รีเซต
ล้างอาถรรพ์ 22 ปี! อังกฤษ ทำได้ ยิงจุดโทษเฉือน โคลอมเบีย 5-4 เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

ล้างอาถรรพ์ 22 ปี! อังกฤษ ทำได้ ยิงจุดโทษเฉือน โคลอมเบีย 5-4 เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

ล้างอาถรรพ์ 22 ปี! อังกฤษ ทำได้ ยิงจุดโทษเฉือน โคลอมเบีย 5-4 เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
armcasanova
4 กรกฎาคม 2561 ( 03:58 )
128

เป็นเกมที่ต้องมาลุ้นกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดนในเกมอังกฤษ ได้ลูกโทษจาก เคน ขึ้นนำไปก่อน และโคลอมเบียได้ประตูตีเสมอในนาทีสุดท้ายจากลูกโหม่งของ มิน่า จนทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ และยาวไปถึงการดวลจุดโทษ อังกฤษ ล้างอาถรรพ์ได้สำเร็จเอาชนะจุดโทษไปได้ 5-4  ชมคลิปไฮไลท์ จาก TrueID Sports WorldCup

AP Photo/Alastair Grant

ชมคลิปไฮไลท์สำคัญ ฟุตบอลโลก 2018 ล่าสุด ทุกคู่ ได้ที่นี่ คลิก !!

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่ระหว่าง โคลอมเบีย พบกับ อังกฤษ โดยนัดนี้ โชเซ่ เปเกร์มัน นายใหญ่โคลอมเบีย จัดตัวมาในระบบ 4-3-2-1 นัดนี้ไม่มีผู้เล่นคนสำคัญของทีมอย่าง ฮาเมส โรดริเกซ โดยใช้ ฮวน กัวดราโด้ กับ ฮวน ควินเทโร่ ช่วยกันทำเกมแทน ส่วนทางด้าน แกเร็ธ เซาธ์เกต จัดตัวมาในระบบ 3-5-2 โดยใช้ผู้เล่นเหมือนในนัดแรกที่ลงเล่นกับ ตูนิเซีย

เริ่มเกมในครึ่งแรก โคลอมเบีย เป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นบุกจากซ้ายไปขวา มาในเสื้อสีเหลือง กางเกงขาว ถุงเท้าขาว ส่วนอังกฤษมาในชุดสีแดง

AP Photo/Alastair Grant

นาทีที่ 5 อังกฤษ ได้ลุ้นเป็นครั้งแรกจากลูกฟรีคิก แอชลี่ย์ ยัง โยนเข้าไป ออสปิน่า กระโดดชกออกไปได้ แต่ไปเข้าทาง ทริปเปียร์ เปิดเขามาอีกที เยอร์รี่ มิน่า โขกทิ้งออกไป อังกฤษ ได้ลูกเตะมุม

นาทีที่ 15 ลินการ์ด ขึ้นเกมมาทางฝั่งขวาไหลบอลให้กับ ทริปเปียร์ วิ่งเติมเกมขึ้นมาถึงเส้นหลัง เปิดเข้าไป แฮร์รี่ เคน ได้ขึ้นโขกแต่บอลย้อยข้ามคาน ตกลงบริเวณตาข่ายด้านบนของประตู

นาทีที่ 18 ควินเทโร่ ทำเกมรุกบริเวณตรงกลาง และมองไกลไปเห็น ฟัลเกา วิ่งทำทางพยายามเปิดบอลเข้าไป แต่ก็ลึกเข้ามือของ ฟิคฟอร์ด ยังไม่มีโอกาสลุ้นในการทำประตู

AP Photo/Antonio Calanni

นาทีที่ 26 จากลูกฟรีคิก แอชลี่ย์ ยัง เปิดบอลเข้าไปลุ้นตั้งใจจัให้กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ แต่โดนทางด้าน ดาวิดสัน ซานเชซ โขกทิ้งออกไป

นาทีที่ 32 แอชลี่ย์ ยัง ทุ่มบอลมา แต่เจอ คาร์ลอส ซานเชซ โขกตัดไปเข้าทาง ฟัลเกา ไหลให้ทาง ควินเทโร่ ได้ยิงแต่บอลหลุดกรอบออกไปเยอะ

นาทีที่ 37 แฮร์รี่ เคน เลี้ยงกินตัวขึ้นมาแต่สุดท้ายโดนทางด้าน เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา ตัดฟาวล์หน้ากรอบเขตโทษ อังกฤษ ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะอันตราย

AP Photo/Matthias Schrader

นาทีที่ 39 ระหว่างการตั้งกำแพง เกิดปัญหากันเล็กน้อยเมื่อ วิลมาร์ บาร์ริออส ยืนเบียดกับ เฮนเดอร์สัน และใช้ศรีษะโขกใส่ เฮนโด้ ล้มลงไปทำให้เกิดการชุลมุนเล็กน้อย จนทำให้ผู้ตัดสินที่ได้รับรายงานจากห้อง VAR ตัดสินใจแจกใบเหลือง วิลมาร์ บาร์ริออส ไป

นาทีที่ 41 จากลูกฟรีคิก ทริปเปียร์ รับหน้าที่ปั่นโค้งๆ บอลพุ่งแรงแต่หลุดกรอบออกไปชนิดที่ได้ลุ้นเลยทีเดียว

นาทีที่ 44 อังกฤษ ทำเกมบุกขึ้นมา แฮร์รี่ เคน ลองซัดไกลแต่บอลหลุดกรอบออกไป แต่ทางด้าน สเตอลิ่ง และ มิน่า มีจังหวะเล่นนอกเกมกัน จนทำให้ผู้ตัดสินและเพื่อนร่วมทีมต้องมาห้ามปราม

นาทีที่ 45+1 ฟัลเกา พาบอลขึ้นมาและเปิดให้ทางบ ควินเทโร่ จับบอลและซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งไปเข้ามือ ฟิคฟอร์ด

AP Photo/Ricardo Mazalan

นาทีที่ 45+2 อังกฤษ โต้กลับมา ทริปเปียร์ เปิดบอลเข้าไปลุ้นในกรอบเขตโทษ แต่ถูกโขกทิ้งออกมา และเป็น ลินการ์ด วิ่งมากระโดดยิงแต่บอลก็ข้ามคานออกไป

จบเกมในครึ่งแรก โคลอมเบีย ยังคงเสมอกับ อังกฤษ อยู่ที่ 0-0

ชมคลิปไฮไลท์สำคัญ ฟุตบอลโลก 2018 ล่าสุด ทุกคู่ ได้ที่นี่ คลิก !!

เริ่มเกมในช่วงครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัว โคลอมเบีย เป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นบุกจากขวาไปซ้าย

นาทีที่ 52 อังกฤษ ได้ลุ้นจากลูกฟรีติก แอชลี่ย์ ยัง คนดีคนเดิมโยนบอลเข้ามา แต่เป็นทางด้าน ดาวิดสัน ซานเชซ โขกทิ้งตัดหน้า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไปได้ อังกฤษได้แค่ลูกเตะมุม

นาทีที่ 53 จากลูกเตะมุม คาร์ลอส ซานเชซ ตามประกบ แฮร์รี่ เคน ทั้งผลักทั้งดึงทำให้ เคน ล้มลงไปต่อหน้าต่อตาผู้ตัดสิน จากนั้นสัญญาณนกหวีดดังขึ้นพร้อมชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของอังกฤษ

AP Photo/Victor R. Caivano

นาทีที่ 56 แฮร์รี่ เคน หลังจากโดนทำฟาวล์รับหน้าที่ สังหารจุดโทษและก็ไม่พลาด ยิงเต็มข้อไปตรงกลาง พาอังกฤษขึ้นนำไป 1-0 และเป็นประตูที่ 6 ในฟุตบอลโลก 2018 ของเจ้าตัวอีกด้วย

AP Photo/Victor R. Caivano

ต่อมาผู้เล่นของทั้งสองทีมเริ่มมีจังหวะการปะทะที่ดุเดือดทั้งคู่ ทำให้เกมต้องหยุดชะงักในหลายๆ จังหวะ

นาทีที่ 62 จากลูกฟรีคิกของ แอชลี่ย์ ยัง โยนเข้าไปให้ แม็กไกวร์ โขกชงแต่โดนสกัดออกไป จากนั้น ทริปเปียร์ ที่ได้บอลเปิดเข้ามาที่เสาสอง อัลลี่ พุ่งโหม่งเต็มๆ แต่บอลข้ามคานออกไป

AP Photo/Ricardo Mazalan

เวลาผ่านไป 70 นาที ทั้งสองทีมมีจังหวะการตัดเกมรวมไปถึงการเข้าปะทะแบบติดดาบ จนทำให้เกมนี้ใบเหลืองรวมกันอยู่ที่ 7 ใบเข้าไปแล้ว โดยได้รับใบเหลืองไป โคลอมเบีย 5 ใบ ส่วน อังกฤษ 2 ใบ

นาทีที่ 72 อัลลี่ ให้บอลทะลุช่องถึง ลินการ์ด มองแล้วเปิดเข้ามาหวังจะให้ แฮรี่ร์ เคน ที่ยืนโล่งแต่โดน ดาวิดสัน ซานเชซ สไลด์บอลออกไป

นาทีที่ 80 ไคล์ วอล์กเกอร์ จ่ายบอลพลาด บาร์ก้า ตัดมาได้เลี้ยงบอลขึ้นมา เพื่อนเติมมา 3 คนเลือกให้ ฮวน กัวดราโด้ ตัดสินใจก้มหน้าซัดด้วยขวาบอลลอยข้ามคานชนิดที่ไม่ได้ลุ้นอะไร

AP Photo/Alastair Grant

หลังจากนั้น เกมเริ่มดุเดือดท่ามกลางความกดดันของทั้งสองทีม โดยฝั่งโคลอมเบีย เริ่มทำฟาวล์มากขึ้น

นาทีที่ 92 โคลอมเบีย ได้ลุ้นลูกตีเสมอจาก มาเตอุส อูริเบ้ ที่เพิ่งลงมาใหม่ ยิงไกลกว่า 40 หลาบอลเข้ากรอบทำให้ ฟิคฟอร์ด ต้องออกแรงปัดทิ้งออกไป

นาทีที่ 93 จากลูกเตะมุม ฮวน กัวดราโด้ เปิดลูกเตะมุมมาแล้วเป็นทาง เยอร์รี่ มิน่า ขึ้นโขกบอลลงพื้น แล้วบอลพุ่งไปหา ทริปเปียร์ ที่ยืนกำกับเส้นอยู่เคลียร์ไม่ออก บอลเข้าประตูไป ช่วย โคลอมเบีย ตีเสมอ อังกฤษ เป็น 1-1 ต่อลมหายใจให้ทีมไปลุ้นต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ

AP Photo/Ricardo Mazalan

ชมคลิปไฮไลท์สำคัญ ฟุตบอลโลก 2018 ล่าสุด ทุกคู่ ได้ที่นี่ คลิก !!

เริ่มเกมในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที ท่ามกลางความอ่อนล้าของผู้เล่นทั้งสองทีม แต่ก็ยังมีจังหวะการปะทะกันอย่างดุเดือดเช่นเคย

นาทีที่ 95 โมฮิก้า พาบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย กระชากผ่าน วอล์กเกอร์ เปิดเข้ามาจะให้ บาร์ก้า แต่โดน ฟิคฟอร์ด ออกมาตัดบอลได้ก่อน

นาทีที่ 105 อังกฤษ มีโอกาสลุ้นประตู โดยเป็น วาร์ดี้ ได้โอกาสยิงจ่อๆ หน้าประตู แต่บอลพุ่งไปเข้ามือ ออสปิน่า แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้า

AP Photo/Alastair Grant

นาทีที่ 111 อังกฤษ ได้ลุ้นจากจังหวะที่ แดนี่ โรส ทะลุช่องขึ้นมา ได้ยิงแต่บอลผ่านหน้าประตูไปอย่างหวาดเสียว

หมดเวลาช่วงทดเวลาพิเศษ ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันไป 1-1 ต้องไปตัดสินกันที่การด้วยจุดโทษ

โคลอมเบีย (เริ่มยิงก่อน)
X X X O O

อังกฤษ
X X O X X

จบเกมอังกฤษสามารถยิงจุดโทษเอาชนะ โคลอมเบีย ไปได้ 4-3 (1-1) สามารถล้างอาถรรพ์การยิงจุดโทษ ในรายการระดับเมเจอร์ได้ในรอบ 22 ปี

1990 (ฟุตบอลโลก) แพ้ เยอรมัน (รอบรองชนะเลิศ)
1996 (ฟุตบอลยูโร) ชนะ สเปน (รอบ 8 ทีมสุดท้าย)
1996 (ฟุตบอลยูโร) แพ้ เยอรมัน (รอบรองชนะเลิศ)
1998 (ฟุตบอลโลก) แพ้ อาร์เจนติน่า (รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
2004 (ฟุตบอลยูโร) แพ้ โปรตุเกส (รอบ 8 ทีมสุดท้าย)
2006 (ฟุตบอลโลก) แพ้ โปรตุเกส (รอบ 8 ทีมสุดท้าย)
2012 (ฟุตบอลยูโร) แพ้ อิตาลี (รอบ 8 ทีมสุดท้าย)
2018 (ฟุตบอลโลก) ชนะ โคลอมเบีย (รอบ 16 ทีมสุดท้าย)

AP Photo/Matthias Schrader

ชมคลิปไฮไลท์สำคัญ ฟุตบอลโลก 2018 ล่าสุด ทุกคู่ ได้ที่นี่ คลิก !!

AP Photo/Alastair Grant
AP Photo/Matthias Schrader

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง มีดังนี้

ทีมชาติโคลอมเบีย : ดาวิด ออสปิน่า (GK), ซานติอาโก้ อาริอาส, วิลมาร์ บาร์ริออส, คาร์ลอส ซานเชซ, ราดาเมล ฟัลเกา, ฮวน กัวดราโด้, เยอร์รี่ มิน่า, เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา, โจฮัน โมฮิก้า, ฮวน ควินเทโร่, ดาวิดสัน ซานเชซ

ทีมชาติอังกฤษ :  จอร์แดน พิคฟอร์ด (GK), ไคล์ วอล์กเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, เจสซี่ ลินการ์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แฮร์รี่ เคน, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, คีแรน ทริปเปียร์, แอชลี่ย์ ยัง, เดเล อัลลี่

 

โปรแกรมการแข่งขัน พร้อมช่องถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018

ดูฟุตบอลโลก 2018 ย้อนหลัง เต็มแมตช์  สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าทรู

 

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้