it again
The Dockers stop at nothing – nothing

Freo way to go
Hit ‘em real hard send ‘em down below
Oh Freo give ‘em the old heave ho
We are the Freo Dockers

Freo way to go
Hit ‘em real hard send ‘em down below
Oh Freo give ‘em the old heave ho

We are the Freo Dockers !!!

 

 

Cheers Mate

 

“RUT”

 

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้