TRUE TALK : ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ทำไมเสื้อแฟนบอลไม่มีตราพระมหามงกุฎ ... by "MAXZIO"

หลังทาง Warrix เป็นตัวชุดแข่งทีมชาติไทยแบบใหม่ไป ซึ่งมีความแตกต่างกันระหว่างเสื้อเกรดเพลเยอร์ และเกรดแฟนบอล จนทำให้แฟนบอลส่งสัยว่า เหตุใดจึงต้องแตกต่างกัน และทำไมเสื้อเกรดเพลเยอร์ ไม่มีการจัดจำหน่ายให้แก่แฟนฟุตบอลชาวไทย

เมื่อวานนี้ Warrix และทางสมาคมฯฟุตบอล จัดงานเปิดตัวตัวชุดแข่งใหม่ “ทีมชาติไทย” มีชื่อว่า “CHANGSUEK THE GENESIS’ (ช้างศึก เดอะ เจเนซิส) โดยชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ (Warrix Player Jersey) ในปีนี้ ไม่มีวางจำหน่ายทั่วไป แต่ชุดแข่งสำหรับแฟนบอล (Warrix Replica Jersey)จะจัดจำหน่ายอยู่ที่ราคา 990 บาท

ซึ่งชุดทั้ง 2 แบบมีความแตกต่างกันหลักๆ นอกเหนือจากที่ชุดแฟนบอลใส่ได้ 2 ด้านแล้วคือ ตรามหาพิชัยมงกุฎ ที่อยู่เหนือโลโก้ช้างศึก และมีอยู่แค่บนเสื้อเกรดนักเตะท่านั้น ส่วนเกรดแฟนบอล จะเป็นธงชาติไทยแทน

การใช้ ตรามหาพิชัยมงกุฎ ลงบนเสื้อทีมชาติไทย แบบใหม่นั้น ทำให้ดูสง่างาม มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี แต่พอเปลี่ยนไปใช้ธงชาติไทย ยอมรับกันตรงๆ ว่า ความสวยตกลงไปอย่างเห็นได้ชัด

แฟนฟุตบอลไทยหลายคนได้อ่านผ่านตา หรืออาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่า ตรามหาพิชัยมงกุฎ ไม่สามารถใช้ในเชิงพาณิชย์ ทำให้สามารถจัดจำหน่ายได้ และไม่สามารถนำมาใช้เป็นโลโก้ทีมชาติไทยได้

ทาง คุณวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด ออกมาให้เหตุผลในงานเปิดตัวเสื้อครั้งนี้ ถึงสาเหตุที่เลือกใช้ ตรามหาพิชัยมงกุฎ แค่กับเสื้อนักฟุตบอลทีมชาติไทยว่า

“เราทุกคนมีภารกิจที่แตกต่างกัน นักฟุตบอลมีภารกิจในการเป็นตัวแทนคน 60 ล้านคนในประเทศไทย เป็นนักรบที่ดีที่สุด 11 คนที่ถูกคัดสรรมาทำหน้าที่ของเขา”

“ชุดแข่งที่เรียกว่าเพลเยอร์เกรด จะไม่มีจำหน่าย เนื่องจากเป็นชุดที่เราผลิตขึ้นมาให้กับนักฟุตบอลที่เป็นผู้เล่น โดยบนตัวเสื้อจะมีตราพระมหาพิชัยมงกุฎ ที่ได้รับพระราชทานจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ประดับบนตัวเสื้อ อันนี้เราก็จะถือว่าเป็นการให้เกียรติกับนักฟุตบอล”

“เสื้อแข่งที่เราทำเพื่อเป็นเกียรติให้กับนักฟุตบอลเท่านั้น ซึ่งจะมีความแตกต่างที่ตรงเหนือโลโก้ช้างศึกจะเป็นตราพระมหามงกุฎ ส่วนของแฟนบอลจะเป็นธงชาติไทย”

แต่ จิรัฏฐ์ จันทะเสน เลขาธิการสมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยและกรรมการบริหารพิพิธภัณฑ์คณะฟุตบอลสยาม ที่พยายามผลักดันการใช้ ตราพระมหาพิชัยมงกุฎ และได้ยื่นหนังสือยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานวินิจฉัย  “ตราพระมหามงกุฎ” กลับมาอยู่บนอกเสื้อทีมชาติไทยอีกครั้งต่อในหลวงรัชกาลที่ 10 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้โพสต์ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงความเห็น ว่า

“ผมขอเรียนแฟนฟุตบอลทุกท่านว่า “ตราพระมหามงกุฎ” สามารถทำเชิงพาณิชย์ได้ แต่พวกเขา “อ้าง” กันเอง เพื่อให้เกิดความสับสนและความแตกแยกเพียงแค่ “เอาใจ” สปอนเซอร์รายใหญ่เจ้าหนึ่งเท่านั้นเอง ครับ”

ด้านแฟนฟุตบอลเองก็ออกมาสงสัยในการเลือกใช้ ตรามหาพิชัยมงกุฎ อยู่ไม่น้อยเช่นกัน โดยมีความเห็นหนึ่งจากเว็บไซต์ T1hailandsusu ว่า

“ผมไม่เห็นด้วยกับสมาคมและวาริกซ์เลย ทำไมไม่ทำให้ชุดแฟนบอลเหมือนชุดนักเตะ เรื่องตราพระมหามงกุฏ เมื่อมีในเสื้อก็ดูสวยสง่างาม มีเกียรติ มีศักศรีกับแฟนบอล แต่ทำไมมีแค่นักเตะที่ได้ใส่ แล้วเราแฟนบอลทำไมไม่ได้ใส่ พวกท่านไม่อยากให้เรามีเกียรติรึไง ผมละ งง!! ”

“ตราพระมหามงกุฏนี้ท่านได้ประทานให้กับคนไทยทุกคนนะครับ ไม่ใช่แค่นักเตะแค่ 23 คน ที่จะได้ใส่ การที่ได้ตราพระมหามงกุฏมาอยู่ในชุดฟุตบอลมันถูกแล้ว เป็นการรวมคนในชาติตามเจตจำนงที่ท่านได้ประทานลงมา ไม่ใช่ให้สมาคมไปใช้แค่เพียงฝ่ายเดียว แฟนบอลก็ควรมีสิทธิในตราพระมหามงกุฏนี้เช่นกันนะครับสมาคม ในเมื่อท่านว่าให้เราเป็นผู้เล่นคนที่ 12 แล้วทำไมเสื้อเราถึงไม่เหมือนกันแบบนี้”

ก่อนหน้านี้ชุดแข่งทีมชาติไทยในปีที่ผ่านมาที่ใช้สีดำและสีขาวเป็นสีหลักนั้น มีการอัญเชิญตรามหาพิชัยมงกุฎ มาประดับไว้บริเวณด้านหลังเสื้อเหนือเบอร์ และชื่อ และมีการจำหน่ายเสื้อเกรดเพลเยอร์ ในราคา 1,990 บาท และถ้าย้อนกลับไป คิงส์ คัพ ครั้งที่ 44 ทางแกรนด์สปอร์ต ออกเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทย ๑๐๐ ปี มาจัดจำหน่ายโดยใช้ ตราพระมหามงกุฎ แทน โลโก้ช้างศึก มาแล้วเช่นกัน

ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก็ออกมาชี้แจงส่วนหนึ่งตั้งแต่ตอนประกวดโลโก้ ช้างศึก ว่า สำหรับตราพระมหาพิชัยมงกุฎ หรือตราพระมหามงกุฎ ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) มาตั้งแต่ พ.ศ. 2458 ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ปรึกษากับผู้ทรงคุณวุฒิที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งต่างก็ลงความเห็นว่า

สมควรจะใช้เฉพาะในโอกาสสำคัญ และอยู่ในจุดที่สูงส่งสง่างามเพื่อความสมเกียรติเท่านั้น

สำหรับชุดแข่งใหม่ เกรดแฟนบอล ของทีมชาติไทย จะอยู่ในขอบเขตที่ ดูสูงส่ง สง่างาม และเพื่อความสมเกียรติ หรือไม่นั้น แล้วแต่ตามวิจารณญาณ ของท่านๆ เลยครับ

อนึ่ง การใช้ ตราพระมหาพิชัยมงกุฎ ต้องได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปัจจุบัน และมีสถาบันการศึกษา ที่ใช้ตราพระมหาพิชัยมงกุฎ อยู่มากกว่า 40 สถาบัน และมีการจัดจำหน่ายทั้งกระเป๋า หรือเสื้อมาใช้เชิงพาณิชย์เพื่อจัดหารายได้พัฒนาองค์กร

“MAXZIO”

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports