EXCLUSIVE : คุยกับ มิก้า ร่วมเผยสาเหตุทำไมแบงค็อกเสียประตูเยอะ -ยันทีมไม่เปลี่ยนสไตล์

มิก้า ชูนวลศรี กองหลังทีมชาติไทยของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ออกโรงยืนยันว่าทีมจะยังไม่เปลี่ยนรูปการเล่น พร้อมเปิดหน้าบุกเหมือนเดิม ด้านนักเตะใหม่ที่เข้ามาร่วมทีม จะช่วยยกระดับทีมขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

ในฤดูกาลที่ผ่านมามีคำถามเกิดขึ้นมามากมาย กับแผงหลังของสโมสรอันดับ 3 ของไทยลีกอย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พวกเขาเสียไปมากถึง 57 ประตู เท่ากับทีมอันดับที่ 14 อย่างบีอีซี เทโรศาสน และมากกว่า อันดับ 13 อย่างราชนาวี ที่เสียไปเพียง 50 ประตูเท่านั้น

ทางทีม TrueID Sports ได้โอกาสสัมภาษณ์ ปราการหลังตัวหลักของทีมอย่าง มิก้า ชูนวลศรี ถึงสาเหตุว่าเหตุได้ทีมชั้นนำของไทยลีก ถึงได้เสียประตูมากขนาดนี้

“พูดกันตามตรง ถ้าดูรายชื่อผู้เล่นในแผงหลังของเรา เรามีนักเตะที่มีคุณภาพระดับท็อปๆ ของลีก แต่สาเหตุจริงๆ ที่ทีมเราเสียประตูเยอะคือทีมเราเน้นการเล่นเกมรุกมาก ถ้ามาอยู่กับเรา เห็นวิธีการซ้อมของเราโดยตลอด จะเข้าใจว่าเราเป็นทีมที่รุกเต็มตัว ดังนั้นแผนการเล่นในเกมรับเราจะเล่นแบบหนึ่งต่อหนึ่ง (Man-to-Man) เพื่อให้ผู้เล่นในเกมรุกเรามีมากขึ้น เพื่อให้เรายิงประตูให้ได้มากที่สุด” มิก้า ผู้ถึงแผนการเล่นเกมรับของ แบงค็อก ยูไนเต็ด

“เพราะฉะนั้นมันอยู่ที่วิธีการเล่นมากกว่า แต่ปีนี้เราก็พร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไข แต่วิธีการเล่นของเราจะต้องไม่เปลี่ยนไป เราจะยังเล่นเกมรุกเหมือนเดิม เราต้องชนะให้ได้มากที่สุด เรื่องการเสียประตูใครๆ ก็ไม่อยากเสีย โดยเฉพาะผมที่เล่นในตำแหน่งกองหลังยิ่งไม่อยากเสียประตู แต่ถ้าทีมชนะ ก็ไม่มีปัญหา ทางด้านมาโน่ (โพลกิ้ง) ก็พูดอยู่ตลอดว่าเขาไม่ซีเรียสว่าใครจะพูดยังไง ทีมเรา เราเน้นเกมรุกเป็นหลัก”

“แต่พอมาเจอทีมใหญ่ๆ เราก็อาจจะต้องมาโฟกัสในเกมรับมากขึ้น และผู้เล่นที่เข้ามาใหม่ เขาก็เข้ามาช่วยทีมได้ค่อนข้างเยอะ และเราอาจจะปรับการเล่นเล็กในแดนหน้าเล็กน้อย เพื่อที่จะได้ดึงศักยภาพ ของผู้เล่นต่างชาติที่เข้ามาใหม่ให้ได้มากที่สุด”

โดยปกติแล้วการเล่นเกมรับในโลกฟุตบอลจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบหลักๆ คือ การเล่นแบบคุมโซน เป็นการรับผิดชอบพื้นที่ของใครของมัน นักเตะอีกฝั่งเข้ามาใกล้ใครก็เข้าคุมคนนั้น ซึ่งการเล่นแบบนี้ จะทำให้ทีมยืนเล่นเกมรับกันอย่างเป็นระบบ รวมไปถึงเช็คล้ำหน้าได้ง่าย

ส่วนอีกรูปแบบหนึ่งที่ทางมิก้า พูดถึงรูปแบบเกมรับของทางแบงค็อก ก็คือการประกบตัวต่อตัว เป็นวิธีการเล่นที่ต้องใช้พลังงานสูง และนักเตะในแดนหลังต้องมีทักษะที่ดี เพราะกองหลังจะต้องเข้าบอลด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งถ้าพลาดโอกาสที่ตัวรุกฝั่งตรงข้ามจะหลุดเข้าไปยิงประตูมีสูง ซึ่งการที่ทางบียู เลือกใช้วีธีการเล่นเกมรับแบบนี้ เพื่อให้ทีมแย่งบอลกลับมาจากฝ่ายตรงข้ามได้เร็วขึ้น แล้วเปิดโอกาสให้ทีมได้เล่นเกมบุกต่อไป

นอกจากนี้ทาง มิก้า ยังพูดถึงการได้นักเตะเข้ามาใหม่ โดยเฉพาะในแนวหลังอย่าง เอเวอร์ตัน กอนซาเวส กองหลังจากเชียงราย ยูไนเต็ด และไมเคิ่ล ฟาลเคสการ์ด นายทวาร ลูกครึ่งฟิลิปปินส์-เดนมาร์ค ดีกรีนักเตะทีมชาติเดนมาร์ค รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี

“ได้ เอเวอร์ตัน เข้ามาก็ดีครับ เขาเป็นนักเตะต่างชาติในตำแหน่งแผงหลังที่เข้ามาตอบโจทย์ของทีมเราได้เป็นอย่างดี ในช่วงปรีซีซั่นผมมีโอกาสได้เล่นร่วมกับเขา และในปีนี้ผมจะถูกขยับเข้ามาเล่นในด้านในมากขึ้น ได้นักเตะอย่างเอเวอร์ตัน เข้ามาช่วยก็ถือว่าดีครับ เขาจะช่วยทีมและผมได้แน่ๆ และผมคิดว่าปีนี้น่าจะดีกว่าปีที่แล้ว”

“ส่วน ไมเคิ่ล (ฟาลเคสการ์ด) ผู้รักษาประตูคนใหม่ที่เข้ามาร่วม แม้เขาจะเพิ่งเข้ามาร่วมทีม แต่พวกเราในแผงหลังไม่มีปัญหาในการสื่อสารกับเขาเลย เพราะพวกเราส่วนใหญ่ของเป็นลูกครึ่ง พูดภาษาอังกฤษกันได้อยู่แล้ว ด้านไมเคิ่ล เขาก็เก่งภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องการสื่อสารไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราเลย และเท่าที่ผมดูวิธีการซ้อมของเขาแล้วกับโค้ชผู้รักษาประตูคนใหม่ ด้วยรูปร่างของไมเคิ่ล ด้วยทักษะเบสิค ทุกอย่าง ผมก็คิดว่าเขาคงเข้ามาโชว์ฟอร์มที่ดีให้กับทีมได้ครับ”

“ปีที่แล้วทีมเราไม่ได้แย่ จบในตำแหน่งท็อป 3 เข้าชิงเอฟเอ แต่พอมาพลาดในนัดชิง ปีนี้เราก็ก้าวขึ้นไปอีกขั้นต้องคว้าแชมป์ติดมือมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นถ้วยใบในก็ตาม ในลีกปีที่แล้วเราจบอันดับ 3 ปีที่เราก็ต้องตั้งเป้าไว้ที่อันดับ 1 หรือ 2 ยังไงก็ต้องดีกว่าปีที่แล้วครับ สุดท้ายก็ต้องมาดูกันมาฤดูกาลนี้จะเป็นอย่างไร แต่ทุกคนในทีมก็พยายามและทำเต็มที่ครับ”  มิก้า พูดปิดท้ายถึงเป้าหมายของ ทรู แบง ค็อก ยูไนเต็ด ในไทยลีก ฤดูกาล 2018 ที่กำลังจะเปิดฤดูกาล โดยแข้งเทพจะต้องเปิดบ้านเจอ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 19.00 น.

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports