รีเซต
TRUE OPINIONS : "แก่กว่าแล้วไง" ทีมแข้งไทย อายุ 30+ ฟอร์มโหด ไม่ออนเซลล์ ... by "จอน"

TRUE OPINIONS : "แก่กว่าแล้วไง" ทีมแข้งไทย อายุ 30+ ฟอร์มโหด ไม่ออนเซลล์ ... by "จอน"

TRUE OPINIONS : "แก่กว่าแล้วไง" ทีมแข้งไทย อายุ 30+ ฟอร์มโหด ไม่ออนเซลล์ ... by "จอน"
kentnitipong
26 พฤษภาคม 2561 ( 16:30 )
4.3K

 

จอน : เหลืออีกแค่ 1 เกมเท่านั้น ไทยลีก 2018 ก็จะผ่านหลักครึ่งฤดูกาลแรกเรียบร้อยแล้ว ภาพหลายๆ อย่างเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งกลุ่มทีมลุ้นแชมป์ ที่เหลือ 2 ทีม อย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ไล่บี้กัน ชนิดฟาดฟันแบบเกมต่อเกม โดยมีตาอยู่อย่าง การท่าเรือ เอฟซี คอยอาศัยจังหวะเป็นเสือซุ่มอยู่ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง

 

 

ส่วนในกลุ่มท้ายตาราง ภาพก็เริ่มชัดเจนขึ้นเหมือนกัน เมื่อ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี, อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด และราชนาวี สามทีมรั้งท้าย กำลังถูกทีมอื่นๆ ทิ้งห่างไปเรื่อยๆ จนคลับคล้ายว่า พวกเขาน่าจะตกชั้นไปสู่ลีกรองอย่างแน่นอน หากไม่ทำอะไรให้ทีมดีขึ้นในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง เนื่องจากปีนี้ตกชั้นจำนวนถึง 5 ทีมด้วยกัน

ขณะที่ทีมที่จะต้องตกชั้นอีก 2 ทีมนั้น ก็ยังลุ้นกันสนุก เพราะแต้มจากอันดับที่ 4 ไปจนถึงอันดับที่ 15 ห่างกันเพียงแค่ 9 แต้มเท่านั้น และเหลือการแข่งขันอีก 18 เกมที่มีแต้มสูงสุดถึง 54 คะแนนให้ไขว่คว้ากัน

ไฮไลท์สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้ นั่นคือ การกลับมาเกิดใหม่ของนักเตะไทย ที่อายุอานามเกินหลักเลขสาม โดยเฉพาะสองนักเตะไทยที่ยิงเยอะสุด 2 อันดับแรกในขณะนี้ อย่าง อมร ธรรมนาม จาก พีที ประจวบ เอฟซี (7 ประตู) และสุมัญญา ปุริสาย จาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (8 ประตู) ต่างก็อายุเกิน 30 กันแล้วล้วนๆ แถมในรายหลังยังเพิ่งมีชื่อติดทีมชาติไทย อีกครั้งในเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติจีน ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้อีกด้วย

และนี่คือสุดยอดทีมนักเตะไทย จากศึกไทยลีก 2018 ที่อายุระดับ 30+ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ…

….

…..

ผู้รักษาประตู
สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (36 ปี, สุพรรณบุรี เอฟซี)

 

 

อันที่จริง นอกจาก “พี่ตี๋” ของน้องๆ แล้ว ยังมีอีกสองรายที่เข้าข่าย อย่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายด่าน วัย 34 ปีจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ ฉัตรชัย บุตรพรม วัย 31 ปี จาก สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แต่สุดท้าย ก็ต้องขอเลือก “ซูเปอร์ตี๋” เข้ามาอยู่ในทีมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเขาคือส่วนสำคัญที่ทำให้ “ช้างศึกยุทธหัตถี” เสียประตูน้อยที่สุด เพียง 13 ประตูจาก 16 เกมแรกเท่านั้น โดยมีคลีนชีตถึง 7 เกมด้วยกัน ในวัย 36 ปี เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

….

แบ็กซ้าย
อดุลย์ หมื่นสมาน (37 ปี, พีที ประจวบ เอฟซี)

เกิดใหม่ในร่างเดิมแบบสุดๆ สำหรับ “บังดุล” อดุลย์ หมื่นสมาน กัปตันทีมวัย 37 ปี ที่ใครๆ ก็บอกว่าแก่เกินแกงไปแล้วสำหรับไทยลีก แต่ที่ไหนได้ เขายึดตำแหน่งตัวจริงพร้อมกับสวมปลอกแขนกัปตันทีม ลงสนามไปแล้ว 15 เกมในซีซั่นนี้

แบ็กขวา
สุรีย์ สุขะ (35 ปี, อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด / ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)

ในรายชื่อของแบ็กขวาซีซั่นนี้ หายากทีเดียวสำหรับคนที่อายุมากกว่า 30 ปี ดังนั้นจึงขออนุญาตจับ สุรีย์ สุขะ อดีตแบ็คขวาทีมชาติไทย ดีกรีทีมยอดเยี่ยม จากรอบแรก ของศึกเอเชี่ยนคัพ 2007 ซึ่งปัจจุบันเขาอายุย่าง 36 ปี อดีตนักเตะของอุบล ยูเอ็มที ในเลกแลกที่ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องที่จำนวน 12 เกม พร้อมทั้งทำผลงานคงเส้นคงวาที่สุดคนหนึ่ง

เซนเตอร์ฮาล์ฟ
เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (31 ปี, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี)
ยุทธพงษ์ ศรีละคร (32 ปี, สุโขทัย เอฟซี)

ผมขอเลือกสองเซนเตอร์ฮาล์ฟจากสองทีมภูธร อย่าง “พี่เหลิม” เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว และ “กัปตันเจ๋ง” ยุทธพงษ์ ศรีละคร เพราะนอกจากการลงสนามอย่างแข็งขัน เป็นส่วนสำคัญของสองทีมภูธรที่ถูกคาดหมายว่าอาจจะต้องหนีตกชั้น ทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่ง เพราะพวกเขายังอยู่ในโซนรอดปลอดภัย แถมยังมีความเป็นผู้นำที่ดีอีกด้วย โดย เฉลิมพงษ์ ช่วยทีม “โคราช” ไปทั้งสิ้น 13 เกม ขณะที่ ยุทธพงษ์ นั้น ช่วย “ค้างคาวไฟ” ไปทั้งสิ้น 12 เกมด้วยกันในซีซั่นนี้

….

ปีกซ้าย
อมร ธรรมนาม (34 ปี, พีที ประจวบ เอฟซี)

 

 

สถิติ ซัด 7 ประตู บวกกับอีก 3 แอสซิสต์ ของ อมร ธรรมนาม จากการลงสนามครบ 16 เกมแรกของไทยลีก 2018 ไม่ต้องมีอะไรบรรยายให้มันมากความสำหรับปีกซ้ายเท้าตะขอ วัย 34 ปี รายนี้ ที่เกิดใหม่อีกครั้งกับร่างของ “ต่อพิฆาต” พร้อมกับสร้างปรากฏการณ์ เล่นคู่ทางฝั่งซ้ายกับ “บังดุล” ได้แบบไหลลื่น ทั้งที่อายุรวมกัน เกิน 70 ปี เข้าให้แล้ว

ปีกขวา
สุเชาว์ นุชนุ่ม (35 ปี, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

แม้ส่วนใหญ่ “กบไซเบอร์” สุเชาว์ นุชนุ่ม จะถูกหุบเข้ามาเล่นตรงกลาง ด้วยอายุอานามที่มากเกินจะไปกระชากหายๆ เหมือนสมัยก่อน แต่บางครั้ง เขาก็ถูกถ่างไปเล่นริมเส้น โดยในเกมนัดส่งท้ายของ เอซีแอล ในปีนี้ ที่ ศศลักษณ์ ไหประโคน ถูกเปลี่ยนตัวเร็วเพราะมีใบเหลืองติดตัว สุเชาว์ ก็ถูกโยกไปเล่นปีกขวา ตำแหน่งสร้างชื่ออีกครั้ง ในวัย 35 ปี

ทั้งนี้ ในเกมลีกนั้น สุเชาว์ นุชนุ่ม ได้โอกาสไปแล้วถึง 12 นัด โดยเกือบทั้งหมดนั้น เล่นในตำแหน่งกองกลาง และทำได้ดีมาก โดยเฉพาะเกมถล่ม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 4-0 ที่ทำเกม, ปิดเกมรุก, ตัดเกม และเคลื่อนเกม ร่วมกับ จักรพันธ์ แก้วพรม และ ยู จุน ซู ในแดนกลาง จนกองกลางของ “กิเลนผยอง” ที่อายุน้อยกว่า ถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว

กองกลาง
สุมัญญา ปุริสาย (32 ปี, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
กฤษฎา เหมวิพัฒน์ (34 ปี, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี)

 

 

หากไม่มีรายชื่อของ สุมัญญา ปุริสาย หลายคนคงบ่นผมเลยทีเดียว เพราะเขาคือนักเตะไทยที่ยิงมากที่สุดในลิสต์ดาวซัลโวตอนนี้ ที่จำนวน 8 ประตู บวกกับอีก 5 แอสซิสต์ บวกลบแล้ว เขามีส่วนร่วมกับประตูไปแล้วถึง 13 ลูก จาก 16 เกมแรกที่ได้ลงสนามครบทุกนัด ในวัย 32 ปี แถมยังมีลูกยิงสวยๆ ลูกฟรีคิกงามๆ ให้เห็นอยู่เรื่อยๆ อีกต่างหาก จนทำให้ มิโลวาน ราเยวัช อดทนรอไม่ไหวต้องเรียกเจ้าตัวมาติดทีมชาติไทยอีกครั้งในรอบกว่า 5 ปี ในเกมอุ่นเครื่องพบกับ ทีมชาติจีน ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้

อีกหนึ่งคนในแดนกลาง ขอนำเสนอชื่อของ กฤษฎา เหมวิพัฒน์ ดาวเตะวัย 34 ปี ที่ลงสนามให้กับนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ไปแล้วในปีนี้ถึง 13 เกม ในฐานะมิดฟิลด์ห้องเครื่องที่ต้องทำงานหนัก ทั้งตัดเกม และเชื่อมบอลจากรับเป็นรุก โดยที่วัยไม่ได้มีผลต่อสภาพความฟิตแต่อย่างใด

….

กองหน้า
สุรชาติ สารีพิมพ์ (32 ปี, บางกอกกล๊าส เอฟซี)
ธีรเทพ วิโนทัย (33 ปี, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

 

 

หายากนะในยุคนี้ที่ทีมในไทยลีก จะใช้กองหน้าชาวไทย แถมเป็นกองหน้าที่มีอายุเกินเลขสามซะอีก แต่ทั้ง สุรชาติ สารีพิมพ์ กับ ธีรเทพ วิโนทัย สองแนวรุกจอมเก๋า ดีกรีทีมชาติไทย ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า อายุไม่มีผลต่อการสังหารประตู

สำหรับ สุรชาติ ในวัย 32 ปี ลงสนามให้ “บีจี” ไปแล้ว 15 เกม ยิงไป 2 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ โดยเขามีจุดขายอื่นนอกจากการยิงประตูแล้ว ยังมีความขยัน และสามารถทำทางให้เพื่อนได้ดีอีกด้วย

 

 

ส่วน “ลีซอ” นั้น ในวัย 33 ปี เขายังคงเป็นกองหน้าตัวเป้า ตัวหลักให้กับทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในระบบ 4-3-3 ที่มี ร็อบสัน แฟร์นานเดส กับ วานเดอร์ หลุยส์ สองสตาร์บราซิเลี่ยน คอยลากเลื้อยที่ด้านข้าง และการค้ำในแดนหน้าของ ลีซอ ก็มีประโยชน์ ทั้งการชงให้เพื่อน การทำทาง การดึงตัวประกบ รวมถึงซัดเองไปแล้ว 3 ประตู บวกกับอีก 2 แอสซิสต์ด้วยกัน

….

“จอน”

 

โปรแกรมการแข่งขัน พร้อมช่องถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้