รีเซต
"ความผิดหวัง น้ำตา และกำลังใจ" : บันทึกการเดินทางกับทัพ "ช้างศึก U23" ... by "พี่หมอเอก"

"ความผิดหวัง น้ำตา และกำลังใจ" : บันทึกการเดินทางกับทัพ "ช้างศึก U23" ... by "พี่หมอเอก"

"ความผิดหวัง น้ำตา และกำลังใจ" : บันทึกการเดินทางกับทัพ "ช้างศึก U23" ... by "พี่หมอเอก"
kentnitipong
26 มกราคม 2561 ( 11:00 )
1.5K

พี่หมอเอก : หายหน้าไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ที่ไม่ได้เขียนบทความลงใน TrueID Sports ตามปกติอันเนื่องมาจากผมติดภาระกิจต้องเดินทางไปทำหน้าที่แพทย์ประจำทีมฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีลงแข่งขันในรายการชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศจีน

 

 

หากใครได้ติดตามผลการแข่งขันก็คงจะทราบดีว่าเราต้องตกรอบแรกมาอย่างชอกช้ำด้วยการแพ้รวด 3 นัด จากนัดเปิดหัวนัดแรกที่แพ้ต่อเกาหลีเหนือ 0-1 จากลูกยิงในแค่ช่วงห้านาทีแรกของการแข่งขัน ตามมาด้วยนัดที่สองที่น้องๆนักฟุตบอลช่วยกันวิ่งช่วยกันเล่นจนมาพลาดอย่างน่าเสียดายในนาทีสุดท้ายที่ถูกทีมชาติญี่ปุ่นยิงได้แล้วเราแพ้ไป 0-1 ทำให้เราลงแข่งแค่สองนัดก็ตกรอบสนิทแล้วเรียบร้อย

เมื่อมาลงแข่งนัดสุดท้ายกับปาเลสไตน์ที่เราหวังเต็มที่จะแก้ตัวเก็บแต้มกลับบ้าน แต่ด้วยความสับสนอลหม่านในแผนการเล่น และการยืนตำแหน่งทำให้เราโดนลงโทษด้วยการถูกต้อนไปถึง 5-1

เราต้องตกรอบกลับบ้านอย่างชอกช้ำ…

 

 

 

ความจริงแล้วน้องๆ นักฟุตบอลทีมนี้ได้มีการรวมตัวอยู่ด้วยกัน มีการเรียกมาซ้อมมาอุ่นเครื่อง มีทัวร์นาเม้นต์แข่งขันต่อเนื่องเป็นระยะกันมาปีกว่าๆ โดยการบริหารจัดการ และการวางแผนของ “มาดามเดียร์” ผู้จัดการทีมคนสวยขวัญใจมหาชนร่วมกับทีมงานที่มี “โค้ชโย่ง” เป็นหัวหน้าใหญ่ จนสามารถสร้างผลงานได้แชมป์เหรียญทองซีเกมส์ ซึ่งผมถือว่าเป็นการแข่งขันที่มีความยากมากที่สุด เนื่องจากเราต้องลงแข่งขันวันเว้นวันแทบตลอดทัวร์นาเม้นต์บนสภาพความกดดันทั้งจากคู่ต่อสู้ และความคาดหวังของแฟนบอลชาวไทยที่มีต่อทีมในทุกนัดที่ลงทำการแข่งขัน หลังจากได้เหรียญทองซีเกมส์มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ หลายต่อหลายอย่าง รวมถึงนักฟุตบอลที่มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่บ้างแต่อยู่บนพื้นฐานแกนหลักของทีมเดิมอยู่

ในวันที่การแข่งขันชิงแชมป์เอเชียกำลังเดินทางมาสู่รอบชิงชนะเลิศพร้อมกับการสร้างประวัติศาสตร์ในระดับเอเชียของทีมชาติเวียดนาม หลังสามารถหักด่านกลุ่มแห่งความตายในรอบแรกที่ต้องอยู่ร่วมกับทั้ง เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และซีเรีย ก่อนตะลุยฝ่าฟันดงแข้งระดับพระกาฬของเอเชียจนสามารถผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้อย่างเต็มภาคภูมิ

เวียดนามทีมเดียวกันนี้ไม่ว่าจะเจอเรากี่ครั้งในรอบปีที่ผ่านมา ทีมชาติไทยของเราสามารถเก็บชัยชนะได้ในเกมการแข่งขันที่สนุกสนานทุกครั้ง แถมเจ็บช้ำที่สุดคือการที่ถูกเขี่ยตกรอบแรกซีเกมส์ด้วยน้ำมือของทีมชาติไทยเรา แต่เมื่อเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่เดือนที่ทั้งเรา และเขาต่างมีการเปลี่ยนแปลงทั้งโค้ช และตัวผู้เล่นจากชุดเดิมเช่นเดียวกัน ผลงานของทั้งสองทีมกลับสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง

ในฐานะแพทย์ประจำทีมที่คลุกคลีอยู่กับทีมนี้มานาน รู้จักสนิทสนมจนรู้สึกผูกพันจนเหมือนพี่น้องจริงๆ จนหลายๆ ครั้งที่ผมเขียนถึงทีมนี้ก็มักจะติดแฮชแท็กว่า #ทีมนี้พี่รัก ในวันที่เราเจ็บช้ำจากผลการแข่งขันที่ไม่ได้เป็นดังหวังทั้งที่น้องๆ ได้พยายามทำหน้าที่นักฟุตบอลเต็มที่ด้วยความรับผิดชอบแบบมืออาชีพจริงๆ ผมจึงต้องการบอกกับแฟนบอลว่ากรุณาให้กำลังใจ และสนับสนุนน้องๆ ต่อไปครับ

 

 

 

 

สำหรับการทำงานกับทีมชาติโดยเฉพาะฟุตบอล และเป็นการแข่งขันที่ต้องออกไปทำการแข่งขันที่ต่างประเทศ ในฐานะแพทย์ประจำทีมจำเป็นที่จะต้องเตรียมการเรื่องยา อุปกรณ์การแพทย์ และเครื่องไม้เครื่องมือให้พร้อมที่สุดเพราะการจะไปหาซื้อที่ต่างประเทศหรือแม้กระทั่งไปหาซื้อยาในต่างประเทศทำได้ไม่ง่ายเลย

ในแต่ละครั้งที่เดินทางไปทำหน้าที่นั้นทีมงานทางด้านการแพทย์ประกอบด้วย แพทย์ประจำทีม, นักกายภาพบำบัด, นักวิทยาศาสตร์การกีฬา, หมอนวด ซึ่งจะช่วยกันทำหน้าที่ตรวจรักษา ฟื้นฟูสภาพ และเตรียมความพร้อมของนักกีฬาให้พร้อมที่สุดสำหรับการซ้อม และแข่งขัน โดยจะทำงานร่วมกับทีมงานโค้ชตลอดเวลาที่ทำงานด้วยกัน

ระหว่างการแข่งขันที่ตามระเบียบที่ต้องจัดที่พักให้ทีมพักในโรงแรมนั้น เราจะเปิด 1-2 ห้องเป็นห้องสำหรับทำการรักษา และนวดให้กับนักกีฬา ถือได้ว่าเป็นแหล่งซ่องสุมหลักที่จะมีนักฟุตบอลมาต่อคิวรอนวด รอรักษา หรือแม้กระทั่งมานั่งกินขนม นั่งคุย เล่นเกมในช่วงค่ำของแต่ละวันจนถึงเวลาประมาณ 4-5 ทุ่มจึงจะปิดห้องรักษาได้

ห้องรักษานี้จึงมีความสำคัญทั้งในแง่ของสุขภาพร่างกายที่จะต้องมารับการรักษา และรวมไปถึงสุขภาพจิตที่นักกีฬาจะมาพูดคุยเรื่องราวต่างๆทั้ งคุยกันเอง และคุยกับทีมงานแพทย์เหมือนกับที่คุยกับญาติพี่น้อง จากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายปีในฐานะแพทย์ประจำทีม ผมชื่นชม “คุณเดียร์” อดีตผู้จัดการทีมของทีมชุดนี้ที่มักจะเข้ามานั่งในห้องรักษาเพื่อดูอาการของน้องๆ นักฟุตบอล และพูดคุยกับน้องๆ เพื่อทำความรู้จัก และสนับสนุนกำลังใจ รวมถึงรับทราบปัญหาต่างๆ จากปากของน้องๆ อยู่เป็นประจำ

ที่ผ่านมาทีมชุดนี้มีความพร้อมทั้งการสนับสนุนด้านต่างๆ จากสมาคมฟุตบอลฯ การสนับสนุนทางด้านวิชาการโค้ชจาก “โค้ชเฮง” การทำงานอย่างหนักของทีมงานสต๊าฟที่แต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบทำงานช่วยเหลือเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนทีม มีผู้จัดการทีมที่มีการบริหารจัดการทีมที่ดีเป็นระบบ และใส่ใจทุกรายละเอียดของทีม มีน้องๆ นักฟุตบอลที่มีทัศนคติที่ดี และมีความเป็นมืออาชีพ

ถ้าหากอยากจะเห็นฟุตบอลทีมชาติไทยก้าวไปข้างหน้า ผมมีความเห็นส่วนตัวจากที่เคยคลุกคลีกับทีมชาติมา 5-6 ปีว่าเราอาจจะต้องมาถอดบทเรียนจากความสำเร็จของทีมชาติชุดซีเกมส์มาสู่ความล้มเหลวของเราในฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย เพื่อเราจะได้ก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง และมั่นคงกับงานที่รออยู่ข้างหน้าในเวลาไม่นานจากนี้คือ เอเชี่ยนเกมส์ และการแข่งขันรอบคัดเลือกโอลิมปิกที่จะมาถึง

ถึงเวลานั้นเราจะประสบความสำเร็จในเชิงฟุตบอลตามแนวทาง Thailand’s way กันครับ

 

“พี่หมอเอก”

 

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้