รีเซต
เล่าเรื่องบอลโลก EP.20 : “ใครต้องกลัวใครกันแน่ บราซิล vs เบลเยี่ยม” ... by "เอก ฮิมสกุล"

เล่าเรื่องบอลโลก EP.20 : “ใครต้องกลัวใครกันแน่ บราซิล vs เบลเยี่ยม” ... by "เอก ฮิมสกุล"

เล่าเรื่องบอลโลก EP.20 : “ใครต้องกลัวใครกันแน่ บราซิล vs เบลเยี่ยม” ... by "เอก ฮิมสกุล"
kentnitipong
3 กรกฎาคม 2561 ( 18:12 )
183

ถ้าจะมีเกมนัดไหนที่ดราม่าที่สุดในฟุตบอลโลก เกมเบลเยี่ยม กับ ญี่ปุ่น ได้ถูกจดบันทึกเอาไว้เรียบร้อยแล้วนะครับ ใครที่ได้ชมเกมเมื่อคืน ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนบอลทีมชาติญี่ปุ่นหรือไม่ เชื่อว่าพวกคุณต้องเอาใจช่วยลูกหลานทีม อาทิตย์อุทัย ทีมนี้ และ คุณก็จะต้องหัวใจสลาย อกหัก น้ำตาตกไปพร้อม ๆ กับแฟนบอลชาวญี่ปุ่นอีกหลายล้านคน ยังไงแฟนๆ สามารถเข้าไปติดตามรายละเอียดแมตช์นี้ทั้งข่าวสาร และคลิปไฮไลท์ ได้ที่ TrueID Sports Worldcup เลยครับ

 

 

เคาะความจำผมออกมา ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก มีไม่กี่เกมหรอกครับ ที่ทีมจากเอเชีย จะสร้างผลงานให้เป็นที่จดจำ และเป็นผลงานที่ทุกคนต่างก้มหัวยอมรับในความยอดเยี่ยมโดยไม่มีข้อแม้

ญี่ปุ่น อาจจะโดนกระแสถล่มมาในนัดสุดท้ายของรอบแรก ในเกมติ๊ดชึ่งช่วง 10 นาทีสุดท้าย กับโปแลนด์ แต่ก็นะ สถานการณ์อย่างนั้น จะโทษ ญี่ปุ่นฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก โปแลนด์ ซะอีกที่ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้ว นำอยู่ 1 – 0 ถ้าไล่บี้ ไล่บีบเพื่อที่จะเอาประตูที่ 2 จากญี่ปุ่น ลูกทีมของ อาคิระ นิชิโนะ ก็ไม่สามารถ ที่จะเดินเคาะบอลไปมาได้อยู่แล้ว

กลับมาที่เกมสุดมันส์เมื่อคืน ญี่ปุ่น พิสูจน์ให้คนทั่วโลกเห็นว่า หากพวกเค้าตั้งใจที่จะสู้ ทีมไหนๆ ในโลกที่ว่าแน่ ก็ต้องออกแรงแทบรากเลือดล่ะครับกว่าที่จะเอาชนะพวกเค้าลงได้

ทีมซามูไร เดินหน้าวิ่งสู้ฟัดกับทีมเต็งแชมป์อย่าง เบลเยี่ยม ได้อย่างสนุก นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำไม ทั้ง โรแบร์โต้ มาติเนซ และอาคิระ นิชิโนะ ต้องพักผู้เล่นหลายคน ในนัดสุดท้ายของรอบแรก เพื่อจะเก็บความสดเต็มที่ ไว้เจอกับเกมที่หนักขนาดนี้ ซึ่งตั้งแต่รอบน็อคเอาท์ เป็นต้นไปต้องมีนักเตะที่มีความฟิตที่เล่นได้ถึง 120 นาทีด้วย

เกมของ เบลเยี่ยม ดูอันตรายมาก เกมรุกดูหลากหลาย ลองดูดีๆ ครับว่า เบลเยี่ยม มี โรเมลู ลูกากู ปักหลักในแดนหน้าที่มีรูปร่างสูงใหญ่ มีความเร็ว หาจังหวะยิงประตูเก่ง แม้จะใช้จังหวะยิงเปลืองไปหน่อยก็เถอะ พวกเค้ามีตัวกระชากลากเลื้อยอย่าง เอแด็น อาซาร์ ที่ ฟอร์มกำลังจัดจ้าน มีเพลย์เมคเกอร์ที่คุมทัพได้นิ่ง มีจังหวะยิงแถวสองได้เด็ดขาดอย่าง เควิน เดอ บรอยน์

และกรุณาอย่าลืมอาวุธเด็ดอย่าง มารูยาน เฟลไลนี่ ที่เบลเยี่ยม มี แผนสองเอาไว้สำรองเวลาที่ แผนธรรมดา เจาะภาคพื้นดินไม่เข้าอีกต่างหาก

 

AP Photo/Natacha Pisarenko

 

ญี่ปุ่น เล่นเกมรับได้มีวินัย มาก ทักษะการครองบอลของพวกเค้าทำให้จังหวะพักบอล เวลาทีมจะโต้กลับทำได้ง่ายขึ้น แม้รูปเกมดูจะเป็นรอง แต่สถานการณ์ดูไม่เป็นรองนะครับ พวกเค้ารับแบบมีทรง ไม่ได้เป๋ หรือไม่ได้ออกลูกโซเซให้เห็น

ทาคาชิ อินุอิ, ชินจิ คางาวะ, เก็งกิ ฮารางูจิ, ยูยะ โอซาโกะ พวกนี้ เล่นกับกองหลังระดับยุโรปได้ สบายๆ ลองดูทั้ง 2 ประตูที่ ญี่ปุ่น ขึ้นนำนะครับ ไม่ใช่แค่ทีมเวิร์คเท่านั้นนะครับที่ ญี่ปุ่น แสดงให้เห็น ยังมีความเด็ดขาดของการสังหารประตูในจังหวะสุดท้ายที่น้อยครั้งเราจะได้เห็นจากทีม เอเชียในระดับฟุตบอลโลกอีก

 

AP Photo/Pavel Golovkin

 

พอญี่ปุ่นขึ้นนำไป 2-0 ถ้าเป็นพวกทีมประเภทใจเสาะ นี่ตายเลยนะครับ เพราะ ญี่ปุ่น เองก็เหิมเกริม กะบุกฝังยิงต่อให้ขาด และพวกเค้าก็เกือบจะทำได้หลายครั้ง

แต่ ปีศาจแดงแห่งยุโรป ตัวนี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วครับว่า ทีมที่จะท้าชิงตำแหน่งแชมป์ฟุตบอลโลก ต้องแสดงออกอย่างไร

เบลเยี่ยม งัดแผนสองออกมาสู้บ้าง สองตัวที่ มาร์ติเนซ หยิบลงน้ำมานี่ เป๊ะ และอ่านขาดมาก ยานนิค การาสโก้ กับ ดรีส์ เมอร์เท่น ถูกถอด แทนที่ ด้วย มารูยาน เฟลไลนี่ และนาเซอร์ ชาดลี่

คนที่ยี้เวลา โชเซ่ มูรินโญ่ ส่ง เฟลไลนี่ ลงมาท้ายเกมเวลาเล่นกับ แมนฯ ยู นี่คงเห็นแล้วนะครับว่า นักเตะประเภท เฟลไลนี่ นี่มีประโยชน์ขนาดไหน บางทีถ้ารุกแบบเดิมมันเจาะยังไงก็ไม่เข้า การเปิดหน้าโยนเข้าไปทื่อๆ ไปลุ้นลูกโหม่งลูกเก็บตกแถวสอง นี่ล่ะครับได้ผลดีนัก คือต่อให้รู้ว่าจะโยนมาแบบนี้ โยนให้ เฟลไลนี่ ตรงนี้ ก็ป้องกันได้ยากอยู่ดี

 

AP Photo/Rebecca Blackwell

 

ประตู 2-2 ของ เบลเยี่ยม ที่ เฟลไลนี่ โขกเข้าไปนี่ น่าจะเตือนสติให้ ญี่ปุ่น ให้กลับมาเดินเกมแบบระมัดระวังตัวมากขึ้นนะครับ อาคิระ นิชิโนะ มีสองทางเลือก หนึ่งคือ เดินหน้าสู้ต่อแบบกามิกาเซ่ ลุยกันไปลุ้นประตูที่ 3 น็อค เบลเยี่ยม ตกรอบไปเลย หรือเล่นแบบ เพลย์เซฟ ไปลุ้นต่อที่จุดโทษ

เวลาบุกเพลิน โมเมนตั้มมันได้ บางทีนักเตะที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ผ่านบอลโลกมา 3 สมัย อย่าง เคสุเกะ ฮอนดะ เองก็ตัดสินใจพลาด

แทนที่จะเล่น ลูกเตะมุมสุดท้ายด้วยการดึงเวลา เข้ามุมธง ไปลุ้นต่อกันอย่างน้อย ก็อีก 30 นาที แต่กลายเป็นลูกเตะมุมสุดท้ายของเค้า ถูก ติโบต์ กูร์กตัวส์ คว้าบอลไว้ได้แล้ว หลังจากนั้น เกมโต้กลับครั้งสุดท้ายของ เบลเยี่ยม ก็เป็นประตูที่น็อค ญี่ปุ่น ตกรอบ การเสี่ยงของ ฮอนดะ ไม่เวิร์ค และ พวกเค้าต้องชดใช้การเสี่ยงครั้งนี้อย่างชอกช้ำ

เบลเยี่ยม โชว์คาแรกเตอร์ของผู้ชนะให้เห็น พวกเค้าเป็นทีมแรกในรอบ 48 ปี ที่มีสกอร์ตามหลัง 0-2 ในรอบน็อคเอาท์ แล้ว กลับมาเป็นผู้ชนะได้ โดยทีมที่ทำได้ครั้งหลังสุดเป็น เยอรมันตะวันตก ที่ล้างแค้นอังกฤษ ตกรอบ ใน เม็กซิโก 1970

รอบ 16 ทีมสุดท้าย อีกคู่ บราซิล เต็งหนึ่ง ที่ยังมาตามนัด ไม่ตกรอบตามทีมเต็งๆ ไปก่อน บดเอาชนะ เม็กซิโก ไปแบบเหนื่อยหนัก แม้ สกอร์จะออกมา 2-0 ดูเหมือน เชือดกันนิ่มๆ แต่เม็กซิโก เล่นได้ดีมากๆ และถ้าพวกเม็กซิกันคมกว่านี้ ไม่อยากจะคิดว่า บราซิล จะลิ้นห้อยแค่ไหน

โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ บอกไว้ก่อนเกม กับ อังกฤษว่า เค้าไม่สนใจอนาคต ว่าเข้าที่หนึ่งต้องยังไง เข้าที่สองต้องเจอใคร มองแค่ คู่แข่งตรงหน้า เกมต่อเกม คราวนี้แหล่ะครับ ผลการปะทะหลังจากเจอกับ บราซิล ในรอบ 8 ทีม จะบอกเราเอง ว่า โรแบร์โต้ มาติเนซ คิดผิดหรือคิดถูกที่ เข้าที่ หนึ่งของกลุ่มมาเจอ บราซิล ในรอบนี้

เพราะไม่รู้ว่า ใครควรจะกลัวใครกันแน่ ระหว่าง บราซิล กับ เบลเยี่ยม

“เอก ฮิมสกุล”

 

โปรแกรมการแข่งขัน พร้อมช่องถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018

ดูฟุตบอลโลก 2018 ย้อนหลัง เต็มแมตช์  สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าทรู

 

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้