รีเซต
TRUE TALK : ถ้วยแชมป์ยุโรปของตำนาน ... by "แนท ณรินทร์ภัทร"

TRUE TALK : ถ้วยแชมป์ยุโรปของตำนาน ... by "แนท ณรินทร์ภัทร"

TRUE TALK : ถ้วยแชมป์ยุโรปของตำนาน ... by "แนท ณรินทร์ภัทร"
kentnitipong
13 เมษายน 2561 ( 15:58 )
1.1K

แนท ณรินทร์ภัทร : หากเป็นภาพยนตร์หักมุมสักเรื่อง, มันคงหักมุมน่าเกลียดเกินไปจนผู้ชมกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

 

 

เพราะมันไม่ใช่การหักมุมแบบน่าประทับใจ แต่มันทำร้ายจิตใจฝ่ายตัวเองที่เฝ้าพยายามทำดีมาตลอดทั้งเรื่อง แต่สุดท้ายต้องตายตอนจบ

กระนั้น ความห้าวหาญของยูเวนตุส น่าจะถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของพวกเขาเอง อย่างน้อยที่สุดมีไม่กี่ทีมในยุโรปที่กล้าไปชนะ เรอัล มาดริด ที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบวได้

หลังจากเห็น โรม่า ทำมาก่อน หนึ่งวันก่อนหน้า, มันเกิดแรงเสริมให้กับทัพ “ม้าลาย” อย่างประหลาด แม้การคิดคำนวณโอกาสการเข้ารอบก่อนเกมของพวกเขาอยู่ที่ 1 % ก็ตาม

ปัญหาสำคัญอยู่ที่เรอัล ไม่มี เซร์คิโอ รามอส ที่ติดโทษแบน แล้วกองหลังต้องปรับมาใช้ เฆซุส บัลเยโฆ่ ปราการหลังดาวรุ่งวัยเพียง 21 ปี

ซีเนอดีน ซีดาน กล้าเกินไปกับการให้โอกาสดาวรุ่งในเกมใหญ่แบบนี้ และการมาร์คกิ้งก็มั่วจนทีมเสียประตูเร็วเหลือเกิน จากจังหวะเติมจากแบ็กขวาให้เจ้าเวหาอย่าง มาริโอ มานด์ซูคิช ได้โหม่ง

แท้ที่จริง นี่คือจุดบอดของ “ราชันชุดขาว” ในเกมกลางสัปดาห์ เพราะพวกเขาเสียประตูในลักษณะนี้เหมือนกันทั้งสองครั้ง และคนที่ต้องรับผิดชอบเต็มๆ คือ มาร์เซโล่, ดานี่ การ์บาฆาล ที่ต้องมาร์ค มานด์ซูคิช ก็ต้องรับผิดชอบพอๆ กัน เช่นเดียวกับแผงหลังทั้งแผง

กระทั่ง เคย์เลอร์ นาบาส พลาดโดน แบลส มาตุยดี้ มาฉกบอลจากมือแล้วหลุดเข้าจิ้มโล่งๆ ตาข่ายเปล่าๆ

อนิจจา… มันจะเกิดขึ้นแบบ โรม่า อีกไหม ?

 

AP Photo/Francisco Seco

 

สิ่งที่ผมชอบในหมู่แฟนบอลไทยคือผมเห็นพวกที่เชียร์สโมสรจากอิตาลี ไม่ว่าจะเป็น เอซี มิลาน , อินเตอร์ มิลาน, ฟิออเรนติน่า หรือแม้แต่ โรม่า เอง มาให้กำลังใจ “ม้าลาย” กันเป็นหนึ่งเดียว

พวกเขาเป็นคนกลุ่มที่มีไม่มากนักในประเทศไทย, จุดมุ่งหมายคือรวมกันเพื่อให้ฟุตบอลอิตาลีีมีที่ยืน และไม่ถูกลืมหลังจากเคยโด่งดังในยุคทองช่วงทศวรรษ 90

ช่วงเวลานั้น ยูเว่ กลับมาจริงๆ, ผลนำ 3-0 หมายความว่าพวกเขากำลังจะได้ต่อเวลาพิเศษอยู่แล้ว ขอเพียงยันสกอร์นั้นให้อยู่เป็นอันดับแรก

แต่เบื้องบนใจร้ายเกินไป, ทำไมต้องมาเกิดจังหวะชี้เป็นชี้ตายในช่วงทดเวลาการแข่งขันครึ่งหลัง ที่มันจะหมดเวลาอยู่แล้ว

เรอัล ที่โหมบุกอย่างหนักเพื่อเอาตัวรอด ครอสบอลจากฝั่งซ้ายมา ก่อนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะโชว์ความเหนือชั้นด้วยการไม่โหม่งทำประตูทันที แต่เหลือบเห็น ลูคัส บาซเกซ ว่างอยู่ตรงกลางประตูในกรอบเขตโทษ

ทันใดนั้น เมห์ดี้ เบนาเตีย มาจากไหนไม่มีใครทราบ เข้ามาด้านหลัง บาซเกซ และเอาเท้าซ้ายหวดไปที่หน้าอกของแข้งดาวรุ่ง “ราชันชุดขาว”

เขาอาจเตะโดนบอล แต่โดนเพียงนิดเดียว ภาพช้าไม่ว่าจะสโลว์กี่ครั้งมันคือการเตะหน้าอกของ บาซเกซ

และฟุตบอลระดับสูงถ้าคุณเข้าบอลแบบนี้แล้วเสียจุดโทษ มันก็คือความโฉ่งฉ่างของตัวคุณเอง คุณเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้ผู้ตัดสินต้องเป่าฟาวล์คุณในกรอบเขตโทษ

เพียงแต่จังหวะนั้นของ เบนาเตีย มันฆ่าความฝันของผู้ชายคนหนึ่งที่สวมทุกมือ และเฝ้าเสาอยู่ด้านหลังเขา

ชายคนที่เคยได้แชมป์สูงสุดของเกมระดับชาติมาแล้ว , ได้แชมป์ลีกในประเทศมาแล้วหลายครั้ง เหลือเพียงแชมป์เดียวคือ “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก” เท่านั้น , เขาจะวางมือได้อย่างหมดห่วง

มันคือความฝันอย่างสุดท้ายในชีวิตที่เขาต้องทำให้ได้ หลังจากปีที่แล้วก็พลาดหวังในรอบชิงชนะเลิศ

แต่บางครั้งโชคชะตาก็โหดร้ายเกินไป, หรือไม่ ก็เป็นตัวเขาเองที่รู้สึกว่าความฝันกำลังพังทลายไปอีกครั้ง , เขาวิ่งไปเข้าไปหา ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสินแดนผู้ดีด้วยอารมณ์เดือดดาล

เขาต้องการคำอธิบาย ว่าเป่าจุดโทษจังหวะนั้นได้อย่างไร , “คุณก็เห็นนี่ว่า ยูเวนตุส กำลังจะกลับมา แต่คุณกล้าเป่าจุดโทษจังหวะนั้นได้ จิตใจคุณมันไม่ใช่คน คุณมันจิตใจขยะโดยแท้…”

นี่คือบทสัมภาษณ์หลังเกมของเขา… หลังจากเขาเป็นคนที่ไปโวยใส่ โอลิเวอร์ แบบเต็มๆ ในฐานะกัปตันทีม แต่ตุลาการจากเกาะอังกฤษชักใบแดงโดยตรงไล่เขาออกไป

มีการวิเคราะห์กันว่าเหตุใด โอลิเวอร์ ถึงชักใบแดงโดยตรงให้กับคนที่เข้าไปแค่ “เถียงกรรมการ”

เพราะมันมีจังหวะหนึ่งที่ผู้เล่น ยูเว่ กรูเข้ามาประท้วง หนึ่งในนั้นคือตัวเขา และผู้ตัดสินกำลังจะแจกใบเหลือง คาดว่าน่าจะให้กับเขานั่นล่ะ แต่เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งอย่าง ดักลาส คอสต้า ดันอาศัยจังหวะชุลมุนเอามือไปปัดใบเหลืองของผู้ตัดสิน

โอลิเวอร์ น่าจะเข้าใจว่า “เขา” เป็นคนทำ หรือไม่ก็เป็นคำพูดของเขาเอง ที่แรงเกินไป , พอๆกับที่ให้สัมภาษณ์หลังเกม หรืออาจแรงกว่า…

ใบแดง ถูกชูขึ้นกลางฟากฟ้า, มันผ่าดังครืนใจกลางกรุงมาดริด ทำลายความฝันของเขาไปอีกปี

 

AP Photo/Francisco Seco

 

ที่ผ่านมา ยูเวนตุส เป็นทีมหนึ่งที่อกหักใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาโดยตลอด พวกเขาคว้าแชมป์ยุโรปครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปปี 1995-1996 หรือเมื่อ 22 ปีที่แล้ว

หลังจากนั้น พวกเขาหลุดเข้าไปชิงชนะเลิศถึง 5 ครั้ง แต่พลาดหวังทั้งหมด

และ 3 ใน 5 ครั้งที่เข้าชิง, ก็เป็น “เขา” นั่นแหละที่เฝ้าเสา

มันเหมือนเป็นทั้งตราบาป, และปมในใจที่ต้องแก้ให้ได้ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดไป

จอห์น เทอร์รี่ เคยพลาดจุดโทษในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2008 , เขาเก็บความเสียใจเอาไว้ 4 ปี ก่อนที่สุดท้ายจะพา เชลซี คว้าแชมป์ยุโรปเมื่อปี 2012, ปลดพันธนาการจากจิตใจของตัวเองออกไปได้ทั้งน้ำตา

แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่โชคดีอย่าง เทอร์รี่…

แชมเปี้ยนส์ ลีก มีทุกฤดูกาล, อย่างน้อยซีซั่นหน้าก็มาสู้กันใหม่ ทีมระดับ ยูเวนตุส มีโอกาสเข้ารอบลึกๆ แน่นอนอยู่แล้ว แต่จะดีพอจะไปเป็นแชมป์หรือไม่ , ทุกอย่างอยู่ที่ฟอร์มของนักเตะในสนาม และโชคชะตา

มันไม่ง่ายอยู่แล้วที่เราจะได้อะไรสักอย่างมา โดยเฉพาะแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ถ้วยที่ทุกสโมสรต่างเฝ้ารอคอยที่จะสัมผัสมันให้ได้

แต่หากย้อนไปดูเส้นทางชีวิตของเขา, มันก็ไม่ได้แย่ไปเสียทั้งหมด อย่างน้อยที่สุด ยังมีสุดยอดนักเตะหมายเลขหนึ่งของโลกคนปัจจุบันที่ชื่อ ลิโอเนล เมสซี่

 

AP Photo/Andrew Medichini

 

เขาได้ถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้วถึง 4 สมัย, หากรางวัลมันแลกกันได้, เมสซี่ อาจจะเลือกเดินไปหาเขาแล้วกระซิิบข้างหู “พี่ก็มีแชมป์ที่ผมตามหามาตลอดทั้งชีวิตเหมือนกัน”

ตราบาปของนักเตะที่ดีที่สุดในโลก, แต่ยังไม่ใช่นักเตะที่ดีที่สุดใน อาร์เจนติน่า ตราบใดก็ตามที่ยังไม่ได้แชมป์ “ฟุตบอลโลก” เหมือนกับตำนานรุ่นพี่อย่าง ดิเอโก้ มาราโดน่า

หากถามหาโมเมนท์ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขา , ก็คงต้องย้อนเวลากลับไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ที่เยอรมนี , มันเป็นวินาทีหลังจาก ฟาบิโอ กรอสโซ่ สังหารจุดโทษผ่านมือ ฟาเบียง บาร์กเตซ เมื่อปี 2006

มีสุดยอดนักเตะอีกมากมาย ที่ไม่เคยได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, บางคนไม่เคยได้แชมป์ลีกในประเทศด้วยซ้ำ

ทุกอย่างมันอาจดูโหดร้ายสำหรับเขาในรายการนี้, แต่สิ่งที่เขายังมีอยู่คือ แฟนบอลที่ยังหนุนหลังเขาเสมอ จากบุคลิกความเป็นผู้นำ และฝีมือการเซฟ ที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์โลกฟุตบอล

และยังสรุปไม่ได้เช่นกันว่าเขาเป็นนายทวารไร้แชมป์ยุโรป, ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเขาเอง ว่าจะเลือกเฝ้าเสาให้ทีมอีกหนึ่งปีหรือไม่, หากเขาตัดสินใจแบบนั้น มันอาจจะเป็นไฟให้กับรุ่นน้องในทีมได้สานต่อความฝันของเขา

แต่หากเขารู้สึกท้อ และทุกอย่างไม่เป็นใจ, ลองย้อนกลับไปดูภาพที่ตั้งไว้บนหัวเตียง , เขาจะเห็นภาพตัวเองชูถ้วยฟุตบอลโลก , ถ้วยรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการแข่งขันฟุตบอล

รางวัลที่ เมสซี่ ยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้ได้มา…

มันอาจจะทำให้เขาตัดสินใจกับอนาคตของตัวเองได้ชัดขึ้น แล้วบอกกับตัวเองว่า “จานลุยจิ บุฟฟ่อน ฉันขอให้นายลองพยายามอีกปีนะ…”

หากยังมีลมหายใจ … ทุกอย่างยังมีความหวังและเป็นไปได้เสมอ… อย่าหยุดฝันเพียงแค่คำว่า… ยอมแพ้

….

“แนท ณรินทร์ภัทร”

 

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้