เล่าเรื่องบอลโลก EP.33 : "ฝรั่งเศส แชมป์แบบ สมศักดิ์ศรี" ... by "เอก ฮิมสกุล"

ปิดฉากอย่างเป็นทางการสำหรับศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย หนึ่งเดือนกับอีก 2 วันที่แฟนบอลทั่วโลกหายใจเข้าออกเป็นฟุตบอลโลก ถึงตรงนี้กำลังจะเป็นความทรงจำ และเป็นความทรงจำที่ดีซะด้วย

แฟนบอลฝรั่งเศส มีความทรงจำที่ดีกับ รัสเซีย 2018 แน่นอนครับ เป็นฟุตบอลโลกที่งดงามสำหรับสาวก “ตราไก่” ไม่น้อยไปกว่า ที่ ฟร้องซ์ 98 คราวนี้พวกเค้าผงาดเป็นแชมป์โลก เป็นสมัยที่สอง และเป็นแชมป์โลกที่สมศักดิ์ศรีอย่างที่สุดแล้ว

ในบรรดาทีมใหญ่ทีมเต็ง ทีมใหญ่ทั้งหมดมีฝรั่งเศส ของดิดีเย่ร์ เดส์ชองส์ ทีมเดียวเท่านั้นนะครับที่คงมาตรฐานของทีมเอาไว้ได้ นอกนั้นไม่ต้องย้อนดูให้เสียเวลาอีกว่า พวกแชมป์โลกเก่าๆ หรือแชมป์ยูโรครั้งล่าสุดต้องมีสภาพอย่างไร

จุดเริ่มต้นของ การปลุกปั้น ฝรั่งเศส ชุดนี้ของ เดส์ชองส์ กันหน่อยนะครับ “เดเด้” เข้ามารับตำแหน่ง กุนซือทีม “ตราไก่” ตั้งแต่ กรกฎาคม 2012 หลังจากที่ “โลโล่” โลร็องต์ บล็องก์ ลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่สามารถพาทีมฝรั่งเศส ผ่าน สเปน ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายในยูโร 2012 ไปได้

เดส์ชองส์ ทยอยรื้อโครงสร้างทีมใหม่ โดยค่อยๆ ทยอย เอานักเตะหนุ่มเข้ามาเป็นแกนหลักมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ที่ บอลโลก บราซิล 2014, ยูโร ฝรั่งเศส 2016 จนมาถึง รัสเซีย 2018 เดส์ชองส์สร้างทีมจากนักเตะหนุ่ม และไม่สนใจคำวิพากษ์วิจารณ์จากใครหน้าไหนทั้งสิ้น หลายครั้งที่มีสื่อฝรั่งเศส มีคำติติงถึงการทำทีม แต่ เดส์ชองส์ เป็นกุนซือที่ค่อนข้างมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก ก็ไม่ใส่ใจ และเดินหน้า ทำทีมตามสิ่งที่เค้าคิดว่ามันมาถูกทางแล้ว ดังนั้นพวกนักเตะตัวเก๋าๆ แต่หมดสภาพ หรือเก๋า ประสบการณ์เยอะแล้วก็มีปัญหาเยอะ ก็ตัดทิ้งซะ จะได้ไม่มีปัญหาในการทำทีมในภายหลัง

ทาง FFF เองก็ไฟเขียวให้ อำนาจในการทำทีมกับ เดส์ชองส์ เต็มที่ครับ เพราะ ทั้ง เดส์ชองส์ และ FFF หรือ สหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศสเองก็คงเห็นแล้วกับสิ่งที่ เรย์มงต์ โดเมเน็ค ต้องเจอเหมือนในบอลโลก ที่แอฟริกาใต้ ทีมสปิริตไม่มี คุมลูกน้องไม่อยู่ ทีมก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ

หลายคนแอบแซะ ฝรั่งเศส ว่าเป็นพวกทีมรวมเชื้อชาติบ้าง รวมดาราอาณานิคม บ้างแต่อย่าลืมครับ ในยุคนึงสมัยนึง ฝรั่งเศส เองก็ไม่ใช่ประเทศเดียวนะครับ ที่ออกล่าเมืองขึ้น ฮอลแลนด์ เองก็ใช่ อังกฤษ เองก็ด้วย หรือพวก เยอรมัน ที่มีพวกนักเตะเชื้อสายอื่นปนเข้ามาก็ไม่น้อยเลย ของแบบนี้มันอยู่ที่ระบบการพัฒนารากฐานฟุตบอลในแต่ละประเทศต่างหาก อย่าทำตัวเป็นองุ่นเปรี้ยวเลยครับ

ชม เดส์ชองส์ อย่างเดียวก็ไม่ได้ครับ ต้องชมที่นักเตะด้วย บอลโลกคราวนี้ ฝรั่งเศส อาจไม่มีนักเตะที่โดดเด่นเป็นซูเปอร์สตาร์ ทะลุขึ้นมาแบบข้ามาคนเดียวเหมือนอย่าง อาร์เจนติน่า, บราซิล หรือ โปรตุเกส แต่ “ไก่กระทง” ทีมนี้ มีดีไปในทุกตำแหน่งเลยด้วยซ้ำ

อูโก้ โยริส ยกระดับฝีมือตัวเองขึ้นมาแบบก้าวกระโดด ลูกยากก็ป้องกันได้ ลูกง่ายก็ทำได้ดีไม่มีที่ติ มาเสียเอาในเกมนัดชิงชนะเลิศกับ โครเอเชีย ลูกเดียวนี่แหล่ะครับ โอยลูกง่ายๆ ลูกนั้นไปแถมให้ มานด์ซูคิช เกี่ยวยิงเข้าไปง่ายๆ ซะอีก ไม่รู้ไปโดน “คาริอุส” ฟีเวอร์ติดมาตอนไหน

แบ็กซ้ายขวานี้ แทบจะเป็นคู่ที่ดีที่สุดในบอลโลกคราวนี้เลยนะครับ ทั้ง แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ด และ ลูกัส แอร์กน็องเดซ นี่ ทำให้ผมเซอร์ไพรส์ที่สุด อายุ 22 ปีทั้งคู่ ประสบการณ์กับทีมชาติ ไม่เกิน 10 นัด แต่เล่นได้ “โคตรดี” รับแน่น เกาะติดไม่ปล่อย รุกก็เติมได้สุด เปิดบอลแม่นอีกต่างหาก น่าจะเป็นกำลังหลักของ ฝรั่งเศส ต่อไปอีกนานเลยทีเดียว

ปราการหลังคู่กลาง ราฟาเอล วาราน และซามูเอล อุมติตี้ นี่ก็ยอดเยี่ยมครับ คนหนึ่งบุ๋นคนหนึ่งบู๊ แต่ก็ลงตัวที่สุด ไม่ได้อวยผมว่าเป็นปราการหลังคู่กลางที่แข็งแกร่งที่สุดในบอลโลกครั้งนี้

ตรงกลางนี่ คนนี้สำคัญที่สุด ฝรั่งเศส จะไม่สามารถเป็นแชมป์โลกได้เลยถ้าขาดคนนี้ “เอ็นโกโล่ ก็องเต้” สำคัญมากๆ เกมตรงกลาง การตัดเกม การเพรสซิ่ง การเชื่อมเกม หรือแม้กระทั่งการพาบอลขึ้นมาแจกจ่ายให้เพื่อนเล่นเกมรุก ก็องเต้ ทำได้ดีโคตรๆ สำหรับผมแล้วนี่คือตัวตัดเกมที่ดีที่สุดในบอลโลกครั้งนี้

ปอล ป็อกบา สลัดทิ้งภาพความเหยาะแหยะ ตอนเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปได้แล้ว กับ ฝรั่งเศส ป็อกบา ดูแข็งแกร่ง ฉลาด จ่ายบอลคม ดึงช้าได้ เล่นเร็วได้ ครบเครื่องขึ้นเยอะครับ

แบลส มาตุยดี้ อีกหนึ่งมิดฟิลด์ ที่ได้รับการยกย่องน้อยกว่าความเป็นจริง เป็น เพชรเม็ดงามที่ ฝรั่งเศสต้องรักษาเอาไว้ให้ดีเลย

อ็องตวน กรีซมันน์ ไว เก่ง ฉลาดเป็นกรด การเคลื่อนที่ของเค้ามีประโยชน์มาก พัฒนาตัวเองขึ้นมาจนยืนอยู่ในระนาบที่ใกล้กับพวกตัวท็อปนอกโลกเข้าไปทุกที

ส่วน คีเลียน เอ็มบัปเป้ เจ้าหนูที่แจ้งเกิดในบอลโลกครั้งนี้แบบเต็มภาคภูมิไปแล้วกับรางวัล ผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของทัวร์นาเม้นต์ ในอายุที่เท่ากัน เอ็มบัปเป้ เป็นคนที่เก่งที่สุดไปแล้ว เทคนิค พละกำลัง และ สปีดเป็นจุดเท่นของ เจ้า “บัปเป้” ตอนนี้เหลือแค่ ชั่วโมงบิน ให้สั่งสมอีกหน่อย เมื่อเวลานั้น มาถึง เอ็มบัปเป้ จะกลายเป็นนักเตะหมายเลขหนึ่งของโลกในอนาคตได้ ไม่ยากเลยครับ

ส่วน โอลิวิเยร์ ชิรูด์ แม้ไม่มีประตู แต่ก็ใช่ว่ากองหน้าจากเชลซี ผู้นี้ไม่มีประโยชน์ บางครั้งกองหน้าไม่ต้องยิงประตูครับ การเคลื่อนที่ การพักบอล หรือการเข้าปะทะ เพื่อสกรีนบอลให้เพื่อนของ หนุ่มเครางามผู้นี้มีประโยชน์สุดๆ ไม่งั้น เดส์ชองส์ ไม่ส่งลงเล่นเป็นตัวจริงทุกนัดที่มีความหมายแน่ๆ

ก่อนจบวันนี้ ไม่พูดถึงพวกเค้าไม่ได้ครับ “โครเอเชีย” ทีมรองแชมป์นั่นเองครับ ก่อนเกมรับตามตรง ผมเชียร์ ฝรั่งเศสนะ แต่พอเริ่มเกมไปได้สักพัก ผมกลับเปลี่ยนใจช่วยพวก โครแอต ซะงั้น

บอลของทีม “ตาหมากรุก” สวยงามครับ เป็นฟุตบอลในแบบฉบับที่ผมชอบมากๆ ที่ชอบที่สุดมี “ลูก้า โมดริช” นักเตะยอดเยี่ยมของบอลโลกครั้งนี้ จอมทัพตัวเล็ก จิ๋วแต่แจ๋ว มีส่วนร่วมกับเกมทั้ง 90 นาที จ่ายลูกฉลาดๆ คมๆ ให้ทีมได้ลุ้นตลอด

อีกคนก็คือ อิวาน เปริซิช ที่การขึ้นเกมจากด้านข้างของเค้าทำให้ทีมได้ลุ้นตลอด และก็เกือบทำให้ทีมมีลุ้นยาวๆ แต่สุดท้ายก็สู้ความแกร่งของฝรั่งเศสไม่ได้

โครเอเชีย ทำได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ของพวกเค้ากับการเป็นรองแชมป์โลก ส่วน ฝรั่งเศส ชุดนี้ ก็สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับฟุตบอลโลกได้สำเร็จเช่นเดียวกัน

วันนี้เป็นบทความชิ้นสุดท้ายนะครับ ต้องขอขอบคุณเจ้าภาพรัสเซียที่จัดฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้ดีที่สุดครั้งนึง ขอบคุณท่านผู้อ่านที่ติดตามอ่านมาตลอดระยะเวลาเดือนกว่าๆ ขอบคุณ TrueID Sports ที่ให้โอกาสผมได้มา “เล่าเรื่องบอลโลก” ในครั้งนี้ด้วย

เจอกันใหม่อีก 4 ปีข้างหน้าครับ

“เอก ฮิมสกุล”

โปรแกรมการแข่งขัน พร้อมช่องถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018

ดูฟุตบอลโลก 2018 ย้อนหลัง เต็มแมตช์  สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าทรู

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports