รีเซต
พรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : "Revenge" ลิเวอร์พูล vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้

พรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : "Revenge" ลิเวอร์พูล vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้

พรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : "Revenge" ลิเวอร์พูล vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Supanat
4 เมษายน 2561 ( 17:01 )
3.2K

พรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : Revenge  “การแก้แค้น” ฟุตบอลนัดสำคัญประจำกลางสัปดาห์อย่างศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ระหว่าง 2 ทีมยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะบุกมาล้างแค้น ลิเวอร์พูล ได้หรือไม่ ต้องติดตามกัน

โดยเกมคู่นี้ลงแข่งขันกันในวันพุธที่ 4 เมษายน  2561 เวลา 01.45 น.  (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทางช่อง BeIN Sports 1

***********

รายการ : ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
วัน / เวลาทำการแข่งขัน : 4 เมษายน  2561 เวลา 01.45 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
สนาม : แอนฟิลด์ (ลิเวอร์พูล / อังกฤษ)
ถ่ายทอดสด :  BeIN Sports 1TrueID App

***********

สภาพทีม “ลิเวอร์พูล”

AP Photo/Alastair Grant

“หงส์แดง” ต้องประสบปัญหาตัวผู้เล่นบาดเจ็บพอสมควร โดยพวกเขาเสีย อดัม ลัลลาน่า กองกลางทีมชาติอังกฤษ ที่บาดเจ็บบริเวณเอ็นหลังหัวเข่า ในเกมที่บุกไปเอาชนะ คริสตัล พาเลซ รวมถึงกองหลังดาวรุ่งอย่าง โจ โกเมซ ที่เจ็บมาตั้งแต่เกมทีมชาติ

ล่าสุด ลิเวอร์พูล เจอข่าวร้ายหนักขึ้นไปอีกหลัง โฌแอล มาติป กองหลังตัวสำคัญบาดเจ็บหนักส่อแววพักยาวทั้งฤดูกาล ทำให้นัดนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเลือกใช้ เดยัน ลอฟเรน มายืนแทน นอกจากนี้ยันต้องลุ้นเช็คความฟิต เอ็มเร่ ชาน ที่บาดเจ็บพลาดการลงสนามในเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ผ่านมา

***********

สภาพทีม “แมนเชสเตอร์ ซิตี้”

AP Photo/Rui Vieira

“เรือใบสีฟ้า” จะไม่มีกองหน้าตัวสำคัญอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ของทีมออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่มีชื่อในเกมคืนนี้

ส่วนตำแหน่งอื่นๆ แมนฯ ซิตี้ ต้องลุ้นให้นักเตะอย่าง ฟาเบียง เดลฟ์ และเบนฌาแม็ง เมนดี้ ที่บาดเจ็บยาวไปก่อนหน้านี้เรียกความฟิตทันลงสนามในเกมสำคัญกับลิเวอร์พูล แต่น่าจะได้  จอห์น สโตน ที่พลาดเกมกับ เอฟเวอร์ตัน กลับมาลงสนามได้

***********

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม (ทุกรายการ)
ลิเวอร์พูล
31 มี.ค. 61 ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 (พรีเมียร์ลีก) A
18 มี.ค. 61 ชนะ วัตฟอร์ด 5-0 (พรีเมียร์ลีก) H
10 มี.ค. 61 แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 (พรีเมียร์ลีก) A
07 มี.ค. 61 เสมอ ปอร์โต้ 0-0 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) H
04 มี.ค. 61 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 (พรีเมียร์ลีก) H

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
31 มี.ค. 61 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1 (พรีเมียร์ลีก) A
13 มี.ค. 61 ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 2-0 (พรีเมียร์ลีก) A
08 มี.ค. 61 แพ้ บาเซิ่ล 1-2 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) H
04 มี.ค. 61 ชนะ เชลซี 1-0 (พรีเมียร์ลีก) H
02 มี.ค. 61 ชนะ อาร์เซน่อล 3-0 (พรีเมียร์ลีก) A

 

***********

รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล : ลอริส คาริอุส, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ เฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์สัน,ไคล์ วอล์คเกอร์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, นิโกลัส โอตาเมนดี้, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, กาเบรียล เชซุส, ลีรอย ซาเน่

***********

บทวิเคราะห์

AP Photo/Rui Vieira

ลิเวอร์พูลเป็นหนึ่งใน 4 ที่ยัดเยียดความปราชัยให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ ซึ่งในเกมพรีเมียร์ลีก วันนั้นเรียกว่าทั้ง 2 เปิดเกมรุกใส่กันแบบสุดมัน และเป็นยอดทีมจากเมือง แมนเชสเตอร์ ที่เล่นกันผิดพลาดมากกว่า ส่งผลให้ แพ้นัดแรก ในพรีเมียร์ลีก ไป 4-3

คืนนี้ “เรือใบสีฟ้า” มีโอกาสแก้ตัวในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในการบุกไปเยือนรังแอนฟิลด์ อีกครั้ง แม้ว่าลูกทีมของ กวาร์ดิโอล่า จะขาดหัวหอกตัวหลักอย่าง อเกวโร่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความน่ากลัวในแนวรุกจางหายไป เพราะทั้ง ซาเน่ และซิลบา อยู่ในช่วงท็อปฟอร์มมีส่วนร่วมถึง 7 ประตูจาก 10 ประตูหลังสุดที่ทีมทำได้

AP Photo/Alastair Grant

ด้านเจ้าบ้านที่เกมรุกกำลังร้อนแรก และยากที่จะมีใครมาหยุด โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลังยิงไปแล้ว 29 ประตู ในพรีเมียร์ ลีก และ 37 ประตูในทุกรายการ และ 14 นัดหลังสุดเขายิงไปถึง 17 ประตู จนเพื่อนร่วมทีมอย่าง ฟาน ไดค์ ออกมาอวยว่า เวลานี้ ไม่มีกองหลังคนใดในโลกหยุด โม ซาลาห์ ได้

แม้ว่าจะประสบปัญหาตัวผู้เล่นบาดเจ็บมากมาย แต่เชื่อว่า คล็อปป์ จะยังเล่นด้วยสไตล์การเล่นแบบเดิม เพิ่มเติมคือการเน้นเกมรับให้มากขึ้น จากนัดที่เอาชนะ แมนฯ ซิตี้ มาได้ในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก แต่อย่าลืมว่าในวันนั้น เหมือนมีโชคเป็นใจ บรรดาแนวรับของ “เรือใบสีฟ้า” พากันออกทะเล แต่ทีมก็โดน 2 ประตูรวดในช่วงท้ายเกม และเกือบโดนตามตีเสมออีกด้วย

เกมในนี้คืน ยังเป็นการเล่นแบบเหย้า-เยือน ทำให้ คล็อปป์ ต้องวางแผนการเล่นในรัดกุมยิ่งขึ้น เพราะการโดนยิง 1 ประตูเท่ากับพวกเขาต้องทำงานหนักขึ้นอีก ในนัดต่อไป ผิดกับ ทีมเยือน ที่ผิดพลาดอย่างไร ก็ขอแค่ยิงประตู ตุนเอาความได้เปรียบจากกฎอเวย์โกล แล้วค่อยไปย้ำชัยในรังของตัวเอง

Richard Sellers/PA via AP

เพราะ แมนฯ ซิตี้ ยังมีเกมสำคัญ “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้” กับ “ปีศาจแดง” ในสุดสัปดาห์นี้รออยู่ ถ้าชั่งน้ำหนักวัดความสำคัญแล้ว คิดว่าเป๊ป น่าจะเน้นไปที่เกมหลังมากกว่า เพราะถ้าพวกเขาชนะ เท่ากับได้ถ้วยพรีเมียร์ ลีก มานอนกอดก่อนแล้ว 1 ใบ บวกกับยังได้ตอกหน้า คว้าถ้วยในเกมสำคัญกับอริร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกด้วย จากนั้นค่อยว่ากันในนัดที่ 2 กับลิเวอร์พูล ก็ยังไม่สายเกินไป

***********

ผลสกอร์ที่คาด
MAXZIO : ลิเวอร์พูล 2-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Arm Phukrit : ลิเวอร์พูล 1-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
บก.เก้น : ลิเวอร์พูล 2-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
จอน : ลิเวอร์พูล 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้