โป้งเดียวจอด! เชลซี บุกทั้งเกม วาร์ดี้ ซัดชัยพาเลสเตอร์ เฉือนชนะ 1-0
“จิ้งจอกสยาม”เลสเตอร์ ซิตี้ ยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับ เชลซี นัดแรกในบ้านของฤดูกาล และเป็นชัยชนะครั้งแรกในรอบ 18 ปี จากจังหวะสวนกลับ เจมส์ แมดดิสัน แทงทะลุช่องให้กับ เจมี่ วาร์ดี้ ซัดเข้าไปอย่างสุดสวย พาทีมเก็บ 3 คะแนนสำเร็จออกจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้สำเร็จ
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์ที่ 18 “สิงห์บูลส์”เชลซี ทีมอันดับที่ 4 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “จิ้งจอกสยาม”เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 12
ในเกมนี้ทางด้าน เชลซี จับเอา เอแด็น อาซาร์ ยืนเป็นหน้าเป้า โดยมี เปโดร กับ วิลเลี่ยม ช่วยกันทำเกมรุก มาในระบบการเล่น 4-3-3 ส่วนทางด้าน เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ วาร์ดี้ กับ ชิลเวลล์ กลับมาลงสนามในระบบ 4-3-3 เช่นเดียวกัน
เริ่มเกม มาเพียง 2 นาที ดาวิด ลุยซ์ มาพื้นที่และเวลาตัดสินใจเปิดบอลจากแดนหลังไปให้กับทาง วิลเลี่ยม หลุดกับดักล้ำหน้ามีโอกาสได้ยิงแต่บอลโดนไม่เต็มเท้า ทำให้ยิงออกไป จังหวะนี้ทำเอา แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ต้องออกมาโวยเพื่อนเลยทีเดียว
นาทีที่ 12 จากจังหวะเตะมุมของ เลสเตอร์ ซิตี้ แนวรับของ เชลซี โขกทิ้งออกไปเข้าทาง อัลไบร์ทตัน ได้เปิดบอลโค้งเข้าไปในกรอบเขตโทษ เวส มอร์แกน ได้โขกแต่บอลหลุดออกหลังไป
เวลาผ่านไป 15 นาที เชลซี มีเปอร์เซ็นต์การครองบอลอยู่ 71% ส่วน เลสเตอร์ ซิตี้ มีเพียง 29%
นาทีที่ 32 เชลซี เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ จอร์จินโญ่ แทงบอลมาตรงกลางมาให้กับ อาซาร์ ที่มี แม็คไกวร์ ประกบติดแต่พลาด ทำให้ อาซาร์ พลิกบอลไปได้ ยิงเต็มข้อบอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 41 เลสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสขึ้นนำจากลูกยิงไกลสุดสวยของ วินเฟร็ด เอ็นดีดี้ แต่ทางด้าน เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า พุ่งปัดออกไป เลสเตอร์ ได้เพียงลูกเตะมุม
ทั้งสองทีมยังคงทำอะไรไม่ได้หมดครึ่งแรก เชลซี เสมอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่ที่ 0-0
เริ่มเกมในครึ่งหลัง มาได้เพียง 5 นาที เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ เปเรย์ร่า ตัดบอลได้จาก เปรโดร พาบอลสวนกลับขึ้นมาให้ทาง แมดดิสัน จ่ายทะลุช่องไปให้ เจมี่ วาร์ดี้ ยิงด้วยขวาเข้าไปที่เสาแรก พาเลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 และถือเป็นประตูที่ 95 ของเจ้าตัว ตั้งแต่ลงสนามให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้
นาทีที่ 58 เชลซี ได้โอกาสลุ้นประตุจากจังหวะที่ อาซาร์ ได้บอลจาก โควาซิช หลุดกับดักล้ำหน้ามา ยิงยัดเสาแรกแต่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ปัดเอาไว้ได้เพียงมือเดียว
นาทีที่ 60 เชลซี ปรับเปลี่ยนผู้เล่นสองคน ส่งเอา รูเบน ลอฟตัส-ชีค มาเล่นแทน มัตเตโอ โควาซิช และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงมาแทน วิลเลี่ยน
นาทีที่ 65 เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ลูกโต้กลับมาอีกครั้ง คราวนี้เป็น อัลไบร์ทตัน เปิดเข้ามาทางด้าน เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า รับบอลหลุดมือเข้าทาง วาร์ดี้ วิ่งมาตอกส้นโดยมี เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า เข้ามาบล็อก บอลโดนขาแล้วเด้งไปโดนมือ ทำเอา วาร์ดี้ ฟ้องว่าเป็นจังหวะแฮนด์บอล แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร
นาทีที่ 74 เชลซี เปลี่ยนสำรองคนสุดท้ายลง เชส ฟาเบรกาส ลงมาเล่นแทน จอร์จินโญ่
นาทีที่ 80 เลสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่ ดาวิด ลุยซ์ โหม่งสกัดออกมาเข้าทาง มาร์ค อัลไบร์ทตัน จับบอลแล้วซัดด้วยขวา เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ต้องพุ่งปัดออกไป
นาทีที่ 81 เลสเตอร์ ซิตี้ เปลี่ยนตัวเป็นคนแรก ส่ง เดมาราย เกรย์ ลมาแทน เจมส์ แมดดิสัน
นาทีที่ 83 เลสเตอร์ ซิตี้ เปลี่ยนตัวคนที่สอง ส่ง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ลงมาแทน เจมี่ วาร์ดี้
นาทีที่ 90 เชลซี ได้โอกาสทองในการตีเสมอจากจังหวะของ มาร์กอส อลอนโซ่ หลุดเดี่ยวขึ้นไปดวลกับ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ยิงไปผ่านมือแต่บอลพุ่งไปชนเสาเด้งออกไป ทำเอาแฟนบอลจิ้งจอกสยามเป่าปากไปตามๆ กัน
จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมาชนะ เชลซี ได้ถึงถิ่น 1-0 ซึ่งเป็นการบุกมาชนะครั้งแรกในรอบ 18 ปี และเป็นการยิงลูกที่ 95 ของทางด้าน เจมี่ วาร์ดี้ จากการลงสนามให้ทีมอีกด้วย
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
เชลซี : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (GK), เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า (C), อันโตนิโอ รูดิเกอร์, ดาวิด ลุยซ์, มาร์กอส อลอนโซ่, จอร์จินโญ่ (เชส ฟาเบรกาส น.74), เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มัตเตโอ โควาซิช (รูเบน ลอฟตัส-ชีค น.60), เปโดร โรดิเกซ, วิลเลี่ยน (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.60), เอแด็น อาซาร์
เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (GK), ริคาร์โด้ เปเรย์ร่า, เวส มอร์แกน (C), แฮรี่ แม็คไกวร์, เบน ชิลเวลล์, วินเฟร็ด เอ็นดีดี้, น็อมปาลิส เมนดี้, ฮัมซ่า เชาฮ์ดรี้, มาร์ค อัลไบร์ทตัน, เจมส์ แมดดิสัน (เดมาราย เกรย์ น.81), เจมี่ วาร์ดี้ (เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ น.83)
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports