รีเซต
เล่าเรื่องบอลโลก EP.28 : "ฝรั่งเศส เด็ดขาดกว่า" ... by "เอก ฮิมสกุล"

เล่าเรื่องบอลโลก EP.28 : "ฝรั่งเศส เด็ดขาดกว่า" ... by "เอก ฮิมสกุล"

เล่าเรื่องบอลโลก EP.28 : "ฝรั่งเศส เด็ดขาดกว่า" ... by "เอก ฮิมสกุล"
kentnitipong
11 กรกฎาคม 2561 ( 23:52 )
33.6K

อกหักนะครับ สำหรับใครที่เอาใจช่วยทีม “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยี่ยม ที่ไปไม่ถึงดวงดาว พ่ายความแข็งแกร่งของ “ตราไก่” ฝรั่งเศสไป 0-1 เป็นอะไรที่มองขาด มองเอาไว้แล้ว อย่างในเล่าเรื่องบอลโลก EP เมื่อวานนี้ พารากราฟสุดท้ายผมเขียนไว้แบบนี้ครับ

 

 

“การดวลกันของสองยอดทีมของยุโรปยามนี้ ใจจริงผมชอบ เบลเยี่ยม เป็นการส่วนตัวจากสไตล์การเล่นของพวกเค้า แต่คราวนี้ จะเจอของแข็งที่ เขี้ยวกว่า ทีมที่พวกเค้าเคยเจอ อาซาร์ กับ เดอ บรอยน์ ไม่น่าจะเล่นได้ง่ายๆ เหมือนวันที่เจอกับ บราซิล แล้ว ฝรั่งเศส ไม่ปล่อยให้ทำอย่างนั้นแน่นอน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กับ ปอล ป็อกบา จะเด่นมากๆ กับเกมแบบนี้

ฝรั่งเศส จะใช้ความเด็ดขาดเฉือน เบลเยี่ยม ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศครับ ฟันธงไปเลย ฉับๆๆ” เป็นไปตามความคาดหมายของผมนะครับ ขอโม้นิดนึง

เบลเยี่ยม เป็นทีมที่ดีมาก ครับ เกือบจะครบเครื่องแบบในทีมที่จะเป็นแชมป์โลกควรมี ขาดอยู่นิดเดียวนั่นก็คือ ความเด็ดขาดในจังหวะชี้เป็นชี้ตาย

ทีมชั้นยอดที่ขยับเข้าใกล้คำว่าแชมป์โลก คู่ควรกับคำว่าแชมป์โลกนี่เยอะครับ แต่แชมป์โลกจะมีอะไรมากกว่าทีมพวกนี้อยู่นิดนึง ไม่รู้จะอธิบายยังไง

มันประกอบรวมกันขึ้นมาเป็นความเด็ดขาดความเขี้ยวในจังหวะชี้เป็นชี้ตาย ซึ่งก่อนเกม ฝรั่งเศส กับ เบลเยี่ยม ผมมองว่า ฝรั่งเศส ชุดนี้มีสิ่งนี้ แต่ เบลเยี่ยม ยังขาด หรือมีก็ดึงออกมาใช้ในวันที่จำเป็นไม่ได้

จังหวะขึ้นเบียดแย่งโหม่งของ มารูยาน เฟลไลนี่ กับ ซามูเอล อุมติตี้ ที่ขึ้นเบียดได้ห่างกันแค่ไม่กี่เซนติเมตร กลายเป็นจุดเดียวในเกมที่ทำให้สกอร์ทั้งสองทีมออกมาต่างกัน

ช่วงต้นเกม เบลเยี่ยม สู้ได้ และมีโอกาสได้ทำก่อน แต่เมื่อมีโอกาสแล้วทำไม่ได้ ฝรั่งเศส เริ่มครองเกมได้ เริ่มมั่นใจมากขึ้น หลั้งจากนั้นก็เป็นงานยาก

เมื่อเทียบกันในตัวผู้จัดการทีม โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กับ เดเด้ เดส์ชองส์ ประสบการณ์ ชี้ไปที่ เดส์ชองส์ อยู่แล้ว ในขณะที่ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ สั่งลูกทีมเดินหน้าบุกอย่างย่ามใจ ส่วน เดเด้ เองกลับวางแผนอีกแบบ

เดเด้ รู้ว่า การต้องเล่นกับทีมอย่าง เบลเยี่ยม แนวรับต้องลึกควรเน้นการตัดเกมตั้งแต่ตรงกลางก่อนที่บอลจะไปถึง พวก อาซาร์ หรือ ลูกากู หน้าที่ตรงนี้ปล่อย ก็องเต้ ไป เดี๋ยวมนุษย์สิบปอดคนนี้ก็จัดการเอง

ก็องเต้ ตัดบอลสวยๆ แล้วส่งให้เพื่อนเล่นโต้กลับได้หลายครั้ง เดช็องส์รู้ดีครับว่า โอกาสถ้ามีต้องเด็ดขาด ต้องทำให้ได้ ประตูแรกถ้าได้ก่อน จะทำให้พวกเค้าเล่นง่ายขึ้น ถ้าพวกเค้าได้ประตูนำก่อนเมื่อไหร่ เกมจะกลับมาเข้าทางทีมตราไก่ทันที

 

AP Photo/Natacha Pisarenko

 

ประตูเดียวของเกมนี้ตัดสินเกมได้นะครับ แต่ต้องอย่าลืมที่จะปรบมือให้กับ ทั้ง อูโก้ โยริส กับ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ที่โชว์ฟอร์มเซฟเหนียวหนึบให้กับทั้งสองทีม ถ้าไม่มีสองคนนี้ สกอร์ออกมีพิลึกพิลั่นกว่านี้

ฝรั่งเศส ผ่านเข้าไปเล่นในนัดชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006 ในขณะที่ เบลเยี่ยม ต้องกลับไปพัฒนา โกลเด้น เจอเนอเรชั่น ของพวกเค้าต่อไป

ส่วนค่ำคืนนี้ โครเอเชีย กับ อังกฤษ ก็น่าจะเป็นเกมที่ดุเดือดไม่แพ้กัน ก่อนเกม โครเอเชีย ต้องเช็คฟิต ผู้เล่นหลายคน ส่วนทาง อังกฤษ ไม่น่ามีปัญหาเรื่องผู้เล่นแล้ว เพราะ เจมี่ วาร์ดี้ กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลับมาลงซ้อมกับทีมได้แล้ว

ถ้าเทียบผู้เล่น ปอนด์ต่อปอน์ด โครเอเชีย ดูดีกว่า เล็กน้อย แต่ พอมาหักกลบเรื่องสภาพความฟิตผู้เล่น กับ ความที่ว่า อังกฤษ ครั้งนี้ดูมี ราศีแปลกๆ ผมเลยมองว่าคู่นี้สูสีกันแบบสุดๆ

เกมมีโอกาสออกเสมอใน 90 นาทีสูงมาก โครเอเชีย จะเป็นฝ่ายบุกมากกว่า แต่ อังกฤษ ชุดนี้หลังเหนียวครับ ถ้าจะกินแนวรับสิงโตชุดนี้ คงต้องออกแรงมากหน่อย เกมน่าจะออกเบียดๆ อาจยื้อไปถึงจุดโทษด้วย

 

AP Photo/Alastair Grant

 

มาดูกันที่เรื่องของดาวซัลโวกันบ้างครับ ถ้าไม่มีอะไรพลิกโผ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ จากท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะคว้าตำแหน่งดาวซัลโวรองเท้าทองคำของฟุตบอลโลก 2018 ไปครองนะครับ

อันนี้ผมเคยให้ความเห็นไปตั้งแต่จบรอบ 8 ทีมใหม่ๆ ว่า 6 ประตูของแฮร์รี่ เคน ที่ตุนเอาไว้ตั้งแต่ในรอบ แรกกับรอบ 16 ทีมสุดท้าย น่าจะเพียงพอต่อการที่จะทำให้เค้าคว้ารางวัลนี้ไปนอนกอด และนับถึงตรงนี้มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น

เพราะ คนที่ไล่ตามมา 4 ประตู อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เดนิส เชรีเชฟ ก็ตกรอบไปแล้ว โรเมลู ลูกากู ที่เหลืออีกแค่ 1 เกมในนัดชิงที่ 3 ก็ดูจากแนวโน้มไม่น่าจะยิงแฮตทริกแซง แฮร์รี่ เคน ไปได้ เพราะฟอร์มนัดเจอกับ ฝรั่งเศส นี่บอกเลยครับ ลูกากู ยิงยาก ฮ่าๆ ๆ

ส่วนพวกที่ยิงได้ 3 ประตู และยังเหลือเกมเตะ อีกหนึ่งนัด อย่าง อองตวน กรีซมันน์ และ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ก็น่าจะไล่ไม่ทันแน่ๆ

ถ้า เคน ได้ไปจริง ๆ ก็จะเป็นดาวยิงชาวอังกฤษคนที่สองต่อจาก แกรี่ ลินิเกอร์ ที่คว้าตำแหน่งดาวซัลโวฟุตบอลโลกไปครอง ซึ่งในครั้งนั้นที่ ลินิเกอร์ ได้ไปในปี 1986 ก็ยิงได้ที่ 6 ประตูเหมือนกัน

แหม่แล้วถ้า อังกฤษ จบฟุตบอลโลกครั้งนี้ ด้วยการเป็นแชมป์โลก แฮร์รี่ เคน เป็นดาวซัลโวด้วย เดินยืดกันทั้งประเทศล่ะครับ

“เอก ฮิมสกุล”

 

โปรแกรมการแข่งขัน พร้อมช่องถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018

ดูฟุตบอลโลก 2018 ย้อนหลัง เต็มแมตช์  สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าทรู

 

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้