รีเซต
TRUE TALK : เสียดาย ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์"

TRUE TALK : เสียดาย ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์"

TRUE TALK : เสียดาย ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์"
kentnitipong
27 กรกฎาคม 2561 ( 17:26 )
1.9K

ภาพจำเกี่ยวกับฟุตบอลไทยกับภาพที่ผมเองก็ไม่เข้าใจแต่รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นไมตรีที่แนบแน่นแบบไทยๆ นั่นก็คือ ภาพหลังเกมนอกจากนักเตะจะเดินไปขอบคุณแฟนๆ ทั่วสนามไม่ว่าจะเป็นเกมเหย้า หรือเยือนก็แล้วแต่ ที่สำคัญจะมีช็อตที่ยืนสงบนิ่งฟังเพลงรับกำลังใจจากแฟนบอล ซึ่งก็มอบให้อย่างเต็มที่ไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหน

 

 

จบเกมนักฟุตบอลไม่ต่างจากฮีโร่ของพวกเขา ให้ความรักความเห็นดูไม่ต่างจากญาติมิตร

เรื่องนี้ถือเป็นอีกเสน่ห์ที่มัดใจสตาร์ต่างชาติให้รัก ไทยลีกแบบหัวปักหัวปำแทบทุกรายไม่เคยเจอแบบนี้ โดยเฉพาะพวกบราซิลหรือยุโรป ชาติที่แฟนๆ คลั่งฟุตบอลมากขนาดวันไหนเล่นไม่ดีทีมแพ้อย่าได้ออกจากบ้านไม่อย่างนั้นมื้อเย็นของเขาจะถูกแต้มเติมด้วยคำสบถเป็นแน่ เรื่องนี้ผมได้ยินบ่อยมากทั้งจากปากผู้เล่นหรือเรื่องราวที่ถ่ายทอดในรายการ “ไทยลีกเวิลด์” นี่เป็นเหตุผลหลักที่แข้งต่างชาติรักเมืองไทย

ทีมที่ขึ้นชื่อว่ามีภาพน่าประทับใจกับขนบนี้มากเหลือเกินชนิดไม่เป็นรองใครนั่นคือ “ทัพกิเลนผยอง” ไม่ว่าจะเป็นคลิปวิดิโอที่ส่งต่อออกมาสู่สาธารณะ หรือใครก็ตามหากเข้าไปอยู่บรรยากาศนั้นรับรองขนลุกและจำแม่นไปอีกนานไม่ว่าฐานะนักกีฬาหรือกองเชียร์

ทว่าสุดสัปดาห์นี้แล้วเราไม่ได้เห็นวัฒนธรรมอันดีแบบนั้นอีกแล้ว อย่างน้อยก็ในระยะนี้ จากเหตุการณ์ที่ทุกคนทราบดีว่าเกิดอะไรแต่ไม่อาจทราบได้ว่าอะไรเป็นเหตุดลใจที่ทำให้เจ้าของธงศักดิ์สิทธิ์ โยนมันลงหานักเตะตกแถวกัปตันทีม สารัช อยู่เย็น พร้อมเสียงกร่นตัดพ้อต่อว่ามากมาย

นั่นคือเรื่องดังหลังจบเกมวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2561 เกมที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด นำก่อนแต่โดนทีมโซนหนีตกชั้นยิงคืนสามลูก แพ้ บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-3 ผลที่ตามมาก็คือ ไทยลีก ยื่นหนังสือตรงสู่ทุกสโมสรให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งให้เก็บภาพหากมีอะไรเกิดขึ้น โดยแฟนบอลทุกคนต้องไม่ปิดบังหน้า รวมทั้งแสดงตนอย่างชัดเจนทั้งระหว่างก่อนแข่ง ระหว่างแข่ง และหลังแข่ง เพื่อให้มาตรการรักษาความปลอดภัยสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่

ขณะที่เมืองทองเองประกาศลดขั้นตอนเหลือการให้นักเตะเดินรอบสนามไปขอบคุณแฟนบอลเท่านั้นเรื่องดังกล่าวเริ่มทำมาแ ล้วในฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ เกมพบ สิงห์ เชียงรายฯ และยังไม่มีกำหนดปลดคำสั่งดังกล่าว

ไม่รู้หละว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดจากอะไร ความอัดอั้นตันใจที่สั่งสมไว้นานขนาดไหน อารมณ์ในเกมน่าผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า นักเตะตัวหลักเดินออกจากทีมไปทีละรายสองรายคนใหม่ที่เข้ามาไม่ได้สร้างความแตกต่างจนเปลี่ยนเป็นความหวังได้แต่อย่างใด หลายเกมที่มองไปม้านั่งสำรองเต็มไปด้วยนักเตะอายุไม่เกิน 23 บ้าง ยู 21 บ้าง ที่คาตาคือ 7 จาก 9 รายก็มีมาแล้ว ยิ่งสถานการณ์ในตารางก็ดูไม่จืด นอกจากจะเห็นคู่ปรับตลดกาลอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โกยแต้มหนีไม่เห็นฝุ่นพร้อมจะเข้าเส้นชัยรับแชมป์อีกสมัย อันดับตัวเองก็ร่วงหล่นวนเวียน อันดับ 4-6 ย่อมปวดใจ

ส่วนมุมมองที่เห็นนักเตะตนเองไม่เต็มที่ ไม่ทุ่มเท เล่นไม่ดี ไม่กระตุ้นเพื่อนเรื่องนี้ก็สุดแท้แต่ความรู้สึกในการติดตามของกลุ่มแฟนเป็นเรื่องที่ต้องเคารพซึ่งกัน และกัน ทว่าการโยนของใส่ขว้างของใส่ย่อมเป็นเรื่องล้ำเส้นดังที่มีมาตรการออกมา

เรื่องนี้ทำให้ผมย้อนนึกไปถึงช่วงทำสัมภาษณ์กุนซือทีมชาติไทย คนไทยที่เข้ามารับเผือกร้อนพาทีมชาติไทยยุควิกฤติศรัทธามากที่สุดอีกครั้งในช่วงชีวิตผู้เขียนทันเห็น กุนซือที่เป็นฮีโร่ของไทยเราคุยกับผมในมุมที่มีต่อแฟนบอลไว้หลลายเรื่องน่าสนใจ แม้เวลาจะผ่านไปกว่าครึ่งทศวรรษก็ยังดูเข้าเค้า

เราคุยกันถึงความรู้สึกที่แฟนบอลรักทีมมากจนหวงแหนจนรู้สึกเป็นเจ้าของ มันเป็นเรื่องดีใช่ไหมภาพที่แฟนบอลเสียใจแล้วด่าทอขว้างปาแสดงออกใส่นักเตะลึกๆ มันเป็นเรื่องดีใช่ไหม กุนซือฮีโร่คนนั้นตอบอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาไม่เห็นพ้องเสียงทีเดียวใจหลักสำคัญของในครั้งนั้นก็คือ

“ถ้าคุณแฟนบอลที่ยอมจ่ายเงินซื้อตั๋ว ซื้อของที่ระลึก ถือเป็นการสนับสนุนทีมที่ดีเยี่ยม แต่ความคิดว่าคุณเป็นเจ้าของสโมสรด้วยคงคิดผิด คุณไม่ใช่เป็นเจ้าของสโมสร คุณจ่ายเงินซื้อตั๋วเพื่อแลกสิทธิเก้าอี้ 1 ตัวบนอัฒจันทร์ ถ้าไม่พอใจ ก็ไม่มีสิทธิวิ่งลงไปต่อยใครขว้างปาอะไร กรอบเขามีอยู่ต้องเคารพกัน ที่ประเทศอื่น หากละเมิด มันผิดทั้งกฏหมาย ทั้งสมาคมก็ต้องเข้ามาลงโทษทีม”

“อยากวิจารณ์การทำงานของโค้ช อยากเสนอให้เปลี่ยนตัว อะไรทำนองนั้น ทำไมไม่เล่นแบบโน้นแบบนี้ ทำไมไม่ซื้อนักเตะคนนั้นละ เรื่องนี้วิจารณ์ได้ แต่ก็ไม่ใช่หน้าที่”

ใช่ครับเขาว่าแบบนั้นซึ่งก็จริง ต่อให้รักหรือทุ่มเทมากขนาดไหนก็ไม่มีสิทธิไปทำร้ายใคร ไม่มีนักกีฬาคนไหนสมควรเจอเหตุการณ์แบบนั้นไม่ว่าพฤติกรรมนอกสนาม หรือผลงานจะแย่แค่ไหนก็ตาม แต่ใช่ว่าแฟนบอลจะไม่มีสิทธิตอบโต้เมื่อรู้สึกได้ผลตอบแทนการสนับสนุนที่ไม่เต็มที่ไม่ทุ่มเท

การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์โห่ใส่ โห่ไล่ไปจนถึง ไม่เข้าสนามยังเป็นสิทธิที่ชอบธรรมเป็นการโต้ตอบอย่างอารยะอยู่ในขอบเขตที่สวยงาม แต่จะได้ผลตรงใจหรือไม่คงต้องรอพิสูจน์ ซึ่งประวัติศาสตร์ลูกหนังก็มีทีมอัฒจันทร์ร้างจนต้องปรับทีมปรับทัศนคติกันทั้งองค์กรก็มีไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะสุดท้ายทีมบริหาร นักเตะ และแฟนบอลต่างผูกพันกันจนแยกไม่ออกเพราะมันพันไว้มากประเด็น

แน่นอนว่าผลประโยชน์คือหนึ่งในนั้น

แล้วสาเหตุของเรื่องนี้ละมันมาจากไหน ตอบยากจริงๆ บางทีก็อยากให้เรื่องเรื่องง่ายๆ เลยตามเลยแบบธงหลุดมือ เมา หรืออะไรที่ไม่เป็นประเด็น

หรือมันจะเป็นเรื่องง่ายๆ แค่ไม่ยอมรับ

ไม่อยากยอมรับผลการแข่งขัน คาดหวังผลงานทีมมาก จนอาจลืมว่าฟุตบอลมันคือกีฬา มีทั้งแพ้มีชนะ คนเล่นเองเขายังไม่รู้เลยว่าจะชนะไหม พวกเขาทำได้แค่เตรียมความพร้อมมาให้ดีที่สุด หากคาดหวังจะชนะอย่างเดียว หรือตั้งธงมาจากบ้านเลย ว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นแน่ๆ ลืมไปว่าแท้จริงแล้วเมื่อครั้งแรกฟุตบอล Serve อะไรให้คุณ

หากเป็นแบบนั้นก็น่าเสียดาย เสียดายที่เรื่องร้ายไม่น่ามองมันมาจากวิธีคิดนั่นเอง

“ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์”

 

อัพเดท ตลาดซื้อขายนักเตะ พรีเมียร์ลีก 2018/19

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID

ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้