รีเซต
TRUE OPINIONS : คนละฝั่งฝาเดียวกัน ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์

TRUE OPINIONS : คนละฝั่งฝาเดียวกัน ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์

TRUE OPINIONS : คนละฝั่งฝาเดียวกัน ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์
Supanat
7 พฤษภาคม 2561 ( 21:48 )
1.1K

คุณเคยเจอเรื่องน่างงบ้างไหม แบบที่เราเห็นของดีๆ มากมายที่มองได้ไม่เบื่อ เพราะมันสวยงามน่าทึ่งมองแวบเดียวก็รู้ว่านี่คือสินค้าหรือผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ที่มีระดับและเป็นที่ยอมรับ ยกให้เป็นที่จับตาในวงกว้าง แต่ก็แปลกเมื่อของเหล่านี้เอามาวางรวมกัน ใช้งานร่วมกันกลับออกมาไม่น่ามอง

แปลกใจกว่าเดิมเพราะไม่นานมานี้ของสิ่งนั้นมันเปล่งประกายสะดุดทุกสายตายามรวมตัวกัน

นั่นเป็นความรู้สึกหลังชมเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าเปิดบ้านถล่ม เอสซีจี เมืองทอง 4-0 ชนิดไม่เปิดโอกาสให้ คู่ต่อสู้ป้องกันแม้ซักกระบวนท่า แสดงความเหนือชั้นกว่าในทุกแดนทั้งหลังกลางหน้า หยิบยื่นฝันร้ายให้กับนายใหม่ป้ายแดงที่พกพาดีกรีอดีตผู้จัดการทีมชาติเซอร์เบีย รโดวาน เชอคิช ในการเปิดตัวงานใหม่ของเขาบนแผ่นดินสยาม

เหตุผลกลใดทำไมเกมออกมาห่างขนาดนั้นมันมีหลายปัจจัย ทั้งความไม่พร้อมในตัวผู้เล่นที่ลงสนามได้ เวลาที่น้อยเกินไปเพียง 3 วัน สำหรับ เชอร์คิช ก่อนเกมที่ยากที่สุดในฤดูกาลไม่ว่าคุณจะเก่งฉกาจมาจากไหนแทบมองไม่เห็นทางรอดออกไปได้เลย

เกมดังกล่าว เมืองทอง เชอร์คิชเวอร์ชั่น ส่งผู้เล่นที่ชื่อดีที่สุดลงสนาม เข็น อดิศร พรหมรักษ์ และ วัฒนา พลายนุ่มกลับมาเป็นตัวจริงหลังจากห่างหายการลงสนามมายาวนานด้วยอาการบาดเจ็บ อดิศร ลงสนามในตำแหน่งถนัดนั่นคือเซนเตอร์ฮาล์ฟ ขณะที่ วัฒนา ประจำการแบ็กขวาที่เคยทำได้ดีช่วงปลายฤดูกาลก่อน

ขณะที่ด้านบน เดอะ แฮร์เบอตี้ เฟอร์นานเดซ ยืนค้ำบนสุด ขนาบด้วย ตริสตอง โด ทางด้านขวา และปีโป้ สิโรจน์ ฉัตรทอง เล่นฝั่งซ้ายร่วมงานกับ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ให้พื้นที่ ชาริล ชัปปุยส์ คุมเกมแดนกลางร่วมกับ ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร และ สารัช อยู่เย็น เออ ดีทีมชาติล้นทุกตำแหน่งกางหน้ากระดาษมาวัดกันสู้ไหวนา

บุรีรัมย์ ก็ไม่มีอะไรต่างจากเดิมมากนักเป็นชุดที่คุ้นตามาหลายเกมหลัง พรรษา, ปวีณวัชร, ตูนเญส กลางมี จักรพันธ์, สุเชาว์, ศศลักษณ์, กรกช, ปิดด้วย ยู จุน ซู, ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ กับกองหน้าที่หาสกอร์ไม่เจอ เอ็ดการ์ ดา ซิลวา เรียกได้ว่าความร้อมเรื่องตัวผู้เล่นก็แก้ปัญหาก่อนเกมคล้ายๆกัน

ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามนั้น บุรีรัมย์ เล่นไปตามจังหวะที่พวกเขาคุ้นเคยท่ามกลางแฟนบอลที่เข้ามาเป็นประวัติการณ์ 30,011 ชีวิตในสนามบรรยากาศสุดยอดยิ่งมองเป็นเกมวันศุกร์ด้วยแล้ว ยิ่งเล่นยิ่งเห็นความแตกต่างชัดเจนเหลือกำลังนั่นคือริมเส้นทั้งสองข้าง

แม้วัฒนาพลายนุ่ม จะเคยทำได้จากตำแหน่งนี้มาบ้างแต่มันไม่ใช่ในวันนี้แต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็น ยู จุน ซู หรือ ดิโอโก้ ที่วนมาเล่นงานเขาพร้อมการอ้อมหลังของ กรกช  วัฒนา โดนรุมกินโต๊ะแทบทั้งเกมน้อยมากที่เราจะเห็น สารัช หรือคู่บัดดี้ตามตำแหน่งอย่าง ตริสตอง ลงมาช่วยเบรกได้ทันทั้งที่เรื่องดังกล่าวเป็นจุดของทีมมาตลอดนับตั้งแต่ที่ ตริสตอง เล่นให้เมืองทอง

“กิเลนผยอง” อาจจะติดใจที่จับแบ็กขวาทีมชาติไทยรายนี้ไปเล่นตัวบนแล้วทำประตูได้ ทว่าเกมนี้ถือว่าเสียของเสียโอกาสไปเพราะ โด ก็ลงมาช่วย วัฒนาไม่ได้ และลืมเรื่องที่ วัฒนา จะขึ้นไปช่วย โด ได้เลย สุดท้าย เลนซ้าย บุรีรัมย์ ผ่านตลอดภาพ วัฒนา วิ่งไล่อย่างสุดกำลังแล้วเตะให้พ้นๆไปมันดูโหดร้ายไปหน่อย

เช่นกันกับ ริมเส้นอีกข้าง พีระพัฒน์ + สิโรจน์ นี่คือทีมชาติไทยชุดใหญ่ที่ติดอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็เป็นอีกเกมทั้งคู่ไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนักร้ายกว่านั้นสิ่งที่ทำในสนามกลายเป็นตัวขับให้ ศศลักษณ์ โดดเด่นเหลือกำลังผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำๆ ว่าตลอดเวลาที่ลงสนาม ศศลักษณ์ เพรี้ยงพร้ำอะไรให้สองคนนี้บ้าง

แม้แต่สิ่งที่ทุกคนเชื่อมั่นนั่นคือความแข็งแกร่งของ ปีโป้ กลับโดน ศศลักษณ์ ไล่สอยจนหัวทิ่มไปก็มี ส่วนจังหวะเข้าทำ อืมมม ข้ามไปก่อน ซึ่งภาพรวมก็ไม่ต่างฝั่งของ วัฒนา เมื่อตัวบนเบรกเกมให้แบ็คไม่ได้ กลางก็ต้องทำงานหนัก เรื่องหวังให้แบ็คเติมช่วยก็ลืมไปก่อน

ตามปกติเกมฟุตบอลหนึ่งเกมมีจุดที่ไม่เป็นไปตามแท็กติกสักจุดมันก็พร้อมลุกลามไปถึงปัญหาอื่นๆที่ใหญ่ขึ้นมากมายเช่นกันกับเกมนี้ ริมเส้นมีปัญหาทั้งตั้งรับและเปิดเกมรุก ฝั่งตรงข้ามก็เล่นง่าย จนกลางต้องทำงานหนักกว่าเดิมเสียพื้นที่แดนกลางเปิดโอกาสให้คู่แข่งเติม มันโกลาหลไปหมดจนบอลไปไม่ถึงแดนหน้าเท่ากับว่าโดนต้อนจนมุมตกอยู่ในเกมที่ต้องรับแทบร้อยเปอร์เซนต์ จนเสียประตูจากลูกนิ่งอีก

ทุกอย่าง มันดูผิดฝาผิดตัวไปหมดจริงๆ ครับ ทั้งที่แฟนบอลก็รู้อยู่แก่ใจว่าผู้เล่น เอสซีจี เมืองทองชุดนี้ มีศักยภาพมากกว่าที่เห็นแล้วอะไรละคือสาเหตุ ซึ่งมันเรื่องเดิมๆผู้เล่นตัวหลักที่ออกจากทีมไปพร้อมๆกัน 4-5 คนในช่วง 2 ฤดูกาล อาการบาดเจ็บ ฟอร์มตก ขาดความมั่นใจ และโค้ชคนใหม่ ประดังประเดทับถม

ยิ่งเห็น เชอร์คิช พยายามแก้เกมออกมาตะโกนส่งสัญญาณมือข้างสนามแวบแรกก็โอเคนะเขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แต่มองลงไป เอ คนข้างกายก็เป็นทีมงานใหม่ต่างชาติด้วยกันทั้งสิ้น ขณะที่คนเก่าที่รู้จักทีมเป็นอย่างดีอย่าง สันติ ไชยเผือก นั่งนิ่งในม้านั่งสำรองอยู่ห่างๆ

ทุกอย่าง สะท้อนความจริงผ่านตารางคะแนนปัจจุบัน เมืองทอง ร่วงลงไปอันดับ 7 พร้อมจะเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อหากผลการแข่งขันไม่เป็นใจคาดเดายากจริงๆ ว่าจะจบเลกแรกในอันดับไหน แต่ที่เดาได้เลยนั่นคือพวกเขาต้องเสริมทีมหนักหน่วงในช่วงตลาดเปิด เพราะที่มีอยู่ไม่พอใช้จริงๆ ทั้งในแง่กำลังคน หรือเคมีที่ไม่ลงตัวซึ่งเรื่องหลังเป็นงานหลักของคนเป็นโค้ชและทีมงานว่าทำอย่างไรนักเตะจะทำตามที่เขาต้องการได้เสียที ไม่แปลกเลยที่ตอนนี้ข่าวเขียนขายกันสนุกสำหรับนักเตะที่มาใหม่ ทั้งแบ็กซ้ายดาวรุ่ง วัยชัย จารุนงคราญ กองหน้าตัวปิดเกม ไล่ไปจนซูเปอร์สตาร์เออีซี อ่อง ธู แต่ดูเอาเทิดว่าเกิดขึ้นจริงสักกี่ดีล

ทั้งนี้ผมเชื่อและหวังอย่างยิ่งว่า กิเลนจะกลับมาผยอง ได้เร็วแบบ ASAP  ออกจากสถานการณ์ผิดฝั่งผิดฝามาอยู่ในที่ที่ควรจะเป็น

ฟุตบอลไทยคงไม่สนุกนักหากไม่มีชื่อพวกเขามาคอยกดดันลุ้นแชมป์ในบั้นปลาย

 

….

“ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์”

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้