TRUE FOCUS : รึจะกลายเป็นปีของ Little Miss Sunshine "แคโรไลน์ วอซเนียคกี้" ... by "Mr. BOSTON"
TRUE FOCUS : สัญญากับตัวเองไว้ตั้งแต่ก่อน ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น จะเริ่มว่า พอจบการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ จะเขียนเกี่ยวกับแชมป์สักคน แต่อยากรอดูก่อนว่าจะเขียนเกี่ยวกับ แชมป์ชาย หรือ หญิงดี ???
กระทั่ง แกรนด์สแลมแรกของปีจบลงไปจริงๆ กลับเลือกไม่ได้ ว่าจะเขียนถึงใครดี ระหว่าง แคโรไลน์ วอซเนียคกี้ แชมป์ฝ่ายหญิง หรือ โรเจอร์ เฟเดอร์เรอร์ แชมป์ฝ่ายชาย เพราะทั้งคู่ต่างมีเรื่องราวไม่แพ้กัน
พอได้นั่งอ่านบทความทางอินเตอร์เน็ตเยอะๆ พบว่าคนออกมาสรรเสริญความยอดเยี่ยมในการคว้าแกรนด์สแลมที่ 20 ของ “เจซุสเฟด” มากกว่าจะพูดถึง “ลิตเติ้ล มิส ซันไชน์” อย่าง วอซเนียคกี้ นั่นเลยทำให้ผมอยากเขียนถึงเธอขึ้นมามากกว่า เฟเดอเรอร์ เสียอย่างนั้น
หลายคนคงรู้แล้วว่า ถึงแม้เธอจะเคยครองตำแหน่งมือ 1 ของโลกสมัยเธออายุ 20 ปี ในปี 2010 มาแล้ว แต่อาจจะไม่ทราบว่านี่เพิ่งเป็นการปลดล็อคคว้าแกรนด์สแลมแรกในอาชีพของเธอเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ที่ผ่านมา เธอเป็นคนมีฝีมือมากขนาดไหน
แกรนด์สแลม ถือเป็น “ทางลัด” ในการขึ้นสู่ตำแหน่งมือ 1 ของโลก เพราะผู้ที่ได้แชมป์แกรนด์สแลม ไม่ว่าจะรายการไหนก็ตาม จะได้รับคะแนนสะสมเพิ่มถึง 2,000 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนจำนวนมหาศาล แม้แต่รองแชมป์ ยังได้ถึง 1,300 คะแนน ซึ่งมากกว่าคะแนนของแชมป์รายการระดับ พรีเมียร์แมนดาทอรี่ (1,000 คะแนน) และ พรีเมียร์ 5 (900 คะแนน) ที่ฤดูกาลหนึ่งๆ จะมีรวมกันเพียง 9 รายการ เสียอีก
ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลง ที่เราจะได้เห็นนักเทนนิสที่ได้แชมป์แกรนด์สแลม หรือ รองแชมป์ ก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 ของโลก อย่าง ซิโมน่า ฮาเล็ป, แองเจลิค แคร์เบอร์, คาโรลิน่า พลิสโคว่า, วิคตอเรีย อซาเรนก้า และ มาเรีย ชาราโปว่า
แต่ วอซเนียคกี้ แตกต่างออกไป
ในสมัยที่เธอครองมือ 1 ของโลกครั้งแรกในปี 2010-2011 และอีกครั้งในปี 2011-2012 รวม 67 สัปดาห์ เธอได้รองแชมป์แกรนด์สแลมแค่รายการเดียว คือ ยูเอส โอเพ่น ในปี 2009 และไม่เคยก้าวถึงรอบชิงชนะเลิศแกรนด์สแลมรายการอื่นอีกเลยในช่วงนั้น
นี่หมายความว่า เธอไล่เก็บคะแนนสะสมจากการเล่นทัวร์นาเมนต์ระดับรองลงมาได้อย่างสม่ำเสมอที่สุด เพื่อทดแทนคะแนนในแกรนด์สแลมที่หายไป ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อมาก ที่เธอทำได้สำเร็จในยุคนั้น
หลังปี 2014 เธอดิ่งเหวในตารางอันดับโลกอย่างรวดเร็ว จากการโดน รอรี่ย์ แมคอิลรอย “เท” ทั้งที่ประกาศหมั้นหมายกันไปแล้ว หลังจากนั้นเธอก็มาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอย่างหนัก ทำให้ต้องพักไปเป็นเวลานาน และโลกเทนนิสก็แทบจะจำเธอไม่ได้เมื่อเธอกลับมา
เธอต้องเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากในปี 2015-16 ด้วยการล้มลุกคลุกคลานในวงการเทนนิส เธอไม่มีแชมป์ใดๆ ติดไม้ติดมือเลยในช่วงเวลานั้น จนในปีที่แล้ว เธอเริ่มส่งสัญญาณอะไรบางอย่างมาถึงโลกเทนนิส
สัญญาณที่บอกว่า เธอกลับมาแล้ว
เธอเข้าชิงเทนนิส ฮาร์ดคอร์ดระดับ พรีเมียร์แมนดาทอรี่ และ พรีเมียร์ 5 ได้ถึง 3 รายการในปีก่อน ซึ่งนั่นเพียงพอให้เธอทำอันดับติด ท็อป 8 ของโลกไปแข่งใน ดับเบิ้ลยูทีเอ ไฟนอลส์ ที่สิงคโปร์ เมื่อสิ้นปีที่แล้ว ก่อนปราบ วีนัส วิลเลี่ยมส์ คว้าแชมป์สุดท้ายของปีมาครองได้สำเร็จ ประกาศการกลับมาของเธอได้อย่างยิ่งใหญ่ แต่ตอนนั้นยังไม่มีใครเชื่อว่าเธอจะกลับมาได้จริงๆ
หากมองย้อนไปสักเล็กน้อย ผลงานของเธอเริ่มดีขึ้น นับตั้งแต่ผ่าน วาเลนไทน์ ปี 2017 หลังจากที่เธอออกเดทกับ เดวิด ลี นักบาสเกตบอลระดับออลสตาร์ที่มีดีกรีถึงแชมป์ NBA เมื่อปี 2015 มาแล้ว… เมื่อเธอกลับมามีความรักที่ดีอีกครั้ง ผลงานเธอก็กลับมาดีตามอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจหมั่นกันเมื่อปลายปีก่อน
แม้เธอจะคว้าแชมป์แกรนด์สแลม พร้อมขึ้นมือ 1 ของโลกได้อย่างยิ่งใหญ่ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เชื่อว่า นี่จะไม่ใช่ความสำเร็จสุดท้ายของเธอในปีนี้อย่างแน่นอน
หากลองมององค์ประกอบที่จะทำให้ วอซเนียคกี้ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในปีนี้ เธอล้วนมีมันครบถ้วนแล้วทั้งสิ้น ไล่มาตั้งแต่
1. การมีความรักที่ดี จากการดูแลหัวใจอย่างยอดเยี่ยมของ เดวิด ลี ทำให้เธอไม่มีปัญหานอกสนามมากวนใจอีก
2. อยู่ในวัยที่สมบูรณ์พร้อม ปัจจุบันเธออายุ 27 ปี ซึ่งวัยนี้เอง เป็นวัยถูกวิจัยแล้วว่า “พีค” ที่สุดสำหรับนักกีฬา
3. ไม่มีข้อกังขาในตัวเองอีกต่อไป เพราะเธอปลดล็อคคว้าแกรนด์สแลมแรกที่เธอเองต้องการมาตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่ออายุ 15 ปีได้สำเร็จแล้ว
4. เธอมีประสบการณ์การขึ้นมือ 1 ของโลกมาแล้วถึง 2 ครั้ง ทำให้เธอรู้วิธีที่จะรักษาตำแหน่งที่สุดของวงการ และฟอร์มการเล่นของเธอหลังจากนี้
5. สำคัญสุด เธอยังคงไร้คู่แข้งตัวฉกาจ ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งที่เธอทำผลงานได้ดีในช่วงสิ้นปีก่อนต่อต้นปีนี้ ก็เพราะการหายไปของ เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ ราชินีแห่งวงการ ทำให้เส้นทางของเธอสะดวกโยธิน และถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีอะไรมาการันตีว่า เมื่อ เซเรน่า กลับมาอีกครั้ง เธอจะยังน่ากลัวเหมือนเดิมในสายตาเพื่อนร่วมอาชีพ
ถึงตอนนี้ เธอไม่น่าใช่ ลิตเติ้ล มิส ซันไชน์ ตามฉายาเก่าอีกแล้ว แต่ตอนนี้ เธอเป็น มิส ซันไซน์ ผู้ส่องประกายเจิดจรัส และน่าจะเป็นประกายที่ทำให้วงการเทนนิสหญิง ฮือฮาได้ ไม่มาก ก็น้อย อย่างแน่นอน…
Mr. BOSTON
ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports