TRUE OPINIONS : อย่าให้ความพ่ายแพ้ในนัดชิงฯ "คิงส์คัพ 2018" ต้องสูญเปล่า ... by "บก.เก้น"
บก.เก้น : ตอนแรกยอมรับว่าแอบกังวลอยู่พอสมควร ทั้งจากรูปเกมที่ ไทย หาช่องจบไม่ได้ เกมรับที่เหมือนจะดูเมาหมัดคู่แข่งอยู่ การเสียประตูเร็ว จนแอบคิดไม่ได้ว่า นี่อาจจะเป็นหนึ่งในงานที่ยากที่สุดของ มิโลวาน ราเยวัช นับตั้งแต่เข้ามาคุมทัพ “ช้างศึก”
ขอบคุณภาพ : ACTION24CNX
ยิ่งเป็นการลงกับทีมอันดับที่ 29 ของโลก (ฟีฟ่า แรงกิ้ง) อย่าง สโลวาเกีย ที่ขนผู้เล่นตัวหลักมาอย่างครบครัน เกมนัดชิงฯ คิงส์คัพ 2018 จึงเป็นอะไรที่บีบหัวใจกุนซือเลือดเซิร์บเป็นอย่างยิ่ง เพราะการต้องแบกรับความกดดันจากแฟนบอลไทยที่วันนี้แห่มามาให้กำลังใจแน่น ราชมังคลากีฬาสถาน (45,425 คน) ย่อมไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ๆ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในฐานะใดก็ตาม
เช่นเคย วันนี้ผมขออนุญาตแสดงทรรศนะแบบตรงไปตรงมา สดๆ จากขอบสนามราชมังคลากีฬาสถาน มาดูกันว่าการลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศ คิงส์คัพ 2018 ของทีมชาติไทยมีอะไรที่น่าจดจำ หรือควรปรับก่อนที่จะลงทำศึกสำคัญสองรายการไม่ว่าจะเป็น เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ช่วงสิ้นปี ต่อเนื่องไปถึง เอเชี่ยน คัพ 2019 ในช่วงต้นปีหน้า
…
….
…..
ประตูโอเค คู่เซนเตอร์ยังได้ แต่วิงแบ็ก “ต้องปรับด่วน”
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ คือผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดของไทยในยุคนี้ และน่าจะยังคงเป็นตัวเลือกเบอร์หนึ่งของทีมต่อไป เนื่องด้วยฟอร์มการเล่น ความมั่นใจ ภาวะความเป็นผู้นำ และปลอกแขนกัปตันทีม ขณะที่คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวจริงทั้งพรรษา และเฉลิมพงษ์ ยังดีพอที่จะเป็นตัวจริงต่อไปหากเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ ในลีก เชื่อว่าบทเรียนจากการได้เผชิญกับแนวรุก สโลวาเกีย จะทำให้ทั้งสองพัฒนาตัวเองได้ทัน และเก๋าเกมพอในยามต้องเผชิญกับศูนย์หน้าระดับเอเชีย
แต่… วิงแบ็กทั้งสองข้างของทีมชาติไทยในชุดนี้ (คิงส์คัพ 2018) ยังดูไม่ลงตัว ถ้าพูดตามภาษาแฟนบอลก็คงประมาณว่า “ไม่โอเค”
ผมไม่ได้บอกว่า ฟิลิป โรลเลอร์ กับพีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ไม่เก่ง แต่ความหมายที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ ราเยวัช ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนบ้าง กล้าที่จะให้โอกาสกับตัวเลือกที่ฟอร์มดีในลีกบ้าง ไม่เช่นนั้นการแข่งขันภายในทีมจะไม่เกิด
เข้าใจว่าตามแทคติกของ ราเยวัช กุนซือรายนี้มักจะให้วิงแบ็กทั้งสองคอยรับผิดชอบเกมรับเป็นหลัก มากกว่าที่จะให้ขึ้นเกมรุก ซึ่งมันชัดอยู่แล้วว่าขัดกับธรรมชาติแข้งทั้งสอง โดยเฉพาะ ฟิลิป โรลเลอร์ ที่ปกติเติมเกมยิ่งกว่าจรวด
พอไม่ให้ดันสูงเพื่อขึ้นมาบีบพื้นที่ การรับผิดชอบในเกมรับยามที่ไม่มีบอลก็กลายเป็น “ปัญหาใหญ่” ของทั้ง ฟิลิป และบาสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สังเกตได้ว่าวันนี้ สโลวาเกีย ของ แยน โคซัค พยายามใช้เกมริมเส้นคอยโจมตีแนวรับไทยตั้งแต่วินาทีแรกที่นกหวีดเป่าเริ่มเกม โดยเฉพาะโรเบิร์ต มัค (หมายเลข 20) และเอริค พาซินด้า (หมายเลข 24) ที่วิ่งสลับซ้ายขวากันเป็นว่าเล่น ทำเอาทั้ง ฟิลิป และบาส โดนเผายับในแมตช์นี้ นี่คือความจริงที่เราต้องยอมรับ
ถึงเวลาของ เควิน ดีรมรัมย์ แล้วหรือยังกับวิงแบ็กฝั่งซ้าย ? หรือจะยอมถอยอดีตแบ็กตัวหลักอย่าง ธีราทร บุญมาทัน ที่เปรยๆ ไว้ว่า มิดฟิลด์ไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีที่สุดของเจ้าตัว เช่นเดียวกับ ทริสตอง โด ที่อาจจะหวนกลับมารับสัมปทานทางฝั่งขวาหลังหายจากอาการบาดเจ็บ หรือจะเป็น นฤบดินทร์ จากค่าย “ปราสาทสายฟ้า” ทั้งหมดนี้คือโจทย์ที่ มิโลวาน ราเยวัช ต้องตีให้แตกก่อนชิงแชมป์อาเซียน และชิงแชมป์เอเชีย มิเช่นนั้น… (เชิญเติมคำในช่องว่าง)
…
….
…..
ตัวสำรอง การแก้เกม และความสดชื่นที่ ไทย ต้องการ ?
บดินทร์ ผาลา, นูรูล ศรียานเก็ม และสิโรจน์ ฉัตรทอง คือสามนักเตะไทยที่ได้รับโอกาสลงเล่นในคิงส์คัพครั้งนี้ในฐานะ “ตัวสำรอง” นอกนั้นที่ ราเยวัช เรียกมาล้วนแต่หายเรียบ เงียบเป็นป่าช้าอยู่บนม้านั่งสำรอง
ผมคงมิอาจล่วงก้าวเข้าไปยุ่งกับการตัดสินใจที่ข้างสนามได้ แต่เชื่อว่าแฟนบอลชาวไทยไม่น้อยก็คงมีคำถามอยู่ในใจว่า เหตุไฉนนักเตะฟอร์มดีในลีกหลายๆ คนถึงไม่ได้มีโอกาสลงสัมผัสเกมในทัวร์นาเมนต์นี้เลยแม้แต่น้อย
หาก “ปีโป้” ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองในระดับนานาชาติได้ เป็นไปได้มั๊ยว่า สุพจน์ จดจำ จะถูกส่งลงมาเสริมเกมรุกแบบเน้นๆ ตามแบบฉบับศูนย์หน้า No.9 หรือดาวรุ่งที่สร้างชื่อกระฉ่อนไปทั้งเอเชียอย่าง สุภโชค สารชาติ จะถูกวางไว้เป็นไพ่ใบสุดท้ายในยามที่ทีมต้องการอ็อปชั่นในเกมรุก หรือจะเป็น ปกเกล้า อนันต์ ที่มักจะทำได้ดีในเกมที่เต็มไปด้วยความกดดัน
พูดถึงการปรับแทคติกกันบ้าง การแก้เกมของ ราเยวัช ในครึ่งหลังถือว่าใช้ได้ครับ เกมรุกของทีมชาติไทยดูมีจังหวะเข้าทำที่ชัดเจนขึ้น หลากหลายขึ้น แต่ยังไม่เด็ดขาดพอ ชัดเจนว่าพอมีตัวริมเส้นที่มีความเร็วจัดอย่าง นูรูล ลงมา เรามีโอกาสผ่านบอลเข้าไปยังพื้นที่สุดท้ายในกรอบเขตโทษมากขึ้น การให้ ฐิติพันธ์ เติมเกมรุกแบบไม่ต้องพะวงหลัง ทำให้ “เจ้านิว” สามารถอาศัยลูกเก่งนั่นคือการลากบอลทะลุทะลวงเข้าไปหาช่องสับไกหน้ากรอบ รวมถึงการตัดสินใจถอด มงคล ที่ไม่สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง ถือเป็นการตัดสินใจที่แสดงให้เห็นว่า ราเยวัช เองก็กล้าเปิดเกมรุกแลกเหมือนกัน
เกมรุก อาจจะไม่งานถนัดของ ราเยวัช แต่ตราบใดที่ฟุตบอลยังตัดสินกันที่การยิงประตู กุนซือทีมชาติไทยต้องเชื่อใจ และมั่นใจในทรัพยากรที่มีอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเจ จะมุ้ย หรือใครก็ตามในม้านั่งสำรอง
…
….
…..
ลูกเซ็ตพีซ อาวุธเด็ดที่ “ช้างศึก” ต้องเน้นมากขึ้น
คำว่า “ลูกเซ็ตพีซ” ในที่นี้ ผมขอแบ่งออกเป็น จังหวะเกมรุก และจังหวะเกมรับ นะครับ
เกมรุก : จริงๆ แล้วเราทุกคนล้วนได้เห็นว่า เกมนัดชิงฯ กับ สโลวาเกีย ทีมชาติไทยมีโอกาสปิดดีลจากลูกฟรีคิกอยู่พอสมควร (ทำสำเร็จ 1 ลูก) ฉะนั้นตัดไปเลยครับ เรื่องความเสียเปรียบของรูปร่าง ขอแค่คุณเติมความหลากหลายรูปแบบการเล่นลูกตั้งเตะ การวางมือปืนตัวจริงที่จะรับหน้าที่สังหาร หรือปั่นโค้งเข้าไปวัดใจในกรอบ และกล้าที่จะตัดสินใจในสถานการณ์คับขัน
ลูกปั่นโค้งเข้าไปของ นูรูล ก่อนจะไปถึง พรรษา ที่ตวัดยิงเข้าไป เป็นสัญญาณชัดเจนว่า ในยามที่คุณเจาะไม่เข้า ลูกตั้งเตะเท่านั้นที่จะคลายคำตอบให้คุณได้
เกมรับ : การสื่อสาร และการมาร์คตัวประกบเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องตัดสินว่าคุณจะเอาตัวรอดในยามที่ต้องรับมือกับทีมที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดี ผมคิดว่าจริงๆ แล้ว กวินทร์ เองก็บัญชาการแนวรับได้ดีอยู่แล้ว การมีพรรษา และเฉลิมพงษ์ ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ ราเยวัช เองควรจะต้องมองหาตัวเลือกเผื่อเหลือเผื่อขาด เพื่อที่จะไม่ต้องเกิดช่องว่างของทีมในยามต้องไปวัดกับทีมจากตะวันออกกลาง หรือเต้ยของเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น – เกาหลีใต้
…
….
…..
ผมยังเชื่อมั่นว่าเรายังมีเวลาในการปรับทีมให้ลงตัวมากกว่านี้ เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า เพื่อโทรฟี่แชมป์ เพื่อก้าวข้ามจุดที่เราย่ำอยู่ ณ ปัจจุบัน และทะยานสูงขึ้นให้ทัดเทียมกับทีมในระดับเอเชีย มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไปถ้าเรา “พยายาม” และลงมือทำอย่างจริงจัง
อย่าให้ความพ่ายแพ้ในนัดชิงฯ คิงส์คัพ 2018 ต้องศูนย์เปล่า…
“บก.เก้น”
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports