รีเซต
TRUE TALK : จาก 50 สู่ 23 คน! มองการตัดตัว ทีมชาติไทย ชุดป้องกันแชมป์ ซูซูกิ คัพ ... by "จอน"

TRUE TALK : จาก 50 สู่ 23 คน! มองการตัดตัว ทีมชาติไทย ชุดป้องกันแชมป์ ซูซูกิ คัพ ... by "จอน"

TRUE TALK : จาก 50 สู่ 23 คน! มองการตัดตัว ทีมชาติไทย ชุดป้องกันแชมป์ ซูซูกิ คัพ ... by "จอน"
kentnitipong
17 ตุลาคม 2561 ( 14:43 )
266

เสร็จสิ้นโปรแกรม 2 เกมในช่วงฟีฟ่าเดย์ เดือนตุลาคม ไปเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชผู้พาทีมชาติไทย ชนะรวด 2 นัดล่าสุดแบบเก็บคลีนชีตได้ทั้งสองนัด ((ชนะ ฮ่องกง 1-0 (เยือน) และ ชนะ ตรินิแดดฯ 1-0 (เหย้า)) ก็จัดการเปิดเผยรายชื่อ 27 นักเตะทีมชาติไทย เบื้องต้น ที่จะได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” ซึ่งทีมชาติไทย เป็นแชมป์เก่า ช่วงระหว่างวันที่ 8 พ.ย. – 15 ธ.ค. ศกนี้

 

 

ทั้ง 27 คน ถูกตัดตัวมาจากรายชื่อ 50 คนที่ลงทะเบียนกับ “เอเอฟเอฟ” ก่อนหน้านี้ โดยยังไม่ใช่รายชื่อที่เป็นทางการ และต้องตัดตัวรอบสุดท้าย เหลือ 23 คน ก่อนทัวร์นาเม้นต์จริง ที่จะระเบิดขึ้นในอีกประมาณ 3 อาทิตย์ข้างหน้า (สำหรับคนที่หลุดออกจากทีมไป แต่อยู่ในลิสต์ลงทะเบียน 50 คน ก็ยังมีโอกาสอยู่ หากมีนักเตะบาดเจ็บ จากการฝึกซ้อม หรือ จากฟุตบอลถ้วยอีกสองเกมที่จะแข่งขันในวันที่ 20 และ 27 ตุลาคมนี้ (โตโยต้า ลีก คัพ 2018 และช้าง เอฟเอ คัพ 2018)

จาก 50 คน สู่ 27 คน และกำลังจะกลายเป็น 23 รายชื่อที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งไม่มีสี่นักเตะที่ค้าแข้งในต่างแดนอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, ธีรศิลป์ แดงดา และกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์

รูปร่างหน้าตา ใน 27 คนสุดท้าย เป็นเช่นไรบ้าง ในสายตาแฟนบอลอย่างผม
ลองไปว่ากันเลย…

 

ผู้รักษาประตู

ติด 27 คนสุดท้าย
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ฉัตรชัย บุตรพรม (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
ขวัญชัย สุขล้อม (พีที ประจวบ เอฟซี : ยืมตัวจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
สรานนท์ อนุอินทร์ (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

หลุดจาก 50 คนสุดท้าย
วรวุฒิ ศรีสุภา (การท่าเรือ เอฟซี)

ตำแหน่งนายด่านทีมชาติไทย ช่วงที่ไม่มี “ตอง” กวินทร์ ก็แน่นอนว่า มือหนึ่งคือการห้ำหั่นกันระหว่าง “แชมป์” ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ “บอย” ฉัตรชัย บุตรพรม จาก “กว่างโซ้งมหาภัย” โดยทั้งคู่มีโปรแกรมลงสนามฟุตบอลถ้วยรอบชิง ดังนั้น มิโลวาน ราเยวัช จึงต้องเรียกมาอีกสองคน เพื่อใช้สำหรับฝึกซ้อมลงทีมในช่วงนี้ และนั่นก็ทำให้ผู้ที่ถูกตัดออก จึงมีแค่รายชื่อเดียว และหวยก็ตกที่ วรวุฒิ ศรีสุภา

มองจากมุมผม ก็ไม่ได้มีคำถามอะไรนัก เพราะสุดท้ายแล้ว เชื่อว่า มือหนึ่งคงเป็นหน้าที่ของ “บอย” หรือ “แชมป์” แน่นอน และมือสาม หากไม่มีอะไรผิดพลาด จากฟอร์มในลีก ก็ต้องยกให้ “เจ้าช็อป” ขวัญชัย สุขล้อม ที่น่าจะได้ติดทีมชุดนี้

 

เซนเตอร์ฮาล์ฟ

ติด 27 คนสุดท้าย
มานูเอล ทอม เบียห์ร (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
มิก้า ชูนวลศรี (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
สุพรรณ ทองสงค์ (สุพรรณบุรี เอฟซี)
เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี)
มาร์โก บัลลินี (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
พรรษา เหมวิบูลย์ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

หลุดจาก 50 คนสุดท้าย
ชิติพัทธ์ แทนกลาง (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ชินภัทร ลีเอาะ (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
นิรันดร์ มีมาก (โปลิศ เทโร เอฟซี)

ตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ ทีมชาติไทยได้ข่าวดี เมื่อ พรรษา เหมวิบูลย์ คัมแบ็คจากอาการบาดเจ็บทันเวลา แม้จะไม่ได้ลงสองเกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมา แต่ด้วยประสบการณ์ และการถูก ราเยวัช ใช้งานมาตลอด เขาคือตัวยืนแน่นอนใน ซูซูกิคัพ ครั้งนี้ ส่วนรายอื่นๆ ที่ติดมา เชื่อว่า เฉลิมพงษ์ ที่ได้ลงทั้งสองเกม และ สุพรรณ กับ มานูเอล ทอม น่าจะได้ลุยต่อแน่นอน ส่วน มิก้า ชูนวลศรี ที่สามารถเล่นแบ็คขวาได้ด้วย และฟอร์มดีใช้ได้ในเกมชนะ ตรินิแดดฯ ก็ไม่น่าพลาดทัวร์นาเม้นต์นี้ …

พูดง่ายๆ คือถ้าจะต้องตัด 1 ราย ออกจากชุด 27 รายชื่อ ก็น่าจะเป็น มาร์โก บัลลินี่ ที่ถูกตัดชื่อออกจากทีมชีตในเกมกับ ตรินิแดดฯ แต่ด้วยอายุ ส่วนสูง และสภาพร่างกายนั้น เขาจะกลายเป็นอนาคตของกองหลัง “ช้างศึก” แน่นอน

สำหรับคนที่ต้องหลุดออกไป ก็คือ ชิติพัทธ์, ชินภัทร และนิรันดร์ ซึ่งมีจุดเด่นแตกต่างกันไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละคนก็มีจุดอ่อนในบางจุดเช่นเดียวกัน ซึ่งแม้จะเสียดายนักเตะอย่าง ชินภัทร กับ ชิติพัทธ์ แต่พอดูจากฟอร์มของบุคคลที่ ราเยวัช เลือกใช้งาน ก็พอจะมีความสมเหตุสมผลอยู่

 

แบ็กขวา

ติด 27 คนสุดท้าย
ฟิลิป โรลเลอร์ (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)
มิก้า ชูนวลศรี (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

หลุดจาก 50 คนสุดท้าย
อดิศร พรหมรักษ์ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
ทริสตอง โด (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
นิติพงษ์ เสลานนท์ (การท่าเรือ เอฟซี)

เป็นตำแหน่งที่น่าเสียดายพอสมควร กับสามนักเตะที่หลุดออกจากรายชื่อไป นั่นคือ อดิศร, ทริสตอง โด และนิติพงษ์ ซึ่งต้องยอมรับว่า เป็นแบ็กขวาที่ดีใช้ได้ โดย ทริสตอง โด ก็มีฟอร์มการเล่นที่ดีกับ “กิเลนผยอง” ในซีซั่นนี้ โดยเฉพาะเกมบุก ส่วน นิติพงษ์ ก็พัฒนาขึ้นเยอะมากกับ “สิงห์เจ้าท่า” ขณะที่ อดิศร กับสไตล์ “กัดไม่ปล่อย” ของเขา ก็น่าจะมีประโยชน์กับทีม แต่สุดท้าย ในเมื่อมีโควตาแค่ 2 ที่นั่งในตำแหน่งนี้ และ ฟิลิป กับ มิก้า สองดาวเตะลูกครึ่ง ที่ได้โอกาสลงสนามคนละเกมในช่วงอุ่นเครื่องที่ผ่านมา ก็ทำผลงานได้ดีมากๆ ทั้งเก็บคลีนชีต และยิงประตูได้ด้วย (ฟิลิป)

แถมในตำแหน่งนี้ ยังมี ศศลักษณ์ ไหประโคน และ มงคล ทศไกร ที่สามารถเล่นได้ด้วย ซึ่งได้แต่เสียดาย (โดยเฉพาะ ทริสตอง โด) แต่ก็เข้าใจว่า มันคือการตัดตัวที่ผ่านการพิสูจน์ด้วยตาแล้วของ ราเยวัช

 

แบ็กซ้าย

ติด 27 คนสุดท้าย
กรกช วิริยอุดมศิริ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ เอฟซี)

หลุดจาก 50 คนสุดท้าย
พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
สุริยา สิงห์มุ้ย (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

พื้นที่ตำแหน่งประจำการของ ธีราทร บุญมาทัน ที่ติดภารกิจกับ วิสเซล โกเบ ในศึกฟุตบอล เจ ลีก 2018 นั่นทำให้ โอกาสจึงตกเป็นของแบ็กซ้ายที่โลดแล่นในศึกไทยลีก และก็ไร้คำครหาสำหรับสองคนที่ติดใน 27 รายชื่อ นั่นคือ กรกช และเควิน ที่แทบจะนอนมาเลย จากโอกาส และแนวโน้มที่ ราเยวัช ใช้งานให้เห็น

“เจ้าบาส” พีระพัฒน์ ต้องยอมรับว่า ซีซั่นนี้ เขายังมีจุดบกพร่องให้เห็น และอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ตามหลัง กรกช กับ เควิน อยู่ชัดเจน ส่วน “เจ้าเธค” เป็นอีกหนึ่งรายที่น่าเสียดายมากๆ เพราะมีการพัฒนาขึ้นเยอะมากในซีซั่นนี้ โดยเฉพาะการเติมเกมรุกขึ้นมาที่มีอาวุธหลากหลายกว่าสมัยก่อนเยอะมาก ทว่าก็ต้องถูกตัดเพราะโควตาตำแหน่งนี้น่าจะมีเพียงสองราย ซึ่งอนาคต ก็ไม่แน่ครับ หากพัฒนามากกว่านี้ “เจ้าเธค” จะกลายเป็นตัวเลือกที่ดีของทีมชาติไทย แน่นอน

 

กองกลาง

ติด 27 คนสุดท้าย
รัตนากร ใหม่คามิ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (บางกอกกล๊าส เอฟซี ยืมตัว บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
สุมัญญา ปุริสาย (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
สรรวัชญ์ เดชมิตร (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
ปกเกล้า อนันต์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (บางกอกกล๊าส เอฟซี)
ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (บางกอกกล๊าส เอฟซี)

หลุดจาก 50 คนสุดท้าย
จักรพันธ์ แก้วพรม (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
สารัช อยู่เย็น (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
ชาริล ชัปปุยส์ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
นพพล พลคำ (โปลิศ เทโร เอฟซี)
พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
วรชิต กนิษศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี)
พิชา อุทรา (พัทยา ยูไนเต็ด)

14 รายชื่อกองกลางจาก 50 รายชื่อของทีมชาติไทย ที่ส่งลงทะเบียนในตอนแรก ก็ถูกตัดเหลือ 7 คนเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง 6 จาก 7 คนนี้ ถูกใช้งานในสองเกมอุ่นเครื่องล่าสุด กับ ฮ่องกง และตรินิแดดฯ ซึ่งมีเพียง รัตนากร ใหม่คามิ คนเดียวเท่านั้น ที่หลุดเข้ามา ทั้งที่ไม่ได้ลงสนามในเกมอุ่นเครื่องเลย

เอาตามความจริง ก็เหมาะสมนะครับ เพราะ 6 คน ที่ได้ลงสนามในเกมอุ่นเครื่องสองนัดที่ผ่านมา ก็ทำผลงานส่วนตัวได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะ สุมัญญา ปุริสาย ที่จัดไป 1 แอสซิสต์สุดสวย ในเกมที่ยืนมิดฟิลด์ตัวกลางคู่กับ ปกเกล้า อนันต์ ส่วน สรรวัชญ์, ฐิติพันธ์, ธนบูรณ์ และอานนท์ ก็เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงอยู่แล้ว

เราไปมองกันที่ ตัวที่ถูกตัดไป (จริงๆ ก็เสียดายนักเตะกองกลางที่ผมชอบมากๆ ในศึกไทยลีกนะ ก็คือ แอนโทนี่ อำไพพิทักษ์วงศ์ และ วันเฉลิม ยิ่งยง) .. สำหรับ 7 รายที่ถูกตัด ขอไม่นับ จักรพันธ์ แก้วพรม ที่มีอาการบาดเจ็บนะครับ

สารัช อยู่เย็น และ ชาริล ชัปปุยส์ สองกองกลางที่มีจุดเด่นเรื่องการโฮลดิ้งบอล และการจ่ายบอลระยะไกล ที่มีประสบการณ์ในทีมชาติชุดใหญ่จาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อันที่จริงในมุมมองของผม ทั้งสองคนนี้ ต่างก็น่าจะใช้ประสบการณ์ที่มี ช่วยทีมได้เยอะพอสมควรนะ แต่ดูจากฟอร์มของ “ตั้ม, แคมป์, นิว” รวมถึง ปกเกล้า และ สุมัญญา ก็ต้องยอมรับว่า เบียดยากจริงๆ โดยเฉพาะ ปกเกล้า, สุมัญญา และ สรรวัชญ์ สามกองกลางจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่เล่นดีทั้งหมดเลยในสองเกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมา

ส่วนที่เหลืออีก 4 รายชื่อ ก็เป็นกองกลางที่มีอายุไม่เกิน 23 ปีทั้งสิ้น ทั้ง พิชา, พิธิวัตต์, วรชิต และ นพพล ซึ่ง ราเยวัช อาจจะมองในมุมของ ประสบการณ์ และความเขี้ยวในเกม ที่ด้อยกว่า รายชื่อที่ติดไป (แต่ก็ยังเสียดายความเขี้ยวลากดินของ แอนโทนี่ อยู่ดีนะ ฮ่าๆ)

 

กองหน้า

ติด 27 คนสุดท้าย
ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
นูรูล ศรียานเก็ม (การท่าเรือ เอฟซี)
ปกรณ์ เปรมภักดิ์ (การท่าเรือ เอฟซี)
อดิศักดิ์ ไกรษร (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ชนานันท์ ป้อมบุบผา (สุพรรณบุรี เอฟซี)
มงคล ทศไกร (โปลิศ เทโร เอฟซี)

หลุดจาก 50 คนสุดท้าย
รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
บดินทร์ ผาลา (การท่าเรือ เอฟซี)
ศิวกรณ์ เตียตระกูล (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
สุรชาติ สารีพิมพ์ (บางกอกกล๊าส เอฟซี)
เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (ชลบุรี เอฟซี)
อภิวัฒน์ เพ็งประโคน (อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด)
สุพจน์ จดจำ (กระบี่ เอฟซี)

จาก 14 คน เลือก 7 คนเช่นเดียวกับ ตำแหน่งกองกลาง สำหรับตำแหน่งกองหน้า ที่ผมขออนุญาตรวบรวมกองหน้าทางกราบทั้งสองข้างเข้าไปด้วย

สำหรับตัวที่ติดทีมชุดนี้มาใน 27 คนสุดท้ายนั้น ส่วนใหญ่ก็คือคนที่ถูกใช้งาน ในสองเกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมาทั้งสิ้น ทั้ง ศศลักษณ์, ปกรณ์, อดิศักดิ์, ศุภชัย, ชนานันท์, นูรูล โดยมี มงคล ทศไกร คนเดียวเท่านั้น ที่เล็ดลอดเข้ามาสอดแทรกได้ในโผ 27 คนสุดท้าย

ศศลักษณ์ ไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย กับเท้าซ้ายสุดตะขอของเขา
ปกรณ์ ก็เป็นทางเลือกทางกราบขวาที่มีทีเด็ดในเรื่องของการเปิดบอลจากด้านข้าง และลูกนิ่ง
ชนานันท์ เล่นได้ทุกตำแหน่งในกองหน้า ทั้งตัวเป้า และด้านข้าง ก็ทำให้เขาถูกคัดสรรเข้ามาแบบไม่มีใครตั้งคำถาม
นูรูล ความเร็วของเขา ยังขายได้แน่นอน
อดิศักดิ์ กับ ศุภชัย สองกองหน้าตัวเป้า ก็ถือว่าทำผลงานได้ใช้ได้เลยกับโอกาสที่เพิ่งผ่านพ้นไป

ส่วนรายชื่อใน 7 คนที่ถูกตัดออกไป ต้องเสียดาย ศิวกรณ์ กับ สุรชาติ เป็นพิเศษ เพราะเป็นสองนักเตะที่ไม่เหมือนใคร ในลิสต์ที่ติดไป โดย “เจ้าเฟย” ที่นอกจากเท้าตะขอแล้ว เขายังมีทีเด็ดในการเปิดลูกนิ่ง และการคิลเลอร์พาสอีกด้วย ส่วน สุรชาติ สารีพิมพ์ เป็นกองหน้าสไตล์ฮาร์ดคอร์ที่ขาดหายไปนานจากสารบบหัวหอกไทย ที่ทั้งโหม่งเองได้ เก็บกินได้ เข้าฮอสก็ได้ และสามารถนวดกองหลังฝั่งตรงข้ามได้ด้วย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้จะเสียดายไปหลายคน แต่ก็เข้าใจในความคิดของ มิโลวาน ราเยวัช ที่มีบทบาทเฮดโค้ชใหญ่ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบต่อการตัดสินใจทั้งหมด ทั้งการเรียกตัว ทั้งการส่งตัวผู้เล่นลงสนาม ทั้งการใส่แทคติกให้กับนักเตะ

สำหรับ 27 รายชื่อที่ได้เห็นนี้ ก็ต้องยอมรับว่า เหมาะสมมากแล้ว ถ้าจะให้เกรดก็คง เกรด B+ แล้วแหละ (ไม่รวมตัวที่อยู่ต่างประเทศ) เพราะคัดสรรจากทุกอย่างทั้งฟอร์มการเล่นในไทยลีก และประสบการณ์ที่ผ่านมา ทั้งในระดับสโมสร และนานาชาติ

และก่อนจะถึงเวลาตัดตัวสู่ 23 คนสุดท้าย ก็ขอให้นักเตะทุกคน พยายามงัดฟอร์มการเล่นออกมาให้ดีที่สุด เพื่อให้ “ชนะใจ” เฮดโค้ชในช่วงโค้งสุดท้าย และรักษาตัวไม่ให้ตัวเองบาดเจ็บ

แล้วเราจะมาลุ้น แชมป์อาเซียนสมัยที่ 6 ไปพร้อมๆ กัน…

“จอน”

ดูบอลสดฟรี ไม่มีสะดุด ลูกค้าทรูมูฟ เอช รับเน็ต 2GB ดูทรูไอดีฟรี เปิดทรูไอดีทุกวันรับฟรีทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ – 30 พ.ย.61  คลิกเลย

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID

ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้