รีเซต
TRUE FOCUS : นับถอยหลังวันลุ้นระทึก 8 ทีมสุดท้าย "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก" ... by "Mr. BOSTON"

TRUE FOCUS : นับถอยหลังวันลุ้นระทึก 8 ทีมสุดท้าย "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก" ... by "Mr. BOSTON"

TRUE FOCUS : นับถอยหลังวันลุ้นระทึก 8 ทีมสุดท้าย "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก" ... by "Mr. BOSTON"
kentnitipong
24 มีนาคม 2561 ( 02:30 )
297

Mr. BOSTON : ผมหวังจะเขียนบทความนี้ตั้งแต่วันที่รู้ผลการจับฉลากว่าพวกเขาทั้ง 8 ทีมต่างต้องเผชิญหน้ากับใครบ้าง แต่พอคิดขึ้นมาได้ว่า สัปดาห์หลังจากนั้นฟุตบอลสโมสรมีอันต้องหยุดพัก เพื่อหลีกทางให้กับสัปดาห์ทีมชาติ หรือ ฟีฟ่า เดย์ ก็ทำให้ความขึ้เกียจมาเยือนทันที และเขียนบทความนี้ใหม่ในสัปดาห์ถัดมา

 

 

การเขียนบทความนี้ให้หลังหนึ่งสัปดาห์หลังจากรู้ผลการจับฉลาก แม้จะทำให้ความตื่นเต้น หรือความ “ว้าว” ลดลงไปบ้าง แต่ข้อดีคือการได้ไตร่ตรอง และมองเห็นความน่าจะเป็นต่างๆ นานา ที่อาจจะเกิดขึ้นในรอบก่อนรองชนะเลิศนี้โดยปราศจากความตื่นเต้นใดๆ มารบกวนด้วยเช่นกัน

และนี่คือสิ่งที่ผมอยากจะพูดถึงเกี่ยวกับ รอบ 8 ทีมสุดท้ายของถ้วย “บิ๊กเอียร์” ในปีนี้ครับ

….

…..

Ballard of Español-Italia

 

 

การเจอกันของ บาร์เซโลน่า กับ อาแอส โรม่า และ เรอัล มาดริด กับ ยูเวนตุส ถือเป็นเรื่องบังเอิญโดยแท้ ที่สองสโมสร จากสองชาติมหาอำนาจของถ้วยสโมสรยุโรปโคจรมาพบกันถึง 2 คู่ ซึ่งหากนับตามชาติที่เป็นแชมป์รายการนี้แล้ว สโมสรจากสเปน ครองแชมป์รายการนี้มากที่สุด รวมกันถึง 17 ครั้ง (เรอัล มาดริด 12, บาร์เซโลน่า 5) และสโมสรอิตาลี ครองแชมป์รายการนี้รองลงมาที่ 12 ครั้ง (เอซี มิลาน 7, อินเตอร์ 3, ยูเวนตุส 2)

โดยสโมสรทั้ง 2 ชาติยังครองตำแหน่งเข้าชิงชนะเลิศมากที่สุดเท่ากันด้วยที่ 28 ครั้ง

 

 

การเจอกันเองของสโมสรจากทั้ง 2 ชาติ ในยุคสมัยนี้ ดูเหมือน อิตาลี จะเป็นรองอยู่บ้างเล็กน้อย ทั้ง โรม่า ที่ดูเหมือนจะเป็นรอง บาร์ซ่า แบบค่อนข้างห่าง และ ยูเว่ ที่เพิ่งแพ้ มาดริด มาในรอบชิงปีที่แล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทั้ง 2 สโมสรจากอิตาลีจะต้องจบเส้นทางแค่รอบนี้ เพราะขึ้นชื่อว่า ฟุตบอลเหย้าเยือน ไปกลับ 2 นัด แถมมีกฎอเวย์จี… เอ๊ย !!! อเวย์โกล์ มาเป็นตัวแปรแบบนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน

 

 

ความน่าสนใจในการเจอกันของทั้ง 4 ทีม 2 คู่ตรงนี้ เรามีโอกาสเห็นความคลาสสิคในการปะทะของสไตล์ฟุตบอลประจำชาติทั้ง 2 ชาติ สูงมาก เริ่มจาก คู่ “อาซูลกราน่า” ปะทะ “จัลโล่รอสซี่” ถึงแม้ “หมาป่ากรุงโรม” จะไม่ได้เล่นบอลสไตล์ คาเตนัคโช่ หรือ บอลรับลึกรอสวนเป็นปกติ แต่การเป็นรอง บาร์ซ่า ไม่น้อย อาจจะทำให้ ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเซสโก้ ต้องงัดกลยุทธ์สุดคลาสสิคนี้ออกมาใช้ และเขาเคยทำมันได้ดีด้วย สมัยที่ยังคุมซาสซูโอโล่ จนสามารถพาทีมไปเล่นในยูโรป้า ลีกได้

 

 

ด้านคู่ “โลส บลังโกส” กับ “เบียงโคเนรี่” ยิ่งไม่ต้องสงสัย เพราะทีม “ม้าลาย” ขึ้นชื่อเรื่องการเล่นรับแน่นหน้าอยู่แล้ว และการที่ต้องเล่นในบ้านก่อนการไม่เสียประตูเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยอย่าลืมว่าในถ้วยนี้ เสีย 1 ประตูในบ้านเหมือนต้องยิงคืน 2  ประตูเลยทีเดียว ดังนั้นแล้ว เราอาจจะได้เห็น “ติกี้ ตาก้า” ปะทะ “คาเตนัคโช่” อีกครั้งก็ได้ ส่วนใครจะชนะ ก็คงไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้

….

…..

Lucky or Unlucky for Bayern Munich

ในบรรดา 8 ทีมที่เข้ารอบมาในฤดูกาลนี้ เซบีย่า ดูเหมือนจะเป็นที่หมายปองในการจับฉลากของบรรดา 7 ทีมใหญ่ที่เหลือ และสุดท้ายเป็น “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ที่ได้เจอกับจ้าวแห่งยูโรป้า ลีก ทีมนี้ แต่นี่จะเป็นโชคดีของ บาเยิร์น จริงๆ หรือ ?

 

 

หากว่ากันตามตรง เซบีย่า เป็นรองยอดทีมแห่งแคว้นบาวาเรียทุกทาง ทั้งชื่อเสียง ความสำเร็จ ตัวผู้เล่น และประสบการณ์ แต่การที่เขาล้มทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ถึง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทำให้พวกเขาไม่น่าจะใช่หมูที่จะให้พี่เสือเคี้ยวได้ง่ายๆ

 

 

ถึงแม้ เซบีย่า กับ บาเยิร์น จะไม่มีสถิติการพบกันในรายการอย่างเป็นทางการ แต่ เซบีย่า เป็นทีมที่มีสถิติการเจอทีมจากเยอรมันดีมากทีมหนึ่ง พวกเขาเจอทีมจากเมืองเบียร์ ในฟุตบอลสโมสรยุโรปรวมกันทั้งหมด 16 ครั้งนับตั้งแต่ ยูฟ่า คัพ ในฤดูกาล 1982-83 และมีสถิติที่ยอดเยี่ยม ด้วยการชนะ 9 เสมอ 5 และแพ้แค่ 2 เท่านั้น ซึ่งคิดเป็นตัวเลข 56.25% ที่พวกเขาชนะได้

ในทางตรงกันข้ามการเจอทีมจากสเปนของ บาเยิร์น แม้จะทำได้ดี แต่ก็ยังดีไม่เท่า เซบีย่า เจอทีมจากเยอรมัน โดย “เสือใต้” ชนะ 22 เสมอ 12 แพ้ 11 เมื่อเจอทีมจากสเปน คิดเป็นเปอร์เซ็นเก็บชัยชนะได้ 48.8 % เท่านั้น ดังนั้น การเจอกันของคู่นี้จึงอาจจะไม่ใช่เรื่อง “นอนมา” อย่างที่ใครหลายๆ คนคิดก็ได้

….

…..

EPL Sibling Rivalry

ไฮไลท์ของรอบ 8 ทีมสุดท้ายนี้ สำหรับแฟนบอลชาวไทย คงหนีไม่พ้นการจับเจอกันเองของ 2 ทีมจากอังกฤษอย่าง ลิเวอร์พูล (ทีมที่มีกองเชียร์ และกองแช่งมากที่สุดในสยามประเทศ) พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ว่าที่แชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้

 

 

ผมออกตัวก่อนว่า ไม่ใช่แฟนของ “หงส์แดง” แต่ก็ยอมรับมาตลอดว่า ยอดทีมแห่งเมอร์ซี่ย์ ไซด์มีพลังมากกว่าปกติเสมอ เมื่อลงเล่นในฟุตบอลยุโรปรายการนี้ และต้องอย่าลืมว่า ความด่างพร้อยจากความพ่ายแพ้นัดเดียวในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ของ “เรือใบสีฟ้า” ก็มาจากน้ำมือของ  ลิเวอร์พูล นั่นเอง

ไม่ได้จะบอกว่า ลิเวอร์พูล จะปราบ ซิตี้ แล้วเข้ารอบรองชนะเลิศได้ เพราะอย่างไรก็ตาม ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ยังดูแข็งแกร่งกว่าทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เมื่อวัดจากผลงานโดยรวมในฤดูกาลนี้ แต่คงไม่ผิดไปจากนี้มากนักถ้าจะบอกว่า การเจอกันของ 2 ทีมนี้น่าจะเป็นคู่ที่ได้ลุ้นที่สุดจากทั้งหมด 4 คู่ เนื่องจากเป็นฟุตบอลสไตล์เดินหน้าฆ่ามัน ถอยหลังหกล้มกันทั้ง 2 ทีม ทำให้เชื่อได้ว่า 2 นัดทั้งที่ แอนฟิลด์ และเอติฮัด สเตเดี้ยม น่าจะเป็นอะไรที่สนุกสมใจแฟนบอลชาวไทย (ทั้งกองเชียร์ และกองแช่ง) อย่างแน่นอน

ว่าแต่ แฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชาวไทย เลือกหรือยังครับ ว่าจะเชียร์ใคร หรือแช่งใคร (น่าเสียดายที่ไม่มีตัวเลือกให้มันตกรอบทั้งคู่นะครับ ฮา)

….

…..

Rise of the Top 4 Leagues

นี่เป็นครั้งแรกในฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย มีแต่ทีมจาก 4 ลีกท็อปของยุโรป (พรีเมียร์ลีก, ลาลีก้า, กัลโช่ เซเรีย อา, บุนเดสลีกา) โดยไม่มีทีมจากลีกอื่นมาผสมโรงเลย

สโมสรจากสเปน 3 ทีม, สโมสรจาก อังกฤษ 2 ทีม, สโมสรจาก อิตาลี 2 ทีม และสโมสรจากเยอรมัน 1 ทีม ทำให้ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีนี้น่าสนใจขึ้นกว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมา เพราะสโมสรจากลีกรองลงไปที่หลุดเข้ามาในรอบนี้ มักจะกระเด็นร่วงตกรอบแบบไม่มีชิ้นดีในรอบนี้นี่เอง เนื่องจากมาตรฐานที่ต่างกันเกินไปของลีก ท็อปโฟร์ กับลีกอื่นๆ

แต่เมื่อเป็นการเจอกันของทีมจากลีก ท็อปโฟร์น่าจะทำให้รอบก่อนรองชนะเลิศของ “บิ๊กเอียร์” ปีนี้ เข้มข้นกว่าปีไหนๆ

และที่สำคัญ ผมแอบลุ้นให้รอบรองชนะเลิศ มีทีมจากทั้ง 4 ลีกเข้าไปชิงชัยกันครบอีกด้วย ส่วนจะเป็นแบบนั้นไหม ก็คงทำได้แค่ลุ้นกันต่อไปครับ

 

“Mr. BOSTON”

 

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้