รีเซต
TRUE TALK : เร่งด่วน !!! 5 ปัญหาหลักที่ ทีมชาติไทย ยู-19 ต้องจัดการ ... by "จอน"

TRUE TALK : เร่งด่วน !!! 5 ปัญหาหลักที่ ทีมชาติไทย ยู-19 ต้องจัดการ ... by "จอน"

TRUE TALK : เร่งด่วน !!! 5 ปัญหาหลักที่ ทีมชาติไทย ยู-19 ต้องจัดการ ... by "จอน"
kentnitipong
12 กันยายน 2561 ( 14:16 )
2.6K

1 เดือน กับอีก 1 สัปดาห์ กับการนับถอยหลังสู่การแข่งขันฟุตบอล ยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย 2018 ซึ่งทีมชาติไทย อยู่กลุ่ม บี ร่วมกับ ญี่ปุ่น, อิรัก และ เกาหลีเหนือ สามชาติจากเอเชียที่เคยผ่านการลงเล่นฟุตบอลโลก ยู-20 มาแล้วทั้งสิ้น

 

 

เป็นคู่แข่งที่หินแบบสุดๆ…

แต่ที่หินยิ่งกว่า นั่นคือ ฟอร์มการเล่นภาพรวมของทีมชุดนี้ ที่เรียกได้ว่า “ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงอีกเยอะเลย”

การจบอันดับที่ 4 ในการแข่งขัน ยู-19 ชิงแชมป์อาเซียน 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ทั้งที่เป็นแชมป์เก่า ตามด้วยทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องในบ้านอย่าง GSB Bangkok Cup 2018 ก็จบอันดับสุดท้ายของรายการ โดยไม่สามารถเอาชนะใครได้เลย (เสมอ จอร์แดน 2-2, แพ้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 0-1 และ แพ้ จีน 0-1)

ผมได้โอกาสชมเกมแบบเต็มๆ สองนัดทั้งการเสมอ จอร์แดน 2-2 แบบเปียกปอน และสะบักสะบอม กับเกมล่าสุดที่พ่ายให้กับทีมชาติจีน 0-1 ซึ่งผมได้เห็นปัญหา 5 สิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมช้างศึกจูเนียร์ชุดนี้

และนี่คือปัญหาเหล่านั้น…

 

ขาดย้า เหมือนขาดใจ

สองประตูที่ทีมชาติไทยทำได้ในทัวร์นาเมนต์นี้ เกิดจากคนๆ เดียว จากเกมๆ เดียว นั่นคือ สิทธิโชค ภาโส กองหน้าดาวรุ่งของ ชลบุรี เอฟซี ที่ซัดคนเดียวสองประตู

“เก็บบอลได้, เล่นบอลได้สองเท้า, เลี้ยงกินตัวได้, จบสกอร์คม, ฉลาดเล่นฉลาดเลือก, ครบเครื่องเรื่องศูนย์หน้า”

นี่คือสิ่งที่ “ย้า” อดีตนักเตะดีกรีทีมในเจลีกสาม มีอยู่ในตัว พรสวรรค์ของเขาสามารถช่วยทีมได้เยอะ ดูได้จากเกมกับ จอร์แดน และเมื่อบวกกับวันเดอร์คิดในแนวรุกอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา เพลย์เมกเกอร์จาก เชียงใหม่ เอฟซี ซึ่งทั้งคู่เล่นด้วยกันเมื่อคราวรอบคัดเลือก ชิงแชมป์เอเชีย เมื่อปีที่แล้ว

มันจึงดูสมูธอย่างสมบูรณ์…

แต่กับสองเกมหลังของศึก GSB Bangkok Cup 2018 ที่ขาดทั้งสองคน โดยเฉพาะ “ย้า” นั้น เรียกได้ว่า แทบจะหมดไอเดียในการเข้าทำ และยังไม่มีตัวเก็บบอลที่ดี จบสกอร์ที่ยอดเยี่ยมได้เท่ากับ “ย้า” เลย

ฉะนั้น ในรอบสุดท้าย จะไม่มี “ย้า” ไม่ได้เลยเด็ดขาด (รวมถึง เจ้าบุ๊ค ด้วย)

 

ขาด “และห์” ก็ไม่ได้

มาดูกันที่กองหลังกันบ้าง ต้องยอมรับจริงๆ ว่า กิตติพงษ์ แสนสนิท (เซนเตอร์ฮาล์ฟฝั่งซ้าย), กิตติธัช ประนิธิ (เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวกลาง) และ กฤษณะ ดาวกระจาย (เซนเตอร์ฮาล์ฟฝั่งขวา) สามเซนเตอร์ในเกมกับจีน รวมถึง ศรัญญู พลางวัล (เซนเตอร์ขวา ในเกมกับ จอร์แดน) ยังต้องปรับเรื่องการเข้าบอล และความนิ่งอีกพอสมควร

จากรายชื่อทั้งหมดนั้น ทำให้คิดไปถึงกองหลังที่เป็นตัวหลักที่สุดของทีมชุดนี้ ที่น้อยครั้งจะถูกปล่อยตัวมาร่วมทีมในเกมที่ไม่ใช่ออฟฟิเชี่ยล เพราะยึดตัวหลักได้แล้วในทีม ชลบุรี เอฟซี ทั้งที่อายุเพียง 19 ปี เอง นั่นคือ “กฤษฎา กาแมน”

กฤษฎา หรือที่ใครหลายคนตั้งฉายาว่าเป็น “เซนเตอร์ควอเตอร์แบ็ค” เพราะเขามีทีเด็ดในเรื่องความนิ่ง การเปิดบอลระยะยาว เปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้ดีมากๆ แถมยังเติมเกมขึ้นมายิงไกล และยิงฟรีคิกได้ดีอีกด้วย

นอกจาก “เจ้าและห์” แล้ว อีกรายที่ต้องลุ้นให้ฟิต 100% ทันเกมรอบชิงแชมป์เอเชีย ในส่วนของตำแหน่งกองหลัง นั่นคือ คีรอน อ้อนชัยภูมิ อดีตกองหลังของโรงเรียนเทพศิรินทร์

หากได้เจ้าและห์ และ คีรอน มาเติมเต็ม ผมเชื่อว่า เกมรับที่ดูขาดสมาธิ ยังไม่นิ่งพอ จะดูดีขึ้นอย่างแน่นอน

 

ระบบกองหลัง 3 คน

นับตั้งแต่ที่ “โค้ชหระ” อิสระ ศรีทะโร เข้ามาคุมทัพนั้น เขาเลือกใช้ระบบกองหลังสามคน และมีวิงแบ็คด้านข้าง 2 ฝั่งทางกราบ ซึ่งเป็นระบบที่สร้างความสำเร็จให้กับสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในทุกชุด ทั้งชุดใหญ่ รวมถึงการคว้าแชมป์ โค้กคัพ (ยู-19) จากฝีมือของ “โค้ชหระ” เองด้วย

ทว่า การเข้ามาทำทีมชาติไทย ชุด ยู-19 นั้น ความแตกต่างก็คือ เด็กบางราย มาจากอะคาเดมี่ต่างที่กัน ทำให้การซึมซับระบบการเล่น 3-5-2 นั้น เป็นสิ่งที่เขาต้องเรียนรู้ใหม่ เพราะอะคาเดมี่ส่วนใหญ่ของทีมในไทยนั้น เล่นระบบกองหลัง 4 คน (รวมถึงทีมชาติไทย ชุด ยู-19 ที่ มาร์ค อลาเบดร้า ทำทีมในรอบคัดเลือกของศึก ยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย 2018 ด้วย)

ความเข้าใจเกม, การยืนซ้อนตัว, การเข้าบอล, การวิ่งทำทาง, การวิ่งตัวเปล่าคนเดียวของผู้เล่นทางด้านกราบ หลายต่อหลายสิ่งที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่า นักเตะเองก็ยังไม่คุ้นชินนักกับระบบนี้ และความคุ้มเสี่ยงกับผลงานที่จะเกิดขึ้นจริง ก็นับว่า เป็นสิ่งที่น่าคิดมากๆ

 

ยู-19 ที่ดีที่สุดแล้วจริงๆ หรือไม่ ?

มีคำถามมากมายจากเหล่าแฟนบอลว่า นักเตะชุดที่สามารถคว้าแชมป์ ยู-18 ชิงแชมป์อาเซียน 2017 และผ่านหิมะหนักอากาศหนาวจัดในการคัดเลือก ยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย 2018 รอบคัดเลือก นั้น หายไปไหนหลายต่อหลายคน

นรากร นุ่มจันทร์สกุล กองกลางจาก ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
จตุรพัช สัทธรรม แบ็คซ้ายที่เคยลงสนามในไทยลีกมาแล้วให้กับ ชัยนาท ฮอร์นบิล และเคยถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทย ในชุด อายุไม่เกิน 21 ปี
กัณตพัชห์ มันปาติ ผู้รักษาประตูดีกรี ฟ็อกซ์ฮันท์ จาก โปลิศ เทโร เอฟซี
ธีรภัทร เลาหบุตร กองหลังจากอะคาเดมี่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
ฯลฯ

นักเตะเหล่านี้จากชุดที่ มาร์ค อลาเบดร้า ทำทีมหายไปไหน เหล่าแฟนบอลมากมาย เพียงอยากให้ต่อยอดในสิ่งที่เคยมีไว้ ให้มันดีขึ้น ไม่ใช่เมื่อเปลี่ยนโค้ชแล้ว ทุกสิ่งอย่าง ต้องเริ่มใหม่หมด…

 

ขาดการซ้อมแบบฟูลทีม

ทีมชาติไทย ชุดตกรอบแรก เอเชียนเกมส์ 2018 คือบทเรียนสุดยิ่งใหญ่ที่บ่งบอกว่า “แม้จะมีนักเตะที่ยอดเยี่ยม มากมายแค่ไหน แต่หากขาดการฝึกซ้อมร่วมกัน ขาดการทำงานร่วมกัน เพื่อเรียนรู้กันแล้ว ก็จะส่งผลต่อรูปแบบการเล่น และฟอร์มการเล่นอย่างแน่นอน”

ทีมชาติไทย ชุด ยู-19 ก็เช่นกัน ในศึก GSB Bangkok Cup 2018 นับว่าเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ดีมากๆ สำหรับการเตรียมทีม ที่มีทั้ง จีน, จอร์แดน และ ยูเออี เป็นคู่ต่อกร สามารถวัดผลอะไรได้หลายอย่าง

แต่พอเอาเข้าจริง กลับต้องส่งทีมชุดสอง และชุดสองกึ่งสามลงเล่นด้วยซ้ำ แถมฝนยังตกหนักอีกไป 1 เกม ทำให้แทบวัดผลอะไรไม่ได้เลย เพราะเหล่าตัวหลัก ต่างติดภารกิจกับสโมสร และเจ็บกันหมด ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตู, กองหลัง, กองกลาง และกองหน้า เรียกได้ว่า รูปร่างหน้าตาทีมเชฟนั้น “ต่างจากความจริงที่โค้ชต้องการ” อย่างสิ้นเชิง

การมีทีมที่ฟูลก่อนการแข่งขันเพียงไม่กี่วัน และเวลาที่น้อยเกินไปของการเตรียมทีม (แบบฟูลทีมจริงๆ) อาจจะส่งผลให้การกลับมาจากอินโดนีเซียครั้งนี้ มีผลงานที่ไม่ได้เป็นใจต่อแฟนบอลอีกครั้ง…

“จอน”

 

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

 

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID

ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้