รีเซต
พรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : "FINAL KYIV 2018" เรอัล มาดริด vs ลิเวอร์พูล ... by "บก.เก้น"

พรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : "FINAL KYIV 2018" เรอัล มาดริด vs ลิเวอร์พูล ... by "บก.เก้น"

พรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : "FINAL KYIV 2018" เรอัล มาดริด vs ลิเวอร์พูล ... by "บก.เก้น"
kentnitipong
25 พฤษภาคม 2561 ( 23:00 )
60.6K

 

พรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : นี่คือแมตช์หยุดโลกที่แฟนบอลทั้งสองทีมต่างรอคอย เพราะทีมหนึ่งคือจ้าวแห่งยุโรปอย่างแท้จริง การันตีจากโทรฟี่บิ๊กเอียร์สถึง 12 สมัย ขณะที่อีกหนึ่งทีม คือเจ้าของสถิติคว้าถ้วยใบนี้มากที่สุดในเกาะอังกฤษ

ขอต้อนรับแฟนบอล เรอัล มาดริด และลิเวอร์พูลทั้งโลกสู่กรุงเคียฟ…

 

 

โดยเกมคู่นี้ลงแข่งขันกันในคืนวันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม 2561 เวลา 01.45 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทางช่อง BeIN Sports 1

….

…..

รายการ : ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ
วัน / เวลาทำการแข่งขัน : 26 พฤษภาคม 2561 เวลา 01.45 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
สนาม : เอ็นเอสเค โอลิมปิสกี้ (กรุงเคียฟ / ยูเครน)
ถ่ายทอดสด :BeIN Sports 1 &TrueID App

 

 

 

สภาพทีม “เรอัล มาดริด”

ความผิดหวังจากการทำได้เพียงแค่อันดับที่สามในลีก ด้วยการมีแต้มตามหลังคู่ปรับตลอดกาลอย่าง บาร์เซโลน่า ถึง 17 คะแนน ทำให้ ซีเนอดีน ซีดาน และลูกทีม เสียรังวัดไปพอสมควร แต่ถึงอย่างไร “ราชันชุดขาว” ยังคงแสดงให้เห็นถึงความเป็นเต้ยในเวทียุโรปอย่างแท้จริง หลังสามารถกรุยทางผ่านมาถึงรอบชิงชนะเลิศได้ถึง 4 จาก 5 ฤดูกาลหลังสุด

เกมนี้ อดีตตำนานทีมชาติฝรั่งเศสอุ่นใจ ไร้กังวลในเรื่องอาการบาดเจ็บของลูกทีมแต่อย่างใด ฉะนั้นเชื่อได้เลยว่า ซีดาน เตรียมใช้นักเตะชุดที่ดีที่สุดลงทำศึกสำคัญในนัดนี้อย่างแน่นอน ไล่มาตั้งแต่กัปตันทีมอย่าง เซร์คิโอ รามอส ที่ถูกโฉลกเหลือเกินกับการลงเล่นในเกมสำคัญ เช่นเดียวกับ มาร์เซโล่ ที่จะกลับมายืนประจำการทางฝั่งซ้ายอีกครั้ง

ขณะที่แผงมิดฟิลด์นั้นนำโดยแข้งดีกรีแชมป์โลก 2014 อย่าง โทนี่ โครส ที่พร้อมทำหน้าที่เชื่อมเกม เช่นเดียวกับ ลูก้า โมดริช ส่วนเกมรับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของดาวเตะทีมชาติบราซิลอย่าง คาเซมิโร่ ที่เคยพังประตูสุดสวยในนัดชิงรายการนี้มาแล้วเมื่อซีซั่นก่อน โดยมี อิสโก้ ทำหน้าที่เป็นเพลย์เมคเกอร์คอยสร้างสรรค์โอกาสให้กับสองคู่หน้าอย่าง คาริม เบนเซม่า ที่เหมาคนเดียวสองประตูในเกมที่เชือด บาเยิร์น มิวนิค ในรอบตัดเชือก ส่วนความหวังสูงสุดอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ฟิตสมบูรณ์พร้อมล่าประตู และทำสถิติเป็นนักเตะคนแรกที่คว้าโทรฟี่รายการนี้ 5 สมัย

….

…..

สภาพทีม “ลิเวอร์พูล”

การได้มีเวลาพักถึง 13 วัน ถือเป็นข้อได้เปรียบชัดสุดของทัพ “หงส์แดง” ที่ดูเหนือกว่า เรอัล มาดริด แต่เมื่อลองมาเจาะความสมบูรณ์ของนักเตะแล้ว ลิเวอร์พูล ยังมีผู้เล่นอีกหลายรายที่ต้องพลาดลงสนามในเกมนี้

เยอร์เก้น คล็อปป์ จะนำลูกทีมเดินลงสู่สนามด้วยประสบการณ์การคุมทีมใน ไฟน่อล แมตช์ รายการนี้มาแล้วหนึ่งครั้ง (ปี 2010 ที่ เวมบลีย์ : โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-2) ฉะนั้น นี่จึงเป็นโอกาสอันดีที่บิ๊กบอสชาวเยอรมันรายนี้จะได้พิสูจน์กึ๋นตัวเองอีกครั้ง โดยมีแฟนบอลทั้งโลกเป็นพยาน

ลอริส คาริอุส จะยังคงลงเฝ้าเสาในเกมนี้ เช่นเดียวกับแบ็กโฟร์อย่าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค และแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่เพิ่งออกมาเผยว่าปีที่แล้ว ตนยังนั่งดูเกมนัดชิงกับเพื่อนๆ ที่บ้านอยู่เลย

เจมส์ มิลเนอร์ และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน จองสัมปทานในแดนกลางอย่างแน่นอนถ้าไม่มีอาการบาดเจ็บมากวนใจ ส่วน เอ็มเร่ ชาน ที่กลับมาซ้อมเต็มรูปแบบมีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ลงเล่นที่ เคียฟ เช่นกัน ขึ้นอยู่กับ คล็อปป์ ว่าต้องการปรับทีมกระทันหันหรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้พยายามลองใช้ จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม แทน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจนวืดบอลโลกกับทีมชาติอังกฤษ

โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่ทำไปแล้ว 10 ประตูจนขึ้นมาเป็นรองดาวซัลโวในรายการนี้ จะถูกวางเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าเช่นเดิม เช่นเดียวกับ ซาดิโอ มาเน่ ที่พร้อมจะสวมบทจรวดทางเรียบ เมดอิน เซเนกัล คอยโจมตี และเล่นงานทั้ง กาบาฆาล และมาร์เซโล่ ส่วนเทพเจ้าอียิปต์ขวัญใจเดอะ ค็อปอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะได้ลองทำข้อสอบที่ยากที่สุดในชีวิตใน เอ็นเอสเค โอลิมปิสกี้ หากดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก และนักเตะยอดเยี่ยมสองสถาบันรายนี้สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้ โอกาสที่เจ้าตัวจะได้เป็นนักเตะแอฟริกันคนที่สองที่คว้าบัลลงดอร์ต่อจาก จอร์จ เวอาห์ (เอซี มิลาน / ไลบีเรีย) ก็คงอยู่แค่เอื้อม

 

 

 

ผลงาน 10 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม (ทุกรายการ)

เรอัล มาดริด
DWLDDWWDWL (ชนะ 4 / เสมอ 4 / แพ้ 2)

ลิเวอร์พูล
WLLDWDWWDW (ชนะ 5 / เสมอ 3 / แพ้ 2)

….

…..

รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เรอัล มาดริด : เคเลอร์ นาบาส, มาร์เซโล่, เซร์คิโอ รามอส, ราฟาเอล วาราน, ดาเนี่ยล กาบาฆาล, คาเซมิโร่, โทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช, อิสโก้, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ลิเวอร์พูล : ลอริส คาริอุส, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่

 

 

บทวิเคราะห์

ลิเวอร์พูล ตกเป็นรอง เรอัล มาดริด อย่างเห็นได้ชัดในแง่ของประสบการณ์การลงสนามแมตช์สำคัญ ภายใต้ความกดดันมหาศาล แต่อย่าลืมว่า “หงส์แดง” ในยุคของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ถือเป็นทีมที่มักจะฝ่าด่านอรหันต์มาได้เรื่อยๆ แถมยังได้เปรียบในเรื่องของความฟิตแบบเต็มๆ

ประตูแรก จะเป็นตัวตัดสินว่าทีมไหนจะสามารถคว้าแชมป์ในรายการนี้ เพราะด้วยธรรมชาติทั้งสองทีมต่างถนัดในการเปิดเกมรุกอยู่แล้ว เช่นเดียวกับเกมรับ และความเด็ดขาดในจังหวะสุดท้าย รวมถึงความละเอียดในทุกๆ จังหวะ และการตัดสินใจของกุนซือทั้งสอง

ความน่าสนใจของทัพ “โลส บลังโกส” อย่างหนึ่งก็คือ พวกเขาไม่เคยแพ้ในรายการนี้ หากว่าได้ประตูขึ้นนำก่อน ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ เรอัล มาดริด ต้องพบกับความปราชัยทั้งที่ออกนำไปก่อนนั้นต้องย้อนกลับไปถึงวันที่ 4 เมษายน 2013 (แพ้ กาลาตาซาราย 3-2) ขณะที่ ลิเวอร์พูล คือทีมที่มีเกมรุกทรงพลังมากที่สุดในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ค่าเฉลี่ยการทำประตู 3.33 ลูก ต่อหนึ่งแมตช์นั้นคงไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแน่ๆ ที่สำคัญอดีตแชมป์ 5 สมัยทีมนี้ไม่เคยแพ้ถ้าหาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ พังประตูได้

ผลสกอร์ที่คาด
บก.เก้น : เรอัล มาดริด 1 – 3 ลิเวอร์พูล
MAXZIO : เรอัล มาดริด 4 – 2 ลิเวอร์พูล
Arm Phukrit : เรอัล มาดริด 2 – 2 ลิเวอร์พูล
จอน : เรอัล มาดริด 1 – 1 ลิเวอร์พูล
Pup Tuntat : เรอัล มาดริด 3 – 1 ลิเวอร์พูล

….

“บก.เก้น”

 

โปรแกรมการแข่งขัน พร้อมช่องถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้