TRUE TALK : เซเรน่า - ดราม่า - สู่ปัญหาความเท่าเทียมทางเพศ ... by "Mr.BOSTON"
จากเกมนัดชิงชนะเลิศ เทนนิส แกรนด์สแลมสุดท้ายของปีเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาที่ นาโอมิ โอซากะ กลายเป็นนักเทนนิสญี่ปุ่นคนแรก ที่คว้าแชมป์นี้ไปครองได้สำเร็จ กลับพ่วงมาด้วยดราม่า เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ ที่คว้าโดนเตือน, ตัดแต้ม และปรับเกม จนกลายมาสู่ปัญหาใหญ่เรื่องการเหยียดเพศ และสู้เพื่อสิทธิสตรีในที่สุด
โค้ชชิ่ง ไวโอเลชั่น-แร็คเก็ต ไวโอเลชั่น สู่การตราหน้าเป็นโจร
จริงๆ แมตช์นี้ระหว่าง โอซากะ และเซเรน่า ควรจะเป็นแมตช์ที่งดงาม และสมศักดิ์ศรี ด้วยความที่ โอซากะ ก็ถือ เซเรน่า เป็นไอดอล และฝันมาตลอดว่าอยากมาชม หรือมาเล่นกับเธอใน ยูเอส โอเพ่น แกรนด์สแลมในประเทศที่เธอเติมโตขึ้นมา แต่ว่าชั่ววินาทีที่ แพทริก มูราโตกลู ทำท่าแปลกๆ เหมือนส่งสัญญาณให้ เซเรน่า ความดราม่าก็บังเกิดทันที
ไม่มีใครรู้ว่า มูราโตกลู ตั้งใจส่งสัญญาณให้ เซเรน่า จริงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เซเรน่า คงไม่เห็นสัญญาณดัง ซึ่งมันทำให้เธอโมโหมากที่ คาร์ลอส รามอส แชร์ อัมไพร์ สั่งเตือนเธอในกรณีโค้ชชิ่ง ไวโอเลชั่น หรือมีการโค้ชกันระหว่างการแข่งขัน จนเธอเดินไปเถียงกับ รามอส อย่างหนัก ก่อนกลับมาเล่นต่อ
หลังจากนั้น เมื่อเธอมาหงุดงหงิดจากฟอร์มการเล่นของตัวเอง ทำให้เธอตัดสินใจฟาดแร็กเก็ต ลงพื้นจนเสียหาย นั่นเองทำให้เธอทำผิดกฎอีกครั้งในข้อหา แร็กเก็ต ไวโอเลชั่น และโดนปรับหนึ่งแต้มในเกมเสิร์ฟต่อไป แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะเธอมองว่า เธอไม่ควรเสีย โค้ชชิ่ง ไวโอเลชั่น ในตอนแรก เธอมองว่า ถ้ากรรมการไม่ตัดสินให้เธอถูกโค้ชชิ่ง ไวโอเลชั่น หลังจากฟาดแร็คเก็ต เธอจะโดนแค่เตือนเท่านั้น
และความพีคมาถึงขีดสุดเมื่อเธอมาเสียเกมเสิร์ฟอีกเกม และระหว่างนั่งพัก เธอก็ยังบ่น อัมไพร์ รามอส ไม่หยุด โดยก่อนที่จะลงไปเล่นเกมต่อไป เธอตัดสินใจเดินไปหา รามอส ก่อนกล่าวกับเขาว่า
“คุณมาทำลายภาพลักษณ์ของฉัน
คุณมันคนโกหก
คุณจะไม่ได้มาทำหน้าที่ในคอร์ทที่ฉันเล่นอีกต่อไป
พูดสิ ว่าคุณเสียใจ, กล้าดียังไงที่มาตัดสินว่าฉันโกง
คุณขโมยคะแนนไปจากฉัน คุณมันก็โจรเหมือนกันนั่นแหละ”
ประโยคด้านบนนั้นเอง ที่ทำให้ คาร์ลอส รามอส ตันสินใจ หักเธอ 1 เกม จนเธอตามหลัง 5-3 และทำให้เธอไม่พอใจอย่างยิ่ง ส่วนผลการแข่งขัน ก็เป็นอย่างที่รู้กัน
แมตช์จบแบบมืออาชีพ แต่ยังค้างคาใจ
หลังคะแนนสุดท้ายตบลง นาโอมิ โอซากะ คว้าแชมป์ได้ด้วยชัยชนะ 2 เชตรวด สกอร์ 6-2 และ 6-4 เซเรน่า ก็ยังคงเป็นนักกีฬาที่ดี และรุ่นพี่ที่น่ารัก เมื่อเดินเข้ามาจับมือ โอบกอด รวมไปถึงแสดงความยินดีกับเธอ แต่ทว่าเธอเดินผ่าน แชร์ อัมไพร์ อย่าง รามอส ไปโดยไม่สนใจ และไม่มีการจับมือกับอัมไพร์ตามธรรมเนียม
ในพิธีฉลองถ้วยรางวัลหลังเกม เซเรน่า ได้แสดงให้เห็นว่า ทำไมเธอเป็นนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ ถึงแม้เธอจะร้องให้ เพราะเจ็บใจ ที่คิดว่าเธอโดนปฏิบัติอย่างอยุติธรรม แต่เธอก็ได้เรียกร้องให้แฟนๆ หยุดส่งเสี่ยงโห่ เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ โอซากะ นอกจากนี้ เธอยังยอมรับในเวลาต่อมาว่า หากสู้กันโดยไม่มีเหตุการณ์นี้มาเกี่ยวข้อง ชัยชนะก็ยังจะเป็นของดาวรุ่งวัย 20 ปีอีกด้วย
คนที่น่าสงสารที่สุด กลับเป็นสาวน้อยจากแดนอาทิตย์อุทัย เธอกล่าวตอนรับมอบถ้วยรางวัลว่า เธอรู้ดีว่าทุกคนที่นี่ (ฟลัชชั่ง เมโดว์ นครนิวยอร์ก) เดินทางเพื่อมาเชียร์ เซเรน่า และเธอก็ขอโทษที่แมตช์ ออกมาเป็นแบบนี้… ซึ่งนั่นไม่ใช่ความผิดของเธอเลย และเธอก็ร้องไห้ออกมา จนเป็นที่เอ็นดูของผู้ชมใน อาเธอร์ แอช สเตเดี้ยม จนได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้อง และทำให้พิธีมอบถ้วยรางวัลเป็นไปด้วยดี
ระเบิดลูกใหม่ ในห้องแถลงข่าว
หลังจากพิธีมอบรางวัลจบลง ทุกอย่างดูเหมือนจะสงบ แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อแชมป์แกรนด์สแลม 23 สมัย ออกมากล่าวถึงประเด็นนี้ต่อในงานแถลงข่าวหลังเกม ซึ่งมันทำให้เรื่องนี้ เป็นประเด็นที่ใหญ่กว่าการแข่งขันเทนนิสไปไกลมากเลยทีเดียว
เธอกล่าวว่า “ฉันเคยเห็นคนอื่นพูดถึงอัมไพร์ในหลายๆ เรื่อง ฉันอยู่ที่นี่ เพื่อต่อสู่เพื่อสิทธิสตรี และความเท่าเทียมของผู้หญิง รวมไปถึงทุกเรื่องที่เกี่ยวข้อง สำหรับฉันแล้ว ที่บอกว่า “โจร” และ เขาสั่งปรับเกมจากฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกไม่ได้รับความเท่าเทียมทางเพศ เขาไม่เคยสั่งปรับเกมจากนัดเทนนิสผู้ชายเพราะว่าเขากล่าวหาว่า “เป็นโจร”
“มันทำให้ฉันตะลึงไปเลย” วิลเลี่ยมส์ กล่าว “แต่ฉันก็ตั้งใจจะเล่นต่อไปเพื่อต่อสู้ในนามของผู้หญิง”
คำพูดดังกล่าวของ เซเรน่า ได้รับคำสนับสนุนจากนักเทนนิสหญิงในวงการหลายคน รวมไปถึง วิคตอเรีย อาซาเรนก้า และ ตำนานอย่าง บิลลี่ จีน คิง ด้วย
อาซาเรนก้า เจ้าของแชมป์ ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น 2 สมัย กล่าวผ่านทวิตเตอร์ เห็นด้วยกับ เซเรน่า โดยกล่าวว่า “ถ้ามันเป็นแมตช์ของผู้ชาย มันจะไม่เป็นแบบนี้ มันจะไม่เกิดแน่นอน”
ด้าน บิลลี่ จีน คิง เจ้าของตำนาน “แบทเทิล ออฟ เดอะ เซ็กเซสต์” ที่เอาชนะนักเทนนิสชายได้ในอดีต แถมยังเป็นเจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 12 สมัย และเป็นหนึ่งในคนที่เคยรณรงค์ให้นักเทนนิสหญิง ได้เงินรางวัลเท่ากับนักเทนนิสชายในการแข่งขัน ทวิตเตอร์เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกันว่า
“มีหลายสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นในการแข่งขันเทนนิส ยูเอส โอเพ่น รอบชิงชนะเลิศวันนี้, การโค้ชชิ่งระหว่างการแข่งขันควรได้รับอนุญาตในการแข่งเทนนิส มันไม่ได้ส่งผลถึงการแข่งขันเลย และการที่ นักกีฬา ต้องมาถูกลงโทษจากการกระทำของโค้ช มันไม่ควรเกิดขึ้น
เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งมีอารมณ์ เธอจะ ‘ตีโพยตีพาย’ และเธอก็โดนลงโทษ แต่เมื่อผู้ชายทำในสิ่งเดียวกัน พวกเขากลายเป็นคนที่ ‘ตรงไปตรงมา’ และไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ขอบคุณ (เซเรน่า วิลเลียมส์) สำหรับการพูดถึงเรื่อง 2 มาตรฐาน อาจจะมีเสียงอีกมากขึ้น มาพูดถึงการกระทำสิ่งนี้อีกก็ได้”
โดยนี่ เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของความเห็นที่ออกมา แต่ก็สามารถอธิบายความคิดอะไรบางอย่างได้ชัดเจนแล้ว
ความเท่าเทียมกับเทนนิส พูดยาก เถียงไม่จบ
ก่อนหน้านี้ โลกเทนนิส เคยมีดราม่า เรื่องเงินรางวัลที่ไม่เท่ากันระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย จนทำให้มีดราม่าครั้งใหญ่ และมีนักเทนนิส ฝ่ายชาย และฝ่ายหญิงก็เคยออกมาเถียงกันเรื่องนี้จนเกือบจะมีปัญหาไปแล้วครั้งหนึ่งด้วย
เหตุการณ์ดังกล่าว จบลงที่มีการตกลงกันระหว่าง เอทีพี และดับเบิ้ลยูทีเอ ให้ฝ่ายชาย และ หญิงได้รับเงินรางวัลเท่าเทียมกันในทุกรายการที่มีการแข่งขันทั้งฝ่ายชาย และหญิง ซึ่งนั้นถือเป็นชัยชนะของนักเทนนิสหญิงของโลกเสรีนิยม และทำให้เรื่องเงียบมาพักใหญ่
ไม่รู้ว่า การจุดประเด็นครั้งนี้ของ เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ จะทำให้ประเด็นความบาดหมางของเรื่องความเท่าเทียมถูกขุดมาพูดกันอีกครั้งหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ความปวดหัวในรายการต่อไป ตกไปอยู่กับ แชร์ อัมไพร์ แน่ๆ
เป็นกรรมการก็ลำบากนะครับ… ตัดสินดีก็เท่าตัว ตัดสินชั่วนี่จมดินจริง ๆ
Mr. BOSTON
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports