TRUE OPINIONS : Thai League World 4th "Shape Of Champ" ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์"

ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์ : 4 เกมแรกของ ไทยลีก 2018 เดินทางผ่านไปอย่างรวดเร็ว เดือนแรกของการแข่งขันกำลังจะหายเข้ากลีบเมฆ ทีมไหนยังไม่ตื่นู้ไม่ลงตัวจงรีบปลุกกันได้แล้วเดี๋ยวหลับยาวไหลยาวสะดุ้งตื่นมาอีกทีจะจมลงบ่อโคลนดูดแก้ไขอะไรก็ยากเต็มที่

ดังนั้นช่วยกันคนละไม้ละมือนะครับ เพราะเห็นบางทีมมีคนดูกลับเข้าสนามก็ชื่นใจ ทีมไหนที่คึกอยู่แล้ว ก็ยังมีสีสันฉูดฉาด

ทว่าทีมที่ออกสตาร์ทไม่ค่อยสู้ดีแฟนๆ ก็เริ่มบางตาอีก ชั่วโมงนี้อะไรผิดใจกันเอาไว้ก่อน ทีมที่รักย่อมสำคัญที่สุด

***********

Survivor Wall

หลังจากผ่านไป 4 เกม ประเด็นตกชั้น 5 ทีมเริ่มพูดกันหนาหูขึ้น ซึ่งมันน่ากลัวจริงๆ ครับ ตั้ง 5 ทีมยิ่งใครออกสตาร์ทไม่ดี… โอกาสเสี่ยงมีสูงมาก

ว่าแต่จุดตัดการรอดตกชั้นในโจทย์นี้มันควรจะมีสักกี่แต้ม ??? คุณนึกภาพตามออกไหม หากเอาตัวเลขคุ้นเคยสำหรับฟุตบอลลีก 20 ทีม หรือ 18 ทีม

ตำราว่าไว้ 40 แต้มจักเป็นลักคณาที่ดี ราหูเคลื่อนที่ไปทางซ้าย ไปทั้งหมู่ไปพร้อมกัน ไปได้ กระนั้นมันก็เป็นแค่ตก 3 ทีม ดังนั้นเอาให้เห็นภาพเราย้อนไปดูตารางคะแนนไทยลีก จาก 6 ฤดูกาลที่ผ่านมา พร้อมกติกาเฉพาะฤดูกาลนั้น หากตัดออกไป 5 ทีมท้ายตารางแต้มเท่าไหร่จึงจะอยู่รอด

(หมายเหตุ : ฤดูกาล 2013 เล่นจริง 17 ทีม เนื่องจากสโมสร ศรีสะเกษ เอฟซี มีปัญหาเรื่องสิทธิทำทีม)

หากหยิบเฉพาะฤดูกาลที่เล่นครบตามปกติของ 18 ทีม เล่นครบ 34 เกม เช่นกันกับปี 2018

แต้มน้อยที่สุดที่รอดตายมาได้คือ 36 แต้มในปี 2015 มากที่สุดคือ 41 แต้ม ในปี 2012 เท่ากับว่ากำแพง 40 แต้ม ยังเป็นเกณฑ์ที่พอเบาใจได้ในฤดูกาลนี้ ทว่าหนทางที่จะไปให้ถึง 40 แต้ม… เอิ่ม

40 คะแนนคิดง่ายแบบไม่ต้องคำนวนมาก คุณชนะ 13 เกม เสมอ 1 ขอแค่เท่านี้อยู่รอดจากปีที่ผ่านมาทีมชนะ 13 เกมขึ้นไปคือ ท็อป 9 ของลีก นั่นคือ การท่าเรือ เอฟซี ทีมที่รอดตกชั้นจากปีที่ผ่านมามีเพียง “สุโขทัย” เท่านั้นที่ชนะไม่ถึง 10 เกม (ชนะ 8 เสมอ 12)

ดังนั้นรักใครเชียร์ใครคุณลองประเมินดูอย่างใจเป็นกลางก็น่าจะพอเห็นภาพลางคร่าวๆ 30 เกมที่เหลือพอเป็นไปได้ไหมกับ ชัยชนะ 11 เกมหรือใกล้เคียงที่สุดเพื่อคะแนนรวม 40 แต้ม รอดตกชั้นจากโจทย์ปีนี้

***********

Coach and Player Of The Month

เป็นธรรมเนียมปฏิบัติเมื่อการแข่งขันดำเนินผ่านไปทีละเดือน ย่อมต้องแจกรางวัลกันสักหน่อยทั้งโค้ช และผู้เล่นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เรามีทีมชนะรวม 2 ทีมนั่นคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ สุโขทัย เอฟซี ขณะที่ทีมไร้แต้มยังเหลืออีก 1 นั่นคือ แอร์ฟอร์ซ เซนทรัล เอฟซี ซึ่งส่วนตัวขอเอาใจช่วยเป็นพิเศษอย่างเพิ่งหลุดวงโคจรแต่หัววันเลย

สำหรับการนำของ บุรีรัมย์ ถือว่าน่ากลัวยิ่งนัก ปีที่แล้วพวกเขาขึ้นยอดปิรามิดหลังจบเกมนัดที่ 18 แล้วก็ไม่ลงอีกเลย

ปีนี้แม้จะมีโปรแกรมใน AFC Champions League แต่กลับไม่เป๋ อาจเป็นด้วยประสบการณ์ที่เพิ่มพูนทำให้พวกเขาเอาตัวรอดไปได้ โดยเฉพาะฟอร์มของพ่อมหาจำเริญ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ นาทีนี้เขาคือเบอร์ 1 ของลีก หากเล่นแฟนตาซีค่าตัวต้องแพงที่สุด ดังนั้นขอยอมรับว่า บุรีรัมย์ ดีจริงในเดือนแรกแต่รางวัลโค้ชยอดเยี่ยมยังใจแข็งไม่ให้ โบซิดาร์ บันโดวิช

ขอขึ้นเหนือเล็กๆ ไปยัง “ดินแดนรุ่งอรุณแห่งความสุข” สุโขทัย เอฟซี ทีมทุนทรัพย์กลางๆ ค่อนข้างน้อยแต่กลับออกสตาร์ทได้อย่างเหลือเชื่อ การมาของ 2 แดนหน้าต่างชาติทั้ง เอ็นจีว่า ยืมตัวมาจาก ราชบุรี มิตรผล เอฟซี รวมทั้งดาวซัลโวคนใหม่ เนลสัน โบนีญ่า ที่ยิงแหลกพร้อมข่าวมีทีมรุมจีบจนคนเขียนก็สงสัยอะไรจะรักแรกพบรีบจีบไปไหน

เมื่อ 2 คนใหม่เข้ามารวมพลังกับ จอห์น บาจโจ้ สุโขทัย กลายเป็นทีมน่ากลัวทันที เพราะพวกเขามาอย่างแน่วแน่เรื่องการหนีตกชั้นแค่อยู่รอดพอไปถือว่าน่าพอใจ พร้อมตั้งรับ และสวนกลับไปพร้อมกับจรวดในแดนหน้า 3 รายดังกล่าวบวกกับเกมจิตวิทยาของ “โค้ชเบ๊” ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก ที่ขึ้นชื่อเรื่องปลุกเร้าให้เด็กเล่นเพื่อทีม

ภาพที่ออกทีม “ค้างคาวไฟ” วิ่งไม่หยุดเล่นเขี้ยว เกมรุกก็ได้ความสามารถเฉพาะตัวของต่างชาติยามเล่นในบ้านท่ามกลางเสียงเชียร์เดินหน้าเต็มที่ แถมกล้าพอจะรับแบบ 100% ทำตามแทคติกเพื่อ 1 คะแนนไม่มีเขิน ยามไปเยือนทีมใดก็ตามจุดนี้ขอชื่นชมในการแจกจง Job Description ทำให้นักเตะแต่ละตำแหน่งเล่นได้ตามหน้าที่รับผิดชอบอย่างยอดเยี่ยม

ด้วยเหตุนี้เองผมให้ โค้ชไพโรจน์ เฉือน บันโดวิช เข้าป้ายกุนซือยอดเยี่ยมเดือนแรกไปครอง

ขณะที่ผู้เล่นยอดเยี่ยมเชื่อแน่ว่าสำนักอื่นๆ คงมีชื่อ โบนีญ่า เบียดกันทว่าข้าพเจ้าขอยกให้นักเตะไทยที่กดไปแล้ว 4 ประตู และครึ่งหนึ่งที่ทำได้มาจากฟรีคิกอย่าง สุมัญญา ปุริสาย เพลย์เมคเกอร์จาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด สามารถเร่งฟอร์มที่โดดเด่นฉายแววขึ้นมาแม้ภาพรวมของทีมยังไม่ได้ดั่งใจคนเชียร์หรือแม้แต่คนทำมากนัก

ทว่าทุกเกมที่เจ้าตัวลงสนามเขาคือกำลังหลักในแดนกลางตลอด 4 เกม “สุมัญญา” มีบทบาทที่แตกต่างไปหนักไปทางลูกหาบวิ่งไล่โอกาสทะลุไปยังกรอบเขตโทษมีไม่มากนัก ซึ่งเขาก็ทำได้ดีก้มหน้าก้มเล่นไม่บ่น และไม่หลุดสมาธิ แม้ผลงานโดยรวมของทีมดีบ้างร้ายบ้าง แต่ยามที่ สุมัญญา อยู่ในสนามแล้วทีมไม่เสียเปรียบจากที่กำลังจะแย่ ลูกนิ่งปลิดวิญญาณก็มักเข้ามาสร้างซีนเอาตัวรอดไปได้ พอถูกเปลี่ยนออกเป็นเรื่องงานเข้า

ชัดที่สุดคือเกมนัดที่ผ่านมา ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ปราบ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ได้ถึงบ้านเกมนี้ มาโน่ โพลกิ้ง จัด สุมัญญา – ปกเกล้า อนันต์ เดินเครื่องตรงกลาง แอนโทนี่ อำไพพิทักษ์วงศ์ ตัดเกม ให้อิสระกับ วานเดอร์ หลุยส์ สร้างเกมรุก นักตะวิ่งเป็นม้า 4 คนลงพร้อมกันในเกมกลางสนามถือเป็นสิ่งที่เห็นบ่อยนักสำหรับ “แข้งเทพ”

เกมสมดุลมากขึ้นแม้ปัญหาเดิมๆ อย่างเสียประตูง่าย และบอลมาถึงหน้าประตูเร็ว เพราะหลังเติมอย่างบ้าคลั่งจะมีให้เห็น แต่เอาเถอะเกมกระชับกว่าเดิมมาก ซึ่งคนที่ไปทุกที่ จุดไฟให้ทีมอยู่ตลอดผมมองที่ สุมัญญา นี่แหละยกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมในเดือนแรกของลีกไปเลย

นี่ถ้ายังดีต่อเนื่องอีกสัก 2-3 เกมเชื่อว่ามีเสียงเชียร์ให้ไปลุย คิงส์คัพ 2018 แน่นอน ซึ่งก็ต้องลุ้นกันว่า มิโลวาน ราเยวัช จะเรียกใครไปติดทีมบ้าง แก๊งนิปปอน (เจ มุ้ย อุ้ม) จะกลับมาหมดไหมหรือหน้าใหม่ที่พร้อมสอดแทรกจะมีใครบ้าง แต่ที่ไม่ต้องลุ้นก็คือ 16 ขุนพลสาวกองเชียร์แกนนำหลักสายสดใส BNK48 ประกาศชุดใหญ่ 16 นางเป็นที่เรียบร้อย

งานนี้โอตะทุกสายพันธุ์นึกไม่ออกเลยว่าจะ ปลื้มแคป ปลื้มครู ปลาฉลาม เอาเป็นว่าขออยู่ตรงกลางขอชื่นชมห่างๆ ทุกคนไปเลย ทั้งนี้ขอปรบมือให้ดังๆ กับการพลิกเกมว่องไวหยิบจับการตลาดฟุตบอลไทยกับ ไอดอลกรุ๊ป ได้กลมกล่อมจริงๆ

ว่าแล้วกดเสื้อทีมชาติไทยเบอร์ 48 สักตัว !!!

***********

นายใหญ่วัยเกษียณ

พูดถึงเกม ทรู แบงค็อก – ราชบุรี สิ่งหนึ่งที่เห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้ นั่นคือการกลับมารับงานคุมทีมในประเทศไทยอีกครั้งของ เรเน่ เดอร์ซาเยียร์ ในวัย 70 ปี ใช่ครับคุณอ่านไม่ผิดหรอกเขา 70 แล้ว แต่ยังสามารถทำงานกับทีมฟุตบอลลีกสูงสุดของบ้านเราได้อยู่ ท่ามกลางกระแสโค้ชรุ่นใหม่อายุเริ่มต้นที่ 40 ทั้งหลายหากแตะ 50 อย่าง โค้ชไพโรจน์ หรือ “เสือเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ ก็เป็นรุ่นใหญ่ของลีกไปแล้ว

เรเน่ ถือเป็นโค้ชประสบการณ์สูงมาก คุณเชื่อไหมเขารับงานเฮดโค้ชอาชีพครั้งแรก คู่แข่งในเกมอย่าง มาโน่ เพิ่ง 6 ขวบเท่านั้น สิ่งที่ผมคิดต่อยอด อะไรคือข้อแตกต่างที่ เรเน่ ได้รับโอกาสนี้ แล้วถ้าเป็นโค้ชไทยละพวกเขาจะได้รับโอกาสมากน้อยขาดไหนเมื่อเข้าวัยเกษียณ

โดยมากตำแหน่งที่ปรึกษาน่าจะเป็นหมุดหมายท้ายๆ ของอาชีพ

ในวัย 70 ปีหากเปรียบ เรเน่ กับโค้ชไทยวัยนี้คุณนึกออกไหมละว่าใคร นึกไม่ออกก็ออกจากนึกขออนุญาติยกตัวอย่างให้ว่า เรเน่ อายุเท่ากับ “น้าชัช” ชัชชัย พหลแพทย์ ที่เราคุ้นเคยนั่นแหละแก่อ่อนกว่ากันไม่เกินขวบปี รุ่นเก๋าเกิดราว 2490

ไม่ว่า เรเน่ จะมาในฐานะใด เป็นกุนซือเก๋าที่พร้อมแก้สถานการณ์ทีมไร้หางเสือ คอนเนคชั่นที่เข้มข้นกับฝ่ายบริหารมาแล้ว เขาจะมีบทบาทแค่ไหนเป็นลำดับที่เท่าไหร่ในรายชื่อ 4 คนข้างสนาม ราชบุรี ที่ผมเชื่อว่าคุณๆ ไล่ชื่อกันได้ว่ามีใครอยู่ตรงนั้นบ้าง

สำคัญที่สุดคือกุนซือเลย แซยิดรายนี้ได้รับโอกาส ซึ่งโอกาสดีๆ แบบนี้หากตกกับโค้ชไทยคงจะดีไม่น้อย

***********

ทรงทีมแชมป์ (Shape Of Champ)

ปิดทายกันส่วนตัวนิดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสไปนั่งคุยสัมภาษณ์รายการ Thai League World สารคดีฟุตบอลไทยที่ไม่มีพิธีกร ร่วมกับพี่น้องผู้บรรยายทั้ง “พี่บับเบิ้ล” ยิ่งรัก รักษ์สุวรรณ และ “น้องมด” สุรเดช  มั่นวิมล เป็นเทปที่ถามความเห็นหลายประเด็นทั้งของเล่นใหม่ไทยลีกอย่าง VAR – AAR เหมาะหรือไม่กับฟุตบอลไทยเวลานี้ ตกชั้น 5 ทีมจะเปลี่ยนบรรยากาศลีกไปทางใด ทีมแบบไหนมีโอกาสเป็นเหยื่อ 5 ราย ความเห็นหลากหลายแตกประเด็นตามประสาคนคิดเยอะสี่คนรวมโปรดิวเซอร์รายการคุยกันซึ่งผมว่ามันสนุกดี

ทั้งนี้ มันมีประเด็นหนึ่งที่ทั้งวงเห็นค่อนข้างตรงกันนั่นคือ ทีมแบบไหนจะเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ (จริงๆ เราระบุกันไปหมดทุกคนรอชมในรายการ) สิ่งที่เห็นต้องกันนั่นคือปีนี้แต่ละทีมลุ้นแชมป์มีจุดที่ยังไม่ลงตัวอยู่ทีมละนิดละน้อย ทีมที่พร้อมที่สุดขนาดทีมไม่ถึงกับใหญ่โตแต่รอนักเตะใหม่ตอบโจทย์ว่าปรับตัวมากน้อยขนาดไหน และปัญหาการเสียจอมทัพแก้ได้ไหม หรือจะเปลี่ยนระบบรับมือใหม่หมด

ทีมเต็งสองขนาดทีมเล็กมากมองไปม้านั่งสำรองไม่พอเปลี่ยนเกม ซึ่งน่ากลัวเหลือเกินเพราะเจอปัญหาตั้งแต่เดือนแรกของฤดูกาล ขณะที่ม้าตัวใหม่ที่ประกาศตนเป็นทีมลุ้นแชมป์รวมดาวดังค่าตัวระยับไว้มากมายตามประสาทีมกล้าทุ่ม กลับมีคำถามว่าพวกคุณจะยืนระยะได้แค่ไหนเมื่อห่างไกลการลุ้นแชมป์มาร่วมค่อนทศวรรษ

บทสรุปที่ผมพอมัดร่วมได้สำหรับ Shape Of Champ มีประมาณนี้ครับ

1. โค้ชที่อยู่กับทีมมานานจนคุ้นเคย มีประสบการณ์ต้านทางความกดดันจากความสำเร็จได้
2. ขนาดทีมที่ห้ามเล็กเด็ดขาด เอาแค่พอใจทดแทนกันได้ก็ยังดี ยิ่งหากคลุกเคล้าเลือดเก่าใหม่เขย่าลงตัวได้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการฉีกตัว
3. ไลน์อัพที่สอง ในที่นี้คือสำรองรวมทั้งดาวรุ่งทั้งหลายเพื่อช่วงชิงความสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ คือเบื้องต้นสำหรับทีมที่จะเป็นแชมป์เพราะยังมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายที่แตกประเด็นกันออกไป ว่าแต่คุณเห็นด้วยไหมครับกับ 3 ข้อนี้ แล้วคิดไว้ในใจหรือยังว่าใครจะเข้าป้าย…

“ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์”

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports