รีเซต
ถึงเวลาหรือยังที่ "ผู้ตัดสิน" ต้องพัฒนาตัวเอง และโชว์ความแมน ๆ ในการตัดสินให้มัน "ถูกต้อง" ? ... by "บีม ภควิชญ์"

ถึงเวลาหรือยังที่ "ผู้ตัดสิน" ต้องพัฒนาตัวเอง และโชว์ความแมน ๆ ในการตัดสินให้มัน "ถูกต้อง" ? ... by "บีม ภควิชญ์"

ถึงเวลาหรือยังที่ "ผู้ตัดสิน" ต้องพัฒนาตัวเอง และโชว์ความแมน ๆ ในการตัดสินให้มัน "ถูกต้อง" ? ... by "บีม ภควิชญ์"
kentnitipong
28 กุมภาพันธ์ 2561 ( 11:57 )
1.3K

บีม ภควิชญ์ : หลายคนคงนึกตลกในใจ หลังได้เห็นข่าวเรื่อง “เมืองทองฯ จะไม่ปล่อยนักเตะของตนเองไปเล่นทีมชาติ” ด้วยเหตุผลที่แอบกระทุ้งไปทางสมาคมฯ แบบหนัก ๆ ว่า “จัดผู้ตัดสินไร้คุณภาพ และลำเอียงลงทำหน้าที่”

 

 

ต้นทางของเรื่องนี้ มาจากการที่ วิศเวศ สังข์นคร ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าว ปล่อยให้ผู้เล่น “กิเลนผยอง” โดนเล่นงานจนน่วม และได้รับบาดเจ็บถึงขั้นบางคนเล่นต่อไม่ไหว

ทำให้หลังจบเกมทาง นายเพียรศักดิ์ อ่อนสำอางค์ ผู้จัดการทีมเอสซีจี เมืองทองฯ ต้องออกมาตัดพ้อไปทางผู้จัดการแข่งขัน จนเกิดเป็นประเด็นดังกล่าวให้ถกเถียงกันในสื่อสังคมออนไลน์

อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้น ว่าหลายคนคงตลกกับการให้ข่าวครั้งนี้ และแวบแรกผมก็ขำในตรรกะโดยรวมเหมือนกัน แต่เอาเข้าจริงหากมานั่งนึก ๆ ดูแล้ว ผมกลับรู้สึกเห็นอกเห็นใจฝั่ง “กิเลนผยอง” ไม่น้อย

 

 

แม้ผมจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับทีมจากนนทบุรี แต่จากประสบการณ์การเดินทางไปทั่วทั้งประเทศเพื่อทำงานเกี่ยวกับฟุตบอล ปัญหานึงที่ผมเห็นว่าไม่เคยได้รับการแก้ไขคือ “ความใจอ่อนของผู้ตัดสินไทย”

ใครที่ได้รับชมบอลไทยเป็นประจำ คงได้เห็นว่าผู้ตัดสินไทยมีความเกรงใจจำเลยสูงมาก จนบางทีก็แอบเอาไปจิกกัดกันในวงสนทนาไม่ได้ว่านี่ทำตามคอนเซ็ปต์ “คนไทยใจดี” รึเปล่า

การเล่นในจังหวะรุนแรง หรือจังหวะหลุดเดี่ยวที่ทั้งโลกพร้อมใจกับควักใบแดง พอมาเป็นที่เมืองไทย ผู้ตัดสินมักแค่เรียกนักฟุตบอลมาตักเตือนหรืออย่างมากก็แจกใบเหลืองไปเบาๆ

ไม่ใช่แค่กับ เมืองทองฯ แต่มันเป็นอย่างนี้จริงๆ แทบทุกที่ทุกสนาม…

ผมมองว่าการที่ผู้ตัดสินเลือกจะเลี่ยงการแจกใบแดงเพียวๆ ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการที่ไม่อยากให้เกมมันหมดสนุก เพราะหลายต่อหลายครั้งทีมที่มีผู้เล่นน้อยกว่าแทบจะปิดประตูชนะไปได้เลย และมันจะทำให้เกมเป็นการเล่นแบบ One-Way ซึ่งทำให้คุณภาพของเกมนั้น “กร่อย” ไป

หรือผู้ตัดสินอาจจะมองว่าการแจกใบแดงนั้นมีความเสี่ยง เพราะเป็นบทลงโทษขั้นสูงสุด หากไม่ชัวร์ล้าน % ก็ไม่อยากจะควักออกไป หากตัดสินผิดพลาดเดี๋ยวได้ไปดังในคลิปวีดีโอตามเฟสบุ๊กอีก

แต่หารู้ไม่ (หรือรู้แต่ไม่สนใจ) ว่าผู้เล่นหลายคนใช้ช่องโหว่ของความใจดีลักษณะนี้ ในการตัดฟาวล์รุนแรงใส่เพื่อนร่วมอาชีพ แล้วเดินหนีไปพร้อมกับบทลงโทษแสนเบาหวิว

ผมไม่ได้บอกว่าเอะอะต้องควักใบแดง แต่ขอให้ทำการลงโทษให้มัน “ถูกต้องตามที่ควรจะเป็น”

ถ้าผู้ตัดสินไม่เฉยเมยกับการเข้าบอลรุนแรงหรือเขาจากข้างหลัง ซักพักเหตุการณ์พวกนี้มันคงหายไปเอง ถ้ากฏหมายมันแรง มันใช้งานได้จริง ประชาชนที่ไหนจะกล้าฝืนกฏให้มันเกิดผลเสียต่อตัวเอง และสโมสร

การมี VAR หรือ AAR นั้นคงไม่ช่วยอะไร ถ้าสุดท้ายแล้วผู้ชี้ขาดกลางสนามยังไม่กล้าที่จะทำหน้าที่ให้มันเป็นไปตามสิ่งที่ได้บัญญัติไว้ในเล่มกฏหมายกติกาสากล

 

 

ยกตัวอย่างง่ายๆ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมอยู่ที่สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เพื่อทำงานด้านสื่อในแมตช์การแข่งขันระหว่าง เชียงใหม่ เอฟซี กับ หนองบัว พิชญ เอฟซี

ช่วงท้ายเกมระหว่างที่เกมกำลังเข้มข้นที่สกอร์ 1-1 เกิดจังหวะปะทะกันระหว่าง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ที่วิ่งเข้ามาตั้งใจเล่นบอล ก่อนจะโดนผู้เล่น “พญาไก่ชน” ตั้งใจเอาเท้ายันเข้าที่กลางหน้าผากของเจ้าตัว จนหัวแตกเลือดอาบต้องออกไปปฐมพยาบาลข้างสนาม

ร้อยทั้งร้อยยังไงลูกนี้ต้องเป็นใบแดงสถานเดียว แต่ถ้าใครติดตามบอลไทยมานาน คงพอเดาทางกันได้ไม่ยาก

 

ขอบคุณภาพ : Action24CNX

 

ขอบคุณภาพ : Action24CNX

 

ถูกต้องแล้วครับ… มาฆะ เลิศธัญญา แจกแค่ “ใบเหลือง” ให้กับ สันติธร ลัทธิรมย์ จำเลยในคดีดังกล่าว…

ยิ่งเป็นลีกล่างๆ ยิ่งเกิดกระแสน้อย หลายต่อหลายครั้งเสียงของแฟนบอลทีมเดียวไม่เคยดังพอจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อมีฝ่ายเสียประโยชน์ย่อมมีคนได้ประโยชน์เสมอ เสียงสองฝั่งกระทบกัน ส่วนผู้ตัดสินลอยตัวไปได้แบบเนียนๆ

ที่ยกตัวอย่างมาเพราะเหตุการณ์นี้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ และผมได้เห็นด้วยตาตัวเอง ในขณะที่แฟนบอลทั่วประเทศได้เห็นกันเป็นประจำทุกสัปดาห์ จนหลายต่อหลายคนต่างเอือม เบื่อจะไปของขึ้นใส่กรรมการที่ข้างสนาม นอนดูทรูไอดีอยู่บ้านดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปเสียเงินพ่วงเสียอารมณ์ให้หมดมู้ดกันสองต่อ

 

 

พันนิภา คำนึง หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน กล่าวไว้ว่า ฤดูกาลนี้ ฟุตบอลลีกของประเทศไทยส่งสัญญาณดี เมื่อแข่งมาแล้ว 3 อาทิตย์ แต่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับความผิดพลาดของหน้าที่ผู้ตัดสินเพียงแค่ 2 เคส

เอาจริงๆ นะ ผมไม่แน่ใจว่าการที่มีร้องเรียนน้อยเนี่ย มันเกิดจากคุณภาพผู้ตัดสินพัฒนาขึ้นจริงๆ หรือ เขาอาจจะเบื่อร่างหนังสือ เพราะร้องเรียนแล้วก็ไม่มีอะไรพัฒนาซะมากกว่า

ภาพของ สารัช อยู่เย็น กับ พิชิตย์ ใจบุญ ที่จับมือกันหลังเกม เมืองทอง-แอร์ฟอร์ซ เป็นความสวยงามของเกมฟุตบอล เกมของลูกผู้ชายที่เต็มไปด้วยสปิริต กล้าทำ-กล้ารับ กล้าที่จะทำในสิ่งที่มันถูกต้อง และเห็นสมควร

มองกลับมาทางฝั่งผู้ตัดสิน หลังจากสิ้นปีที่แล้ววงการอมนกหวีดต้องแปดเปื้อนจากคดีล้มบอล มันถึงเวลาหรือยังที่ต้องพัฒนาตัวเอง และโชว์ความแมน ๆ ในการทำการตัดสินให้มัน “ถูกต้อง” ตามที่ควรจะเป็น ให้แฟนบอลทั้งประเทศลบคำครหาในใจกันได้ซักที

 

“บีม ภควิชญ์”

 

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้