รีเซต
TRUE OPINIONS : ตัวจริงของเธอ มันคือวันประวัติศาสตร์ของเรา ... by "จอน"

TRUE OPINIONS : ตัวจริงของเธอ มันคือวันประวัติศาสตร์ของเรา ... by "จอน"

TRUE OPINIONS : ตัวจริงของเธอ มันคือวันประวัติศาสตร์ของเรา ... by "จอน"
Supanat
12 มีนาคม 2561 ( 18:06 )
5.4K

แทบจะเป็นกิจวัตรประจำสัปดาห์ของเหล่าแฟนบอลชาวไทยไปแล้ว ในการติดตามผลงาน 3 นักเตะไทยในศึก เจ ลีก ญี่ปุ่น ทั้งพี่ใหญ่ “มุ้ยซัง”, พี่คนกลาง “บุญจัง” และ น้องเล็กอย่าง “ชนาคุง”

ก่อนหน้านี้สองเกมแรก ใน เจ ลีก นั้น ทั้งสามทีมของทั้งสามราย ยังไม่เคยมีโปรแกรมเตะพร้อมกันในวันเดียวกันเลย และยังไม่มีเกมไหนที่ทั้งสามคนได้ลงสนามเป็นตัวจริงแบบครบถ้วนอีกด้วย จนกระทั่งสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในวันเสาร์ที่ 10 มีนาคม 2561 นับเป็นวันประวัติศาสตร์ของนักเตะไทยอย่างแท้จริง เมื่อทั้งพี่ใหญ่, พี่คนกลาง และน้องเล็ก ได้ลงสนามเป็นตัวจริงครบทั้งสามคน แถมต้นสังกัดของทุกคน ต่างมีโปรแกรมลงสนามในวันเดียวกันอีกด้วย

ธีราทร บุญมาทัน ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรก และได้แตะหญ้าครบ 90 นาที ในตำแหน่งแบ็คซ้าย ช่วยให้ วิสเซิ่ล โกเบ บุกแบ่งแต้ม เวกัลตะ เซนได 1-1 ชนิดที่เกือบชนะ แบบเก็บคลีนชีตได้อยู่ซะแล้วเชียว

ธีรศิลป์ แดงดา มีโอกาส 1 ชั่วโมงเต็ม กับการทำหน้าที่เป็นกองหน้าให้กับ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ในเกมบุกชนะ คาชิม่า อันท์เลอร์ส 1-0 ซึ่งพลพรรคธนูม่วง กลายเป็นทีมเดียวที่สามารถเก็บชัยชนะได้ทุกเกม มี 9 แต้มเต็ม ชนิดที่ชนะแบบเบียด 1 ลูก ทุกเกมอีกด้วย



สำหรับตัวผมเอง ต้องขอบอกเลยว่า ผมไม่ได้ดูฟอร์มของทั้งสามคนครบในวันประวัติศาสตร์นี้ โดยที่ไม่ได้ชมเลย ก็คือ “เจ้ามุ้ย” แต่การสอบถามจากเพื่อนๆ ที่ชม ก็พบว่า เจ้าตัวยังมีข้อปรับปรุงอีกพอสมควรสำหรับปีแรกใน เจ ลีก เพราะโดนเปลี่ยนออกตั้งแต่นาทีที่ 60 ทั้งในเรื่องของ ความกระหาย และการวิ่งทำทางหาช่องเข้าทำประตู ซึ่งเพื่อนๆ หลายคนบอกว่า บางจังหวะดูเหมือน เจ้ามุ้ยยังไม่ได้รับความไว้ใจจากเพื่อนร่วมทีมมากเท่าที่ควร

ส่วนที่ได้ชมเลยก็คือ การลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกของ “เจ้าอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน… โดยภาพรวมของ “บุญจัง” ในเกมแรกที่ลงสนามเป็นแบ็คซ้าย ถือว่า อยู่ในระดับคงตัว ประตูที่เสียไปช่วงท้ายเกม อาจจะเป็นพื้นที่รับผิดชอบของเขาส่วนหนึ่งก็จริง ทว่าก็ไม่ใช่ความผิดเขาทั้งหมด ต้องโทษแนวรับทั้งแผง ที่ทำให้สามแต้มกลายเป็นเพียงหนึ่งแต้ม ในนาทีที่ 86


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังมีจุดที่ต้องแก้ไขออกมาเช่นกัน (อาจจะเกี่ยวกับเรื่องของแทคติกด้วย) โดยเขาต้องเล่นแบ็กซ้ายรับลึกพอสมควรตลอด 90 นาที จนไม่มีโอกาสเติมเกมขึ้นมาสวยๆ แทบไม่มีจังหวะโอเวอร์แล็ปถึงเส้นหลัง ไม่มีจังหวะครอสบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษแบบสวยๆ แถมยังโดนใบเหลืองไปอีก 1 ใบอีกด้วย

ทั้งนี้ สถิติตัวเลขหลายอย่าง บ่งชี้ว่า ด้วยแทคติกทำให้ “อุ้ม” ไม่สามารถเฉิดฉายได้เลยในเกมรุก เขามีโอกาสเปิดบอลไปข้างหน้าแค่สามครั้ง แต่ไม่เข้าเป้า และไม่มีโอกาสยิงฟรีคิกของชอบเลยสักครั้ง

มากันที่ “ชนาคุง” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะขวัญใจชาวไทย ที่ลงสนามครบ 90 นาที ในเกมเปิดบ้านแพ้ ชิมิสุ เอสพัลส์ 1-3 มันก็เป็นวันที่เขาเล่นได้ดีพอสมควรนะ แต่อะไรๆ ก็ดูไม่เป็นใจเลยสำหรับเจ้าบ้าน ที่ซัปโปโร โดม ในเกมวันนั้น



ช่วงครึ่งหลัง ชนาธิป ดูมุ่งมั่น วิ่งพล่านไม่ลืมเหนื่อย มีจังหวะที่เขาได้ลาก และโยกหลบแนวรับคู่แข่งในกรอบเขตโทษ ก่อนเปิดเข้ากลางให้ เจ โบธรอยด์ ไขว้ยิง และช่วยในเกมรับหลายครั้ง จนโดนใบเหลืองในท้ายที่สุด เมื่อเวลาผ่านไป 70 นาที

เป็นเกมที่เขามีส่วนร่วมพอสมควร แต่ไม่ดีพอที่จะช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะในบ้านได้ และดูเหมือนว่า คอนซาโดเล่ ซัปโปโร กำลังมีปัญหาหลายอย่างให้แก้ไข เพราะ 3 นัด 1 คะแนน มันไม่ดีแน่ๆ หากเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย

10 มีนาคม 2561 มัน คือ วันประวัติศาสตร์ของสามนักเตะไทย ในศึก เจ ลีก
พวกเขาได้รับความไว้วางใจให้ลงสนามเป็นตัวจริงพร้อมกัน
แต่.. ไม่ใช่ว่า นี่คือสิ่งที่เรียกว่าประสบความสำเร็จแล้ว
มันเป็นเพียงบันไดก้าวแรก เพื่อก้าวต่อไปของน้องๆ นักเตะไทยคนอื่น
มันต้องต่อยอด มันต้องต่อเนื่อง
และยังมีอีกหลายอย่างที่พวกเขายังต้องแก้ไข ปรับปรุง เพื่อยืนระยะในลีกเบอร์หนึ่งของเอเชียให้ได้นานๆ

สำหรับแฟนบอลอย่างพวกเรา ที่มองอยู่ห่างๆ ทางนี้จากการถ่ายทอดสด ก็ทำได้เพียงบอกว่า

“สู้ๆ ครับผม พวกคุณคือความภาคภูมิใจของเรา”

“จอน”

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้