TRUE OPINIONS : Mr. All NBA Team ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์"

ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์ : ประกาศออกมาแล้วสำหรับสุดยอดผู้เล่นในแต่ละตำแหน่งของ NBA ในฤดูกาลนี้ แน่นอนผลที่ออกมาไม่เกินคาดมากนักแต่ก็ไม่เป็นไปตามที่คำนวนกันสักเท่าไหร่ที่สำคัญมันไม่สามารถบ่งชี้ไปสู่รางวัลที่ใหญ่กว่าอย่าง MVP ได้เลย

ทั้งนี้การประกาศรางวัลทีมยอดเยี่ยมของ NBA 3 ทีมแรก ว่ากันตามตำแหน่ง การ์ด 2 ฟอร์เวิร์ด 2 และ เซนเตอร์ 1 หรือให้เห็นภาพก็คือ วงนอก 2 วงใน 3 มีผู้ทรงคุณวุฒิ 100 ท่านใช้สิทธิ แบ่งการเลือกออกเป็น 3 อันดับ หากเลือกเข้ามาคนแรกได้ 5 แต้ม เลือกเข้ามาเป็นอันดับที่ 2 ได้ 3 แต้ม หากเลือกเป็นลำดับที่ 3 ก็เก็บไป 1 คะแนน คำนวนกันแบบนี้ หากแต้มเท่ากันให้ดูว่าใครได้รับโหวตในอันดับ 1 มากกว่าชนะไป

ปีนี้ ผู้ที่ได้รับโหวตมากที่สุดออกมาเท่ากันแบบหาผู้ชนะไม่ได้ต้องครองร่วมกันไปแบบไม่เป็นเอกฉันท์ (unanimous) นั่นก็คือ เจมส์ ฮาร์เด้น จาก ฮุสตัน ร็อคเกตส์ ผู้ชายคนแรกต่อจาก ไมเคิ่ล จอร์แดน ที่จบฤดูกาลปกติด้วยค่าเฉลี่ย 30.0 points, 8.0 assists, 5.0 rebounds and 1.70 steals ต่อเกม เก่งมากเข้าขั้นบ้าไปแล้ว

ในปีนี้ พี่เคราสร้างเรื่องน่าประทับใจมากมาย ทั้งผู้นำแต้มเฉลี่ย และยิงสามคะแนนลงมากที่สุด 263 ครั้ง พา ร็อคเกตส์ จบฤดูกาลปกติในฐานะทีมที่มีสถิติดีที่สุดของ NBA โดยเพื่อนๆ ร่วมทีม All NBA ประกอบไปด้วย แอนโธนี่ เดวิส, Pelicans (28.1 ppg/11.1 rpg/2.57 bpg/53.4 FG%)

เดวิส คือหนึ่งในสามคนสุดท้ายที่ได้ชิง MVP เขานำลีกเรื่องการ blocks อันดับสองเรื่องแต้มเฉลี่ยอันดับห้าในการรีบาวด์ เป็นคนแรกที่ทำอย่างน้อย 2,000 แต้ม, 800 rebounds, 150 blocks และ 100 steals ในฤดูกาลเดียว ต่อจาก เดวิด โรบินสัน ในฤดูกาล 1995-96.

เควิน ดูแรนท์, Warriors 

อดีตแชมป์ทำแต้มสี่สมัย โดยส่วนตัวปีนี้เป็นปีที่ดีมากสำหรับเขาทำค่าเฉลี่ย career high เรื่อง blocks เลยทีเดียว

…

….

…..

เดเมี่ยน ลิลลาร์ด, Trail Blazers (26.9 ppg/6.6 apg/4.5 rpg/91.6 FT%)

ตำแหน่งนี้บาดใจมิใช่น้อยหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าน่าจะเป็น ขาปั่น อย่าง รัสเซลล์ เวสต์บรูค ที่ปั๊มสถิติจนเป็น triple double season แต่สุดท้ายผลออกมาเป็น ลิลลาร์ด ถามว่าเหมาะไหม ส่วนตัวผมว่าดีทีเดียว พอร์ตแลนด์ ก็เข้ารอบสวยๆ เจ้าตัวจบอันดับสี่ เรื่องการทำแต้มเฉลี่ย ดีที่สุดสำหรับผู้เล่น Portland ตั้งแต่ Clyde Drexler จบอันดับนี้มาแล้วเมื่อปี 1991-92

ขณะที่พระเอกร่วมของพี่เคราในการประกาศครั้งนี้ แน่นอนเขาคือ เลบรอน เจมส์ ในฤดูกาลที่ 15 ของอาชีพ เจ้าตัวยังร้อนแรง กับค่าเฉลี่ย 27.5 points ไหนจะ career highs 9.1 assists และ 8.6 rebounds ต่อเกม ที่สำคัญเจ้าตัวเล่นครบ 82 เกมได้เป็นครั้งแรกอีกด้วย

เท่ากับว่าการรับเลือกครั้งนี้ ส่งให้ เจมส์ ติดทีมยอดเยี่ยมทีมแรกเป็นครั้งที่ 12 จาก 15 ฤดูกาลในลีก แซงหน้า โคบี้ ไบรอันท์ และ คาร์ล มาโลน เป็นที่เรียบร้อย กลายเป็น Mr. All NBA Team อย่างเป็นทางการ

สรุปผลโหวต All NBA Team

ALL-NBA FIRST TEAM 1st 2nd 3rd Total
James Harden, Rockets 100 — — 500
LeBron James, Cavs 100 — — 500
Anthony Davis, Pelicans 96 4 — 492
Damian Lillard, Blazers 71 24 5 432
Kevin Durant, Warriors 63 37 — 426

…

….

ALL-NBA SECOND TEAM 1st 2nd 3rd Total
Giannis Antetokounmpo, Bucks 28 71 1 354
Russell Westbrook, Thunder 24 63 13 322
Joel Embiid, 76ers 11 78 5 294
LaMarcus Aldridge, Spurs 2 68 22 236
DeMar DeRozan, Raptors 2 39 38 165

…

….

ALL-NBA THIRD TEAM 1st 2nd 3rd Total
Stephen Curry, Warriors 2 39 37 164
Victor Oladipo, Pacers — 24 33 105
Karl-Anthony Towns, Timberwolves — 18 45 99
Jimmy Butler, Timberwolves 1 8 52 81
Paul George, Thunder — 4 42 54

เลบรอน เจมส์ เก่งแค่ไหนทำอย่างไรถึงเก่งคงไม่ต้องย้อนไปอธิบายอะไรกันมากแล้วเพราะผลงานตลอดอาชีพเป็นที่ประจักษ์กันอยู่แล้ว เหมือนที่เคยพูดเอาไว้ เขียนไว้หลายครั้ง ไม่ว่าคุณจะรักหรือเกลียดเขาแต่สิ่งที่ต้องยอมรับนั่นคือ เลบรอน เจมส์ คือยอดฝีมือที่ดีที่สุดเท่าที่ NBA เคยมีมาอีกหนึ่งคน

เคล็ดลับนอกจากเรื่องสภาพจิต การฝึกซ้อมมุ่งมั่น สิ่งสำคัญที่ เลบรอน เป็นที่ยอมรับอย่างมากก็คือการดูแลตัวเองทั้งการซ้อมนอกโปรแกรมบาสเกตบอล สร้างกล้ามเนื้อเพิ่มเติม ผลที่ออกมาแม้ว่าปีนี้จะเป็นฤดูกาลที่ 15 ใน NBA แต่เจ้าตัวยังสามารถลงเล่นครบ 82 เกมในฤดูกาลปกติได้สบาย ซึ่ง เจมส์ ไม่เคยปิดบังโภชนาการคือปัจจัยหลัก ว่าแต่นักกีฬาระดับนี้เขาทานอะไรกันบ้าง เอาเป็นอันว่าวันนี้ครัวคุณ LBJ เสนอโคตรเมนู

Eat Regularly and Consistently

เหมือนนักกีฬาระดับโลกแทบทุกคน พวกเขาจะวางแผนการรับทานอาหารคร่าวๆ ตลอดทั้งปีช่วงแข่งขัน ช่วงพักผ่อน ช่วงทำร่างกาย ควรจะมีอะไรลงท้องบ้างหลักๆ วันละ 6 มื้อ และนี่คือตารางคร่าวๆ ของ เจมส์ ครับ

มื้อที่ 1 (6.25 นาฬิกา) : ขนมปัง เบเกิลโฮลวีต 1 ชิ้นทาด้วยเนยถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ สตรอเบอร์รี่ครึ่งถ้วย และคอทเทจชีส ครึ่งถ้วย

มื้อที่ 2 (9.30 นาฬิกา) : น้ำส้ม 1 แก้วใหญ่ กล้วยหอมหนึ่งลูก ผงโปรตีนหนึ่งช้อนโต๊ะชงกับนมสดไขมันต่ำ

มื้อที่ 3 (12 นาฬิกา) : เนื้อวัวย่างทานคู่ขนมปังโฮลวีต เคียงด้วยผักกาดหอม มะเขือเทศ มัสตาร์ด 2 ช้อนโต๊ะ เชดเดอร์ชีสไขมันต่ำ และนมไขมันต่ำแก้วใหญ่

มื้อที่ 4 (14.30 นฬิกา) : บลูเบอร์รี่ครึ่งถ้วย โยเกิร์ตไขมันต่ำครึ่งถ้วย โยเกิร์ตไม่ปรุงรสกลิ่นหนึ่งถ้วย นมครึ่งแก้ว ตบด้วยกราโนลาบาร์

มื้อที่ 5 (17.00 น) : สตรอเบอร์รี่หนึ่งถ้วย นมหนึ่งแก้ว น้ำส้มหนึ่งแก้ว โยเกิร์ตไขมันต่ำรสตรอเบอร์รี่หนึ่งถ้วยใส่น้ำผึ้งได้ครึ่งช้อนโต๊ะ

มื้อที่ 6 (20.30 นาฬิกา) : บล็อคโคลี่ หนึ่งถ้วยครึ่ง ข้าวครึ่งถ้วย น้ำส้ม อกไก่นึ่ง 3 ออนซ์ กระจับหั่นบาง 4 ออนซ์ ราดน้ำมันมะกอดครึ่งช้อน

นี่คือเมนูที่เขาใช้ในช่วงควบคุมน้ำหนัก ส่วนใครที่ลดน้ำหนักไม่ต้องตกใจไปกับรายการอาหารที่ดูหายากในบ้านเราครับ เพราะภาพรวม เจมส์ เลือกทานอาหารแคลอรี่ต่ำหนักไปทางผลไม้อาหารมากไฟเบอร์ ทานของสดเข้าไว้ไม่นิยมแปรรูป ห่างจากน้ำตาล และเกลือ ทดแทนด้วย วิตามินและแร่ธาตุ ทานผักเยอะ ดื่มน้ำเยอะ

หากสนใจลองทำทานตามได้นะครับ แต่ทั้งนี้ก็เลือกให้เหมาะกับร่างกายแล้วกันครับ ช่วงไหนใช้พลังเยอะต้องทานอาหารให้พลังงานมากหน่อย ควบคุมน้ำหนักก็ทานแบบแคลอรี่ต่ำ หากพักฟื้นก็ทานอาหารที่นำไปสร้างซ่อมร่างกายข้างในครับ

ส่วน เจมส์ เราคงต้องลุ้นกันต่อว่าเขาจะไปได้ถึง MVP ไหม เช่นกันกับเส้นทางสู่รอบชิงฯ ต่อไป

…

….

“ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์”

โปรแกรมการแข่งขัน พร้อมช่องถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports