รีเซต
TRUE TALK : ทำไมต้องเธอ! 6 เหตุผล “แข้งเทพ” & โด-บาส เลือกเติมเต็มกันและกัน ... by "จอน"

TRUE TALK : ทำไมต้องเธอ! 6 เหตุผล “แข้งเทพ” & โด-บาส เลือกเติมเต็มกันและกัน ... by "จอน"

TRUE TALK : ทำไมต้องเธอ! 6 เหตุผล “แข้งเทพ” & โด-บาส เลือกเติมเต็มกันและกัน ... by "จอน"
armcasanova
24 ตุลาคม 2561 ( 01:38 )
477
1

เป็นข่าวลือมาสักพักสำหรับบิ๊กดีลนี้ ก่อนข่าวลือดังกล่าวจะถูกเติมเต็มความจริงกันด้วยภาพหลุดจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่มี แอนดี้ ชิลลิงเกอร์ นักกายภาพบำบัดประจำทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นตัวเอกของภาพ ที่ตอบทุกคำถามแคลงใจ เนื่องจากเขาปรากฏตัวอยู่กับ ทริสตอง โด และ พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา

ซึ่งจากภาพดังกล่าว ก็แสดงให้เห็นแน่นอนเกือบ 100% แล้วว่า “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้ทำการคว้าตัวสองแบ็คขวา-ซ้าย ดีกรีทีมชาติไทย จาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาเรียบร้อย รอเพียงแค่การชูเสื้อให้เห็นกับตาเท่านั้น

และก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ผมขอไปเจาะหาเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กับสองสตาร์ชาวไทยจาก “กิเลนผยอง” ต่างเลือกกันและกัน

 

ดีเอ็นเอ บ้าเกมบุก ช่างเข้ากันเหลือเกิน

mooinblack / Shutterstock.com

“เอนเตอร์เทนฟุตบอล” ฟุตบอลประเภทเน้นเกมบุกแบบสุดขีด กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำตัว มาโน่ โพลกิ้ง ไปแล้ว และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ฟุตบอลแบบ “มาโน่สไตล์” นี้ เหล่านักเตะที่บ้าเกมบุก และชอบเล่นเกมรุกนั้น ต่างก็อยากเล่นอยู่บนกระดานหมากของเขาทั้งนั้น

พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา และ ทริสตอง โด เป็นนักเตะในตำแหน่งแบ็คซ้าย-ขวา ก็จริง แต่ทั้งคู่ต่างเคยผ่านการเล่นในตำแหน่งที่สูงกว่าแบ็คมาแล้ว โดย “เจ้าบาส” เคยรับบทบาททั้งปีกซ้าย รวมถึงกองหน้าด้านซ้ายมาแล้ว กับทั้งในนามสโมสร และทีมชาติไทย

ส่วน ทริสตอง โด เขาเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลในตำแหน่งกองหน้า และ ปีกขวาด้วยซ้ำ ในช่วงเด็ก ก่อนที่จะย้ายจากประเทศฝรั่งเศส มาเล่นฟุตบอลในเมืองไทย เมื่อปี 2014 กับบีอีซี เทโรศาสน และถูกร่นลงมาเล่นแบ็คขวาเป็นส่วนใหญ่ทั้งในระดับสโมสร และทีมชาติ

ซึ่งในปีล่าสุด ทริสตอง ก็ทำให้เห็นแล้วว่า ดีเอ็นเอเกมบุกของเขายังอยู่ในสายเลือด หลังกดไปถึง 6 ประตูให้กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในเกมไทยลีก

 

ฟอร์มตกเหรอ? ผมไม่สน และประตูสู่ทีมชาติไทยอีกครั้ง

mooinblack / Shutterstock.com

ซีซั่นที่ผ่านมา นับว่าเป็นปีที่ไม่ดีนักของ พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา โดย “เจ้าบาส” ถูกวิจารณ์อย่างมากว่า ฟอร์มตกลงไปจากจุดที่เคยทำได้ ทำให้หลุดออกจากทีมชาติไทย ในชุดของ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ส่วน ทริสตอง โด แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในช่วงฟอร์มตกไปจากเดิมมากนัก แต่ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ทั้งอาการบาดเจ็บ, ทั้งการถูกดันไปเล่นตำแหน่งปีกขวา (กองหน้าด้านขวา) พร้อมทั้งมีตัวเลือกในตำแหน่งแบ็คขวาในทีมชาติไทยเพิ่มเติมขึ้น ก็ทำให้เขาเป็นอีกหนึ่งคนที่หลุดออกจากทีมชาติไทยไปในรายชื่อถ้วย เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018

แต่ยี่ห้อของ มาโน่ โพลกิ้ง เขาไม่เคยสนใจอยู่แล้วว่า นักเตะที่เขาอยากได้ อยู่ในช่วงฟอร์มตก หรือฟอร์มเดิมหรือไม่ เพราะเมื่อไรที่นักเตะที่เขาต้องการ ได้อยู่บนกระดานหมากของเขาแล้ว เขาจะสามารถงัดฟอร์มการเล่นที่สุดยอดของนักเตะเหล่านั้นออกมาได้เสมอ แม้จะถูกมองว่า ฟอร์มตก หรือ ผ่านช่วงพีคไปนานแล้วก็ตาม

ไม่เชื่อลองดู ผลงานของ ดราแกน บอสโควิช ตอนย้ายจากสุพรรณบุรี มาอยู่ “บียู” หรือไม่ก็ เหล่านักเตะไทยในแดนกลาง ทั้ง แอนโทนี่ อำไพพิทักษ์วงศ์, สรรวัชญ์ เดชมิตร, สุมัญญา ปุริสาย และ ปกเกล้า อนันต์ ที่พีคขึ้นมาเยอะกว่าเดิมเลยทีเดียว โดยเฉพาะสามรายหลังที่ติดทีมชาติไทยอยู่ ณ ขณะนี้ ซึ่งทั้งสี่รายคือกองกลางคนสำคัญทั้งสิ้นที่ทำให้ “บียู” จบด้วยการเป็นรองแชมป์ในปีนี้

 

อารมณ์ลูกหนังแบบนี้สิ ที่ผมต้องการ

daykung / Shutterstock.com

มาโน่ โพลกิ้ง, ทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ช และนักเตะของพวกเขา มีอีกหนึ่งเอกลักษณ์ติดตัวนั่นคือ การแสดงออกถึงอารมณ์ลูกหนังเต็มเปี่ยมจากลักษณะทางภาษาร่างกาย ทั้งเวลายิงเข้า, เวลาได้ฟาวล์, เวลาไม่ได้ฟาวล์ หรือเวลาอะไรก็ตามที่อยู่ในระหว่างแข่งขัน

ซึ่งใครก็รู้ว่า “เจ้าบาส” และ ทริสตอง โด นั้น ก็เป็นสองนักเตะที่มีอารมณ์ลูกหนังเต็มเปี่ยม โดยเฉพาะ ทริสตอง โด ที่มีจุดขายอย่างหนึ่งก็คือ ความมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ และกัดไม่ปล่อย ซึ่งทัศนคติแบบนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า เข้าสเปคของ “มาโน่” แน่นอน

 

เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในรอบ 12 ปี ของ “แข้งเทพ”

mooinblack / Shutterstock.com

12 ปีมาแล้วที่ “แข้งเทพ” ไม่ได้สัมผัสกับการลงเล่นศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นับตั้งแต่สโมสรมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในชื่อเก่าคว้าแชมป์ ไทยลีก ได้เมื่อปี 2006 และได้ลงเล่นเอซีแอล รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อปี 2007

แม้จะเคยได้ลงเล่น เอซีแอล รอบเพลย์ออฟ รอบที่สอง มาแล้ว นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อ แต่ก็ไม่สามารถไปถึงฝั่งฝัน เมื่อสองปีที่แล้ว ที่พ่ายให้กับ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม ในการดวลลูกโทษที่สนาม ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต หลังจากคว้ารองแชมป์ไทยลีก เมื่อปี 2016 มาครองได้ ฉะนั้น การลงเล่น “เอซีแอล” รอบแบ่งกลุ่ม จึงกลายเป็นสิ่งหนึ่งที่สโมสร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ถวิลหามานาน

และการเติมเต็มขุมกำลังของทีมด้วยสองนักเตะที่เคยผ่านการลงเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบแบ่งกลุ่มมาแล้วนั้น จึงเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์อย่างยิ่ง

พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา ผ่านการลงเล่น เอซีแอล มาแล้ว 3 ซีซั่นหลัง ส่วน ทริสตอง โด สัมผัสมาแล้ว 2 ครั้ง โดยทั้งคู่เคยเล่นในรอบแบ่งกลุ่มมาแล้ว 1 ซีซั่น ในปี 2017 หลังพา “กิเลนผยอง” คว้าแชมป์ไทยลีกได้สำเร็จ และที่สุดยอดก็คือ พวกเขาคือหนึ่งในขุมกำลังที่พา เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ 16 ทีมสุดท้ายของ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกของสโมสรอีกด้วย (ปี 2017)

 

ความท้าทายใหม่ และรายได้ที่มากขึ้นของนักเตะวัย 25 ปี

mooinblack / Shutterstock.com

อายุ 25-26 ปี นับเป็นวัยที่กำลังสวยงามเลยทีเดียวสำหรับการก้าวออกไปพบกับความท้าทายใหม่ๆ รวมถึงมีรายได้ที่มากขึ้นของนักเตะอาชีพในปัจจุบัน

ที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด มีความท้าทายหลายอย่างรออยู่ ทั้งในเรื่องของการได้ลงสนามในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก, การช่วยสร้างแชมป์ให้กับ “แข้งเทพ”, การตอบแทนสโมสรใหม่ที่มอบรายได้ก้อนโตให้กับพวกเขา

และเมื่อความท้าทายของนักเตะ สัมพันธ์กับอำนาจการจ่ายค่าเหนื่อยของสโมสรใหม่ ก็ไม่ยากนักที่ทุกอย่างจะคลิ๊กกันอย่างรวดเร็ว

 

ศูนย์รวมรุ่นพี่

True Bangkok United

อีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวส่งเสริมดึงดูดให้ ทริสตอง โด และ พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา ย้ายทีมสู่ถิ่น “แข้งเทพ” ก็คือ ปัจจุบัน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นทีมที่มีนักเตะดีกรีทีมชาติไทย อยู่ค่อนข้างเยอะ และที่สำคัญ เป็นศูนย์รวมของแข้งลูกหนึ่งประจำลีกไทยเลยก็ว่าได้ ซึ่งน่าจะถูกใจสองนักเตะดีกรี “ช้างศึก” อย่าง “บาส กับ โด” โดยเฉพาะรายหลังที่พกความเป็นลูกครึ่งอยู่ในตัวด้วย

ธีรเทพ วิโนทัย, สรรวัชญ์ เดชมิตร, สุมัญญา ปุริสาย, ปกเกล้า อนันต์, เอกชัย สำเร, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, พุทธินันท์ วรรณศรี, รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก, วันชัย จารุนงคราญ รายชื่อเหล่านี้ คือ นักเตะที่มีดีกรีติดทีมชาติไทย และเคยถูกเรียกชื่อสู่ทีมชาติไทย ชุดใหญ่มาแล้วทั้งสิ้น นี่ยังไม่นับรวมลูกครึ่งในทีมอีกเพียบทั้ง มานูเอล ทอม เบียร์ห, มิก้า ชูนวลศรี, แอนโทนี่ อำไพพิทักษ์วงศ์ และ อเล็กซานเดอร์ ซีกฮาร์ท

ไม่เพียงเท่านี้ ในส่วนของทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชก็มีสองรุ่นพี่ทีมชาติไทยรอขัดเกลาพวกเขาอยู่ ทั้ง ภาณุพงษ์ วงศ์ษา อดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมชาติไทย และ ซารีฟ สายนุ้ย อดีตกองกลางจอมขยัน ที่อายุอานามสามารถผันตัวเองมาเป็นสต๊าฟฟ์โค้ชได้แล้ว

 

“จอน”

 

ดูบอลสดฟรี ไม่มีสะดุด ลูกค้าทรูมูฟ เอช รับเน็ต 2GB ดูทรูไอดีฟรี เปิดทรูไอดีทุกวันรับฟรีทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ – 30 พ.ย.61  คลิกเลย

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID

ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ