TRUE TALK : 5 สิ่งที่เรารู้หลังผ่าน พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 3 ... by "Mr.BOSTON"
มีอะไรเกิดขึ้นมากมายหลังเกมพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 3 โดยเฉพาะเรื่องของทีมในโซนลุ้นแชมป์ และโซนทีมใหญ่ในบรรดา Big 6 ทั้ง 6 ทีม และนี่เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุด 5 เรื่องที่ผมเก็บมาฝากทุกคนครับ
ดวงแชมป์ที่เปลี่ยนไป
ชมคลิปไฮไลท์ ลิเวอร์พูล vs ไบรท์ตัน
คลิก !!!
นอกจากฝีมือแล้ว ทีมที่จะเป็นแชมป์ในฟุตบอลลีกได้ ใม่ว่าลีกใด มักจะมีสิ่งที่เรียกว่า “ดวง” คอยเกื้อหนุนด้วย และสิ่งนี้ เราเห็นได้จาก ลิเวอร์พูล ในเกมล่าสุดที่เปิดบ้านเอาชนะ ไบรท์ตันแบบหืดขึ้นคอที่ แอนฟิลด์
แน่นอนว่าเกมนี้ ลิเวอร์พูล เล่นดีกว่าเห็นๆ แบบไม่ต้องสืบ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ลิเวอร์พูล ที่ชนะได้ก็เพราะมีดวงช่วยเช่นกัน เพราะจังหวะที่พวกเขาทำประตูขึ้นนำ (และเป็นประตูชัยในเวลาต่อมา) มีความผิดพลาดกันเองของ ไบรท์ตัน เป็นส่วนประกอบของประตูด้วย
ตรงกันข้ามกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำได้แค่เสมอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-1
เกมนี้ พวกเขาอาจจะเล่นไม่ดีก่อนจนเสียประตู แต่ในครึ่งหลัง คงปฏิเสธยากว่าทีม “เรือใบสีฟ้า” เล่นได้ดีกว่าแบบเทียบกันไม่ติด หากแต่พวกเขาไม่สามารถหาประตูชัยพบ เพราะยิงไปชนทั้งเสา และคานเป็นส่วนใหญ่ แถมอยู่ดีๆ รุย ปาทริซิโอ้ ที่โดนไปแล้ว 5 ประตู ก็เหนียวขึ้นมาอย่างกับ วากาบายาชิ ยิงยังไงก็ไม่เข้าไปซะงั้น
หรือนี่อาจจะสื่อถึงดวงแชมป์ที่เปลี่ยนไปแล้วกันแน่ ?
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์… เรื่อยๆ มาเรียงๆ
ชมคลิปไฮไลท์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด vs สเปอร์ส
คลิก !!!
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อาจจะไม่ได้เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนที่ “ปีศาจแดง” ฟอร์มดีที่สุด แต่การมาเอาชนะทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ได้ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด แสดงว่าพวกเขาพร้อมจะท้าชนกับทีมระดับท็อป 6 แล้วในปีนี้ หลังจากที่ สเปอร์ส มักเป็นลูกไล่ในบรรดา 6 ทีมมาตลอด
นอกจากนี้ การบุกมาชนะ ยูไนเต็ด ได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ 1 มกราคม ปี 2014 หรือในรอบเกือบ 5 ปี มันจะยังเพิ่งความมั่นใจให้ทีม “ไก่เดือยทอง” อย่างไม่ต้องสงสัยอีกด้วย
แถมจากการปลดล็อกของ แฮร์รี่ เคน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เขาสามารถทำประตูได้อย่างต่อเนื่องในนัดนี้ และเป็นประตูสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาขึ้นนำได้ด้วย แบบนี้แล้ว เราไม่สามารถจินตนาการความน่ากลัวในฟอร์มการเล่นของเขานับจากนี้เลยนได้
สเปอร์ส จึงน่ากลัวไม่น้อยทีเดียว ทั้งที่พวกเขาเล่นเหมือน “เรื่อยๆ เรียงๆ” แต่ก็ชนะได้รัวๆ เช่นกัน
“ซาร์รี่ – บอล” ของดีที่ต้องจับตามอง
ชมคลิปไฮไลท์ นิวคาสเซิ่ล vs เชลซี
คลิก !!!
การไปเยือน เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ไม่เคยเป็นงานง่ายของทีม Big 6 โดยในปีที่แล้ว 3 ทีมใหญ่มาแพ้ที่นี่ และมีอีก 1 เสมอ โดยมีเพียง 2 ทีมเก็บชัยออกไปจากสนามแห่งนี้ได้เท่านั้น คือ ท็อตแน่มฯ และ ซิตี้ ดังนั้น เมาริซิโอ ซาร์รี่ ไม่ได้คาดหวังจะเจอเกมง่ายในนัดนี้อยู่แล้ว
และยิ่งมาเจอกับแผนของหลัง 5 คน ของ ราฟาเอล เบนิเตซ ทำให้ ซาร์รี่ รับสารภาพหลังเกมว่า “อึ้ง” แต่ถึงจะ “อึ้ง” ยังไง ทีมของ ซาร์รี่ ก็ทำได้ดีพอที่จะเก็บ 3 คะแนนออกไปได้ และกลายเป็นอีกทีมที่เก็บชัยได้ 3 นัดรวดจนเป็นหนึ่งในทีมนำตอนนี้ (ถึงแม้จะตามหลังประตูได้เสียต่อ สเปอร์ส และ ลิเวอร์พูล ก็ตาม)
“ซาร์รี่ บอล” ถูกพูดถึงมากขึ้น ในการทำเกมที่สนุก ดูเพลิน และมันส์ โดยเฉพาะการเล่นร่วมกันของแผงกองกลาง – แดนหน้าที่ดูไหลลื่น และเนียนตา ซึ่งต้องยกนิ้วให้จริงๆ ต้องมาดูว่า หลังจากนี้ เชลซี จะรักษาฟอร์มแบบนี้ไปได้นานแค่ไหน ?
3 คะแนนแรกของ เอเมรี่
ชมคลิปไฮไลท์ อาร์เซน่อล vs เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
คลิก !!!
ว่ากันตามตรง ในเกมที่แพ้ เชลซี นั้น อาร์เซน่อล ของ อูไน เอเมรี่ ก็ไม่ได้เล่นแย่นัก และถือว่าเล่นดีกว่าในนัดที่เจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมแรกแบบก้าวกระโดดด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ที่พวกเขาจะสามารถเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้ในบ้านไม่ยาก
สิ่งที่ต้องยกนิ้วให้ เอเมรี่ คือความกล้าตัดสินใจ โดย 3 นัดที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนตัวก่อนนาทีที่ 60 ถึง 4 คน โดย 2 ใน 4 เป็นการเปลี่ยนตัวก่อนเริ่มครึ่งหลังทันทีด้วย นอกจากนี้ เขายังกล้าดร็อปคนที่เล่นไม่ดีในนัดก่อนๆ อย่าง อารอน แรมซี่ หรือ เมซุต โอซิล ไว้ที่ข้างสนามอีกด้วย ถึงแม้เขาจะออกมาแจงว่า ที่ดร็อป โอซิล เพราะนักเตะป่วยก็ตาม
สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาด และความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ซึ่งเราไม่เคยเห็นในยุคของเวนเกอร์ และเชื่อว่าถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป ทิศทางของ อาร์เซน่อล จะยิ่งดีขึ้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
มูรินโญ่ หัวร้อน
Hot Topic และ Talk of the town ของสัปดาห์ที่ 3 ตกเป็นของ โชเซ่ มูรินโญ่ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของเขา อันที่จริงแล้ว เรื่องในห้องแถลงข่าวก็น่าเห็นใจกุนซือ “ปีศาจแดง” คนนี้เหมือนกัน ถึงแม้ทีมจะแพ้ยับเยิน แต่ถ้าใครดูเกม ก็จะเห็นว่า พวกเขาไม่ได้แพ้ในส่วนของรูปเกมเลย… หนักไปทางเล่นดีด้วยซ้ำไป บุกใส่ ไม่รถบัส และเล่นสนุกทีเดียว
สิ่งที่ทำให้พวกเขาแพ้ คือความเฉียบคมต่างหาก จังหวะที่ โรเมลู ลูกากู หลุดเดี่ยวไป ถ้าเขายิงได้ เกมคงออกมาอีกแบบหนึ่ง และ ยูไนเต็ด อาจไม่แพ้ แต่พอทำไม่ได้ ผลก็ออกมาอย่างที่เห็น
นอกจากนี้ ยังเป็นที่รู้ ๆ กันว่า สื่อมวลชนของอังกฤษ เป็น “สื่อเสี้ยม” ที่รอรุมยำแหล่งข่าวได้โหดร้ายทารุณที่สุดในบรรดา 4 ลีกใหญ่ ดังนั้นทั้งสถานการณ์ และบรรยากาศที่เจอต่างๆ นานา จะทำให้ “จ่ามู” หัวร้อนก็ไม่แปลก ส่วนเรื่อง ควร หรือ ไม่ควร ที่จะแสดงออกอย่างนั้น ก็ว่ากันไป
ทว่า ถ้าพูดถึงฟอร์มนัดล่าสุดของ ยูไนเต็ด จริงๆ แล้ว พวกเขายังคงความเป็น Big 6 ต่อไปได้ไม่ยาก แต่อย่างว่า บอลแพ้ อะไรๆ ก็แย่ไปหมดก็เท่านั้น ดังนั้น สิ่งที่พวกเขาต้องรีบมองหาให้เจอคือ ชัยชนะ ยิ่งชนะขาดเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะถ้าทำได้ พวกเขาคงกลับมาเป็นยักษ์ไม่ยากเลย
“Mr.BOSTON”
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports