รีเซต
TRUE OPINIONS : ก็เพราะฉันไม่อยากให้ “สาลิกาดง” ตกชั้นอีกไงเล่า ... by "จอน"

TRUE OPINIONS : ก็เพราะฉันไม่อยากให้ “สาลิกาดง” ตกชั้นอีกไงเล่า ... by "จอน"

TRUE OPINIONS : ก็เพราะฉันไม่อยากให้ “สาลิกาดง” ตกชั้นอีกไงเล่า ... by "จอน"
armcasanova
16 กุมภาพันธ์ 2561 ( 10:00 )
3K

TRUE OPINIONS : ก่อนความนึกคิดจะจรด และจบลงด้วยการตกลงกับตัวเองว่า “เห้ย เราจะเขียนถึง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จริงๆ เหรอวะ” ผมได้ถามตัวเองหนึ่งคำถามที่ไร้คำตอบว่า เราเคยเขียนถึงทีมรักแบบที่เป็นบทความลงเว็บไซต์ครั้งสุดท้ายเมื่อไร

คำตอบ คือ “ไม่มี” เพราะไม่เคยเขียนบทความเช่นนี้เกี่ยวกับทีมโปรดเลยสักครั้ง

ฟุตบอลกับผม เริ่มต้นรู้จักกันเมื่อปี 1994 มันเป็นปีเดียวกับที่มี “เวิลด์คัพ ฉบับลุงแซม” ที่ โรมาริโอ ได้นักเตะยอดเยี่ยม และ โรแบร์โต้ บาจโจ ยิงจุดโทษข้ามคานนั่นแหละ

ตอนนั้น ผมเป็นเด็กน้อยเข้าเรียน ป.1 ที่โรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถม ตรงซอยเซ็นหลุยส์ ถนนสาทร พ่อของผมไปส่งตั้งแต่เช้า และช่วงเวลาที่รอเข้าเรียน ฟุตบอลโลก จะเปิดอยู่ทุกวันๆ ในทีวีใต้ตึกเรียน

ผมรู้จักฟุตบอลครั้งแรก และเค้าก็ไม่เคยออกจากชีวิตผมเลยนับแต่นั้นมา จบทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ผมเป็นเด็กน้อยที่เริ่มต้นหาทีมเชียร์ ผมเลือกเชียร์ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เป็นทีมแรก

“กุหลาบไฟ” ในยุคเกรียงไกร คว้าแชมป์ฟรีเมียร์ลีกมาครองให้ถิ่น อีวู้ด พาร์ค ในปี 1994-1995 แบบมีแต้มเหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด เพียง 1 คะแนน ภายใต้การคุมทีมของ เคนนี่ ดัลกลิช โดยมีคู่หูกองหน้า “S&S” อลัน เชียเรอร์ & คริส ซัตตัน เป็นตัวชูโรง พ่อวงนักเตะดาวดังอีกหลายคนอย่าง แกรม เลอ โซ, ทิม เชอร์วู้ด, โคลิน เฮนดรี้ และ ทิม ฟาวเวอร์ส

ผมเริ่มต้นชอบแบบนั้น ฟุตบอลที่ไม่ต้องมีอะไรมาก นอกจากยิง ยิง และยิง อลัน เชียเรอร์ กดไป 34 ประตูในปีที่ได้แชมป์ พร้อมกับซัดอีก 31 ประตูในปีต่อมา ชื่อของ “ฮอตชอต” ดังกระฉ่อน จากการซัดเกิน 30 ประตู 3 ซีซั่นติดต่อกันในลีกสูงสุดของอังกฤษ

ปี 1996 หลังจากศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่ประเทศอังกฤษเป็นเจ้าภาพ อลัน เชียเรอร์ ที่คว้าดาวซัลโวทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ในบ้านเกิดมาครองได้ ก็ย้ายกลับสู่เมืองที่เขาเกิดอย่าง นิวคาสเซิ่ล ด้วยสนนราคาเป็นสถิติโลก 15 ล้านปอนด์ (สมัยนั้นประมาณ 900 ล้านบาท)

ผมเลยย้ายทีมเชียร์มาตั้งแต่ตอนนั้น เวลาเพื่อนถาม “จอนเชียร์ทีมไร”
ผมมักจะตอบแบบที่ตัวเองรู้สึกเท่คนเดียวว่า “เชียเรอร์หวะ” หรือไม่ก็ “เชียเรอร์ และ นิวคาสเซิ่ล”

สาลิกาดง ในความทรงจำของผม เป็นทีมค่อนข้างใหญ่ ด้วยการเป็นทีมจากเมืองท่าทางภาคอีสาน พวกเขาเคยมีอาการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก หลายครั้งหลายคราหลังจากที่ผมเริ่มเชียร์ ทั้งในยุค เควิน คีแกน และ บ็อบบี้ ร็อบสัน แต่ก็พลาดได้เพียงแค่ลุ้น ภายใต้การกระหน่ำยิงจนกลายเป็นสถิติที่ยังไม่มีใครลบล้างได้ของ อลัน เชียเรอร์

ผมเชียร์ เชียเรอร์ และติดตาม นิวคาสเซิ่ล มาตลอด จนวันที่เขาแขวนสตั๊ด ก็ยังไม่เลิกเชียร์

ผ่านพ้นจากวันแรกที่เชียร์ “เดอะ แม็กพายส์” มาจนถึงวันที่ผมเติบโตเป็นหนุ่ม ไม่ต้องเรียนหนังสือ และต้องหาเงินเลี้ยงชีพตัวเองด้วยการทำงานเป็นสื่อกีฬา.. 13 ปีพอดี นิวคาสเซิ่ล ก็ตกชั้นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ผมเชียร์ และเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีของสโมสร โดยคนสุดท้ายที่คุมทีมในปี 2008-09 ก็คือ อลัน เชียเรอร์ เนี่ยแหละ

ตลกร้ายไหมหละ!!!

โอเคว่า พอตกชั้นเนี่ย ก็กลับมาได้เร็ว แค่ปีเดียว นิวคาสเซิ่ล ก็กลับมาสู่พรีเมียร์ลีกอีกคำรบ แต่ท้ายที่สุด การที่ทีมมีหัวเรือประธานสโมสรแบบตาอ้วนบวมเบียร์อย่าง ไมค์ แอชลี่ย์ เนี่ย ก็ไม่รอดอีกครั้ง ตกชั้นสู่ลีกรอง เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา

นับตั้งแต่ตกชั้น เอาจริงๆ หลายปีที่ผ่านมา นิวคาสเซิ่ล กับผมก็ห่างไกลกันขึ้นเรื่อยๆ เพราะการทำงานที่มากขึ้น แถมยังต้องโฟกัสที่ฟุตบอลไทยเป็นหลักด้วยความถนัดมากกว่า แต่มันก็เป็นอารมณ์ ยังห่างๆ แบบห่วงๆ ติดตามดูอยู่บ้าง แต่ไม่ได้สม่ำเสมอ และไม่ถึงตัดขาดจากกันขนาดนั้น

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พอ นิวคาสเซิ่ล ได้แชมป์ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ จากฝีมือการคุมทัพของ ราฟาเอล เบนิเตซ เพื่อนผมก็จะเข้ามาถามว่า เห้ย จอน นิวคาสเซิ่ล กลับมาเร็วหวะ ตั้งเป้าไว้ยังไง ผมก็ได้แต่ตอบแแบบแหะๆ ว่า “ขอแค่ไม่ตกชั้นก็พอ”

ปีนี้ นิวคาสเซิ่ล เริ่มต้นได้ดี จนแบบเห็นแสงรำไรๆ ว่าจะไม่ต้องลุ้นเหนื่อยเท่าไรนัก ด้วยความเชื่อมั่นใน ราฟาเอล เบนิเตซ ที่เขี้ยวลากดินมากพอ แต่ไปๆ มาๆ ด้วยศักยภาพนักเตะระดับเกรดซี ถึง เกรดดี (ที่ไม่ได้หมายความว่า ดีเยี่ยม) หากเทียบกับระดับของพรีเมียร์ลีก ก็ทำให้นิวคาสเซิ่ล กลับมาอยู่ในจุดที่พวกเขาควรยืน ที่ผมไม่อยากให้เป็น นั่นคือ หนีตกชั้นแบบจริงจัง ชนิดที่จริงจังสุดๆ ทุกแต้มโคตรสำคัญ

ชัยชนะเหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นทำให้พวกเราชาว เดอะ แม็กพายส์ หายใจคล่องจมูกขึ้นเยอะเลย และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ผมตัดสินใจกดแป้นพิมพ์เขียนเรื่องราวจุดกำเนิดการเชียร์นิวคาสเซิ่ลของตัวเองในวันนี้

11 เกมสุดท้าย กับแต้มที่ห่างจากโซนตกชั้นแค่ 2 คะแนน บางทีมันก็อึดอัดเหมือนกันนะ ไม่รู้จะออกหมู่หรือจ่า ถ้าตกชั้นจริงๆ คราวนี้ มันจะกลับมาได้ไหมในปีเดียวเหมือนเมื่อสองครั้งที่ผ่านมา หรือจะตกยาวๆ แบบ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, ลีดส์ ยูไนเต็ด, น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, โบลตัน วันเดอเรอร์ส ฯลฯ ที่ยังหาทางกลับมาไม่ถูก

ไล่รายชื่อทีมที่ต้องเจอใน 11 เกมหลัง มีทั้ง เยือน ลิเวอร์พูล, สเปอร์ส, เลสเตอร์, เอฟเวอร์ตัน และเล่นในบ้านพบกับ อาร์เซน่อล กับ เชลซี เรียกได้ว่า หนักๆ ทั้งนั้น ลุ้นเหนื่อย มีให้เสียวทุกนัดแน่นอน

ผมว่า จุดเริ่มต้นของคนเชียร์นิวคาสเซิ่ล ในยุค 10-20 ปีก่อน คงไม่ต่างกันนัก
ชอบ อลัน เชียเรอร์ ชอบปู่บ็อบบี้ ร็อบสัน ชอบเควิน คีแกน
ชอบความมันส์สะใจของฟุตบอลสไตล์อังกฤษขนานแท้
ชอบที่มี โลร็องต์ โรแบร์ กระชากด้านซ้าย โนลแบร์โต้ โซลาโน่ เลื้อยสะเด่าด้านขวา
ไหนจะ แกรี่ สปีด, เคร้ก เบลลามี่, โรเบิร์ต ลี, เลส เฟอร์ดินานด์, เชย์ กิฟเว่น ฯลฯ (ไล่ไม่หมดแน่นอน)

“แฟนอาจจะเปลี่ยนได้ แต่ทีมเชียร์นี่เปลี่ยนยากนะเว้ย”

ขอร้องแหละ 11 เกมที่เหลือ อะไรก็ได้ ขอฟอร์มแบบที่ชนะ “ปีศาจแดง” หน่อยเถอะ
เพราะที่เขียนเนี่ย คือ ฉันไม่อยากให้สาลิกาดง ต้องตกชั้นอีกรอบจริงๆ เลยนะ พับผ่าสิ…

“จอน”

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้