รีเซต
TRUE OPINIONS : "อาเซียนนิยม" 3 ดาวเตะอาเซียนที่น่าจับตาในไทยลีก 2018 ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์"

TRUE OPINIONS : "อาเซียนนิยม" 3 ดาวเตะอาเซียนที่น่าจับตาในไทยลีก 2018 ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์"

TRUE OPINIONS : "อาเซียนนิยม" 3 ดาวเตะอาเซียนที่น่าจับตาในไทยลีก 2018 ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์"
kentnitipong
23 มกราคม 2561 ( 18:25 )
6.8K

TRUE OPINIONS : พักลีกไปนานโข ฤกษ์ดี 9 กุมภาพันธ์ เกมลูกหนัง ไทยลีก 2018 เวทีโม่แข้งลีกสูงสุดของเมืองไทยจะกลับมาลงสนามกันอีกครั้งเป็นฤดูกาลที่ 22 ความคึกคักของเหล่าแฟนบอลที่นับวันรอถือว่าเต็มเปี่ยม แม้ก่อนเปิดลีกจะมีเรื่องชวนงงในการเคลื่อนไหวของทีมใหญ่ย่านแจ้งวัฒนะ อย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็ตามที

 

 

เหตุเพราะพวกเขาตัดสินใจปล่อย 3 ผู้เล่นที่ดีที่สุดทั้งในสโมสร และทีมชาติอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน ที่ควงแขนกันไปญี่ปุ่น รวมทั้ง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่ไปไกลยังเบลเยี่ยม แน่นอนเรื่องนอกสนาม เมืองทองฯ คงมีกำไรแน่จากมุมมองของทีม ทว่าศักยภาพโดยรวมของทีมคงปฏิเสธไม่ได้ว่าลดลง แม้จะได้รองดาวซัลโวอย่าง จาจ้า มาร่วมทีม

ขณะที่แชมป์เก่าอย่าง บุรีรัมย์ อันดับ 3 อย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ แชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ อย่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ต่างเติมตัวผู้เล่นกันอย่างสนุกมือ พูดได้เต็มที่ว่าดีขึ้นจากปีก่อนหรือไม่แต่ไม่มีด้อยลงไปอย่างแน่นอน ส่วน เอสซีจี เมืองทองฯ นั้นคงต้องรอหาคำตอบบกันต่อไป เพราะขณะที่เขียนอยู่นั้นการเติมเต็มผู้เล่นรับฤดูกาลใหม่ก็ยังไม่เป็นปิดลงอย่างเป็นทางการโอกาสติดปีกคู่ใหม่ของ กิเลนผยอง ก็ยังพอเป็นไปได้

ทั้งนี้ในฤดูกาล 2018 ที่จะมาถึง มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากในเรื่องการซื้อนักเตะใหม่ที่เติมเข้ามาในกฏระเบียบสมาคมปีนี้นั่นคือ โควต้านักเตะอาเซียน

จากเดิมปี 2017 ทีมลงทะเบียนได้ 5 คน เป็นตัวนอกเอเชียได้ 4 และตัวในเอเชีย 1 คน แต่เวลาลงสนาม ได้ 4 คนทว่า 1 ในนั้นจะต้องเป็นตัว เอเชีย มาปีนี้ ทีมลงทะเบียนได้ 5 คนเช่นกัน แต่เป็นตัวนอกทวีปเอเชีย 3 ราย ตัวเอเชีย( AFC) 1 คน และโควต้านักเตะอาเซียน อีก 1 คน สิทธิในการลงสนามไม่ได้เปลี่ยนไป ลงสนาม ได้ 4 คนทว่า 1 ในนั้นจะต้องเป็นตัว เอเชีย

จากดำริแรกของการหยิบกฏนี้มาใช้ มีเสียงสนับสนุนเพราะถือเป็นการโต้ลมไปกับเศรษฐกิจภาพรวมที่ประเทศไทยเรากำลังเปิดตลาดอาเซียน ต้อนรับการเปิดประตูเป็นครอบครัวสมาคมอาเซียน หากสามารถหาฐานแฟนบอลจากเพื่อนบ้านมาได้ และถูกหวยนักเตะคนนั้นเล่นดีด้วยถือเป็นการต่อยอดการตลาดได้เพียบทั้งความนิยมของทีม และการท่องเที่ยว เงินต่อเงินกันไป

แนวคิดนี้มีกระแสต่อต้านอยู่พอตัว โดยเฉพาะจากกลุ่มโค้ชคนทำงานจริง หลายคนมองว่าในมุมฟุตบอลในสนาม เรื่องนี้ไม่มีผลบวกต่อบอลไทยเท่าที่ควรจะเป็นเวทีปั้นนักเตะต่างชาติมากกว่า สู้ใช้โอกาสแบบนี้ทำเป็นข้อบังคับให้แต่ละทีมต้องส่งผู้เล่นอายุน้อยทั้งรุ่นไม่เกิน 23 หรือ 21 ปี ลงเล่นจะเป็นผลบวกมากกว่า ลำพังกฏเดิมผู้เล่นไทยก็ไม่มีบทบาทสำคัญในเกมอยู่แล้ว ทั้งตำแหน่งตัวป้องกันอย่าง เซนเตอร์ฮาล์ฟ กลางตั้วปั้นเกม รวมทั้งกองหน้า เห็นได้จากบรรดาทีมลุ้นแชมป์ผู้เล่นสามตำแหน่งดังกล่าวมีแต่ต่างชาติ

เรื่องดังกล่าวดูจะเป็นจริงเพราะผลงานในทีมชาติชุดรองลงมาทั้ง U23 – U21 ช่างกระท่อนกระแท่นอ่อนใจ โดยเฉพาะ U23 เล่นไม่ได้ใจแฟนบอลเท่าไหร่ตั้งแต่แชมป์ซีเกมส์ที่มาเลเซีย ไล่มาผลงานเด็ดชิงแชมป์เอเชียที่จีน ซึ่งโดนไป 7ลูก ยิงได้ 1 แพ้ 3 เกมรวด ตกรอบไม่ได้ลุ้นทำเอาสมาคมฟุตบอลงานเข้า นี่ยังไม่รู้เลยว่าเอเชี่ยนเกมส์ปลายปีนี้ ทีมฟุตบอลชายที่จะไปเล่นจะเป็นชุดไหนน้องๆ กลุ่มนี้จะได้โอกาสอีกหรือไม่

อย่างไรก็ตามทางทีมเองให้เหตุผลตรงๆ ว่าในดังกล่าวว่า ภาวะการแข่งขันการลงทุนสูงแน่นอนพวกเขาอยากได้ผู้เล่นที่ดีที่สุดเพื่อโอกาสชนะไม่ได้จำกัดว่าชาติใด

คงแปลได้ไม่ผิดเพี้ยนว่าทีมไม่ปิดกั้นคนไทยแต่เด็กไทยเองรึเปล่าที่เก่งไม่พอมาเบียดตำแหน่งดังกล่าวจนต้องไปหาต่างชาติมาใส่ในสนาม

ย้อนกลับที่โควต้าอาเซียน ถนอกจากจะเป็นเรื่องแปลกใหม่แล้วการใช้สิทธินี้ยังสะท้อนแนวทางการตลาดที่แสดงออกมาชัดเจนรับนโยบายใหม่กับสิทธิ โควต้าอาเซียน

บางทีมใช้ให้เกิดประโยชน์กับศักยภาพทีมเต็มที่ ก็ไปหามาพวก แอฟริกา ยุโรป โอนสัญชาติ ไม่ก็มีส่วนเกี่ยวดองหนองยุ่งเรื่องเชื้อชาติ บางทีมเลือกใช้นักเตะอาเซียนแท้เพื่อหวังผลในทางอ้อมเรื่องการตลาด เรียกความนิยมจากชาติเพื่อนบ้านไปพร้อมกับหวังให้แข้งอาเซียนแท้ๆ เหล่านั้นทำผลงานได้ดีควบคู่กันไป

เรื่องกระแสอาเซียนนิยม อย่าทำเป็นเล่นนะครับ อย่างที่รู้กันว่าแรงงานอาเซียนในไทยแบบที่จดทะเบียนถูกตอง หรือเทาๆลางๆนับแล้วก็หลายล้านคนอยู่ หากจับตลาดได้จริงๆ ด้วยการเอาซูเปอร์สตาร์ของประเทศเขามาใช้งานจนเกิดได้ละก็สบายเปิดทางสะดวก

เอาเป็นว่าช่วงท้ายนี้เราไปทำความรู้จัก 3 ดาวเตะอาเซียนที่น่าจับตาในไทยลีก 2018

 

***********

 

จอ โค โค (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

 

 

ว่ากันว่าเขาคือ คริสเตียโน โรนัลโด้ ของเมียนมาร์ ด้วยรูปร่างบึกบึนแกร่ง ไปกับบอลได้เยี่ยมเร็วและจบสกอร์ได้น่ากลัว แฟนบอลอาเซียนบ้านเราคุ้นชื่อเขามาตั้งแต่ปี ซูซูกิ คัพ  2010 เพราะเจ้าตัวติดทีมชาติชุดใหญ่มาตั้งแต่ 17 เก็บประสบการณ์เรื่อยมาทั้งดาวซัลโวร่วมฟุตบอลซีเกมส์ 2013 พร้อมกวาดแชมป์ในประเทศ จนมาวันนี้ จอ โค โค ในวัยเบญจเพส มีโอกาสมาพิสูจน์ฝีเท้าในไทยลีก ลีกที่ดีที่สุดของอาเซียนถือว่าน่าจับตา แม้ฟอร์มในการอุ่นเครื่องจะไม่ดีนักก็ตาม

 

ฮอง วู แซมซั่น (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

 

 

นักเตะไนจีเรียที่โอนสัญชาติมาเป็นเวียดนามเมื่อปี 2013 เก่งครบเครื่องในฐานะกองหน้า เร็ว ใหญ่ คม คือสรรพคุณของเขา พ่วงดีกรีมากมายทั้งแชมป์ลีกสูงสุดเวียดนาม 2 สมย ดาวซัลโว อีกสองสมัย ในสีเสื้อ ฮานอย ซิตี้ ด้วยวัย 29 ปี เชื่อแน่ว่าเจ้าตัวมีโอกาสแทรกขึ้นมาเป็นตัวจริงของแชมป์เก่าบุรีรัมย์ได้เลย

 

อ่อง ธู (โปลิศ เทโร เอฟซี)

หากคุณไม่เคยได้ยินชื่อนี้ เราจะบอกว่า อ่องธู คือนักเตะที่เก่งที่สุดในเมียนมาร์ตอนนี้ สื่อต่างชาติมากมายฟันธงว่ารุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เจาดีที่สุดในอาเซียน และเก่งระดับท็อป 5 เอเชีย เจ้าของดาวซัลโวซีเกมส์ ครั้งล่าสุดที่ มาเลเซีย พร้อมพาเมียนมาร์ ไปฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี อย่าสมภาคภูมิ แน่นอนว่านี่คือนักเตะทีมชาติเมียนมาร์ชุดใหญ่

ในวัย 21 ปี แน่นอนว่านี่คือหนึ่งในตัวต่างชาติที่น่าจับตามองที่สุดในไทยลีก 2018

 

“ต็อกตั้ม”

 

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้