พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "บิ๊กแมตช์ส่งท้ายปีเก่า" ลิเวอร์พูล VS อาร์เซน่อล ... by "บก.เก้น"

พรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2018/19
ลิเวอร์พูล VS อาร์เซน่อล

รายการ : พรีเมียร์ลีก 2018/19
วัน / เวลาทำการแข่งขัน : คืนวันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม 2561 เวลา 00.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
สนาม : แอนฟิลด์
ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 1 & TrueID App

เรียกได้ว่าเป็นลีกฟุตบอลโลกที่เต็มไปด้วยความสนุก สุดมันส์ และเร้าใจแบบสุดๆ สมกับที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอย อย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018/2019 ท่ามกลางการขับเคี่ยวของ 20 ทีมชั้นนำแห่งเกาะอังกฤษ ตลอด 38 แมตช์ที่อัดแน่นจุใจทั้งฤดูกาล มั่นใจได้เลยว่า พรีเมียร์ลีก ยังคงตอบโจทย์คอลูกหนังไม่เปลี่ยน

แน่นอน สำหรับแฟนบอลไทยที่ไม่อยากตกเทรนด์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ TrueID Sports จัดเต็มให้กับการอัพเดตทุกแง่มุมทั้งข่าวสารอัพเดตแบบเรียลไทม์ คลิปไฮไลท์ รวมถึงช่องทางติดตามชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบสดๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยความคมชัดระดับ HD และถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ sport.trueid.net/premierleague

เกมคู่นี้ลงแข่งขันกันใน คืนวันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม 2561 เวลา 00.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทางช่อง beIN SPORTS 1 & TrueID App

สภาพความพร้อม ลิเวอร์พูล

หกคะแนนคือช่องว่างที่ ลิเวอร์พูล ทิ้งห่างอันดับที่สองอย่าง สเปอร์ส บวกกับฟอร์มสะดุดของ แมนฯ ซิตี้ ณ ขณะนี้ ส่งให้ “หงสแดง” ผงาดขึ้นมาผู้ท้าชิงหมายเลขหนึ่งในการลุ้นโทรฟี่แชมป์ลีกซีซั่นนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ใช่ว่าเส้นทางทุกอย่างจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะสวรรค์ได้ลิขิตให้ อาร์เซน่อล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โผล่ขึ้นมาเป็นกระดูกชิ้นโตที่จะคอยขวางทางพลพรรค “เครื่องจักรสีแดง” ในช่วงโปรแกรมชุกเช่นนี้ โดยมีทัพ “ปืนใหญ่” ยืนจังก้าขวางเป็นด่านแรก

อลิสสัน ยังคงได้รับความไว้วางใจลงเฝ้าเสาในฐานะมือหนึ่งต่อไป ส่วนแผงหลัง วิงแบ็กสองข้าง คล็อปป์ ยังมั่นใจ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็กซ้าย ยังคงใช้บริการกัปตันทีมชาติสกอตแลนด์อย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ส่วนคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ การขาดหายไปของ โจ โกเมซ และโจเอล มาติป ที่ต้องพักยาวทั้งคู่ ทำให้ เดยัน ลอฟเรน จะได้รับโอกาสจับคู่กับ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลกเช่นเคย

แผงมิดฟิลด์ แน่นอนชื่อของ ฟาบินโญ่ ถูกวางไว้เป็น 11 คนแรกอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยคลาสการอ่านเกม และคิลเลอร์พาสที่เฉียบขาด โดยมี จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม รับบทลูกหาบคอยไล่กวาดบอลในแดนกลาง ส่วนอีกหนึ่งโควต้า มั่นใจว่า นาบี เกอิต้า จะเรียกความฟิตได้ทัน และลงสนามในแมตช์นี้อย่างแน่นอน

ด้านสามประสานในแนวรุก คล็อปป์ น่าจะจัดหนักจัดเต็มด้วยการใช้ทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – ซาดิโอ มาเน่ และโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่ถูกโฉลกกับการยิง อาร์เซน่อล เหลือเกิน พร้อมวาง เซอร์ดาน ชากิรี่ ที่กำลังฟอร์มฮอตสุดๆ รอล่าตาข่ายไว้เป็นไพ่ใบเด็ดในครึ่งหลัง

สภาพความพร้อม อาร์เซน่อล

ชัยชนะนัดเดียวจาก 5 เกมหลังสุดในฐานะทีมเยือน ถือเป็นสถิติที่ไม่ค่อยน่าอภิรมย์ใจสักเท่าไหร่สำหรับทัพ “ไอ้ปืนใหญ่” ที่ล่าสุด หลุดจากพื้นที่ฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แบรนด์ เลโน่ ยืนเป็นปราการด่านสุดท้ายเช่นเดิม ส่วนแนวรับ คาดว่านัดนี้ อูไน เอเมรี่ น่าจะวางแผงแบ็กโฟร์ ไล่มาตั้งแต่ สเตฟาน ลิตช์ไตน์เนอร์, โซคราติส ปราการหลังดีกรีทีมชาติกรีซ, โลร็องต์ กอสเซียลนี่ และเซอัด โคลาซินัค แม้ว่า ชโครดาน มุสตาฟี่ อาจจะร่วมเดินทางมายังแอนฟิลด์ด้วยก็ตาม

แม้ในแดนกลาง เอเมรี่ จะมีตัวเลือกให้ใช้งานไม่มาก หลัง เฮนริค มคิทาร์ยาน พักอย่างน้อย 6  สัปดาห์ แต่ก็ยังพอมีขุมกำลังตัวหลักลงบู๊กับเจ้าถิ่น ไล่มาตั้งแต่ กรานิต ชาก้า รับบทฮาร์ดแมนตัวตัดเกม และมีสิทธิ์ที่จะได้ดวลกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง เซอร์ดาน ชากิรี่ ขนาบข้างด้วย มัตเตโอ เกนดูซี่ และลูคัส ตอร์เรร่า โดยปล่อยให้ เมซุต โอซิล รับบทบาทเพลย์เมคเกอร์คอยสนับสนุนดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกอย่าง ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง และอเลซ็องดร์ ลากาแซตต์

คลิกอ่าน >>> ถึงเวลา “ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ?

รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล : อลิสสัน, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, เดยัน ลอฟเรน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม, นาบี เกอิต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

อาร์เซน่อล : แบรนด์ เลโน่, สเตฟาน ลิตช์ไตน์เนอร์, โซคราติส ปาปาสธาโธปูลอส, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, เซอัด โคลาซินัค, กรานิต ชาก้า, มัตเตโอ เกนดูซี่, ลูคัส ตอร์เรร่า, เมซุต โอซิล, ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง, อเลซ็องดร์ ลากาแซตต์

บทวิเคราะห์

“งูเหลือมกับเชือกกล้วย” น่าจะเป็นคำนิยามสั้นๆ ที่เหมาะที่สุดสำหรับคู่นี้ เพราะตลอดการพบกันในแอนฟิลด์ 5 เกมหลังสุด ผลปรากฎว่าทัพ “เครื่องจักรสีแดง” ไร้พ่าย แถมยังดาหน้าถล่มประตู อาร์เซน่อล ได้มากถึง 17 ลูก ที่สำคัญ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยังถูกโฉลกกับการถลุงตาข่าย “ไอ้ปืนใหญ่” หลังกดไปถึง 8 เม็ดจาก 6 นัดหลังสุดกับ อาร์เซน่อล เป็นรองแค่ “เดอะ ก็อด” ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ เท่านั้น ด้วยโมเมนตั้ม และความกระหายที่มันเทมาทางฝั่งเจ้าถิ่นทั้งหมด มั่นใจว่า ลิเวอร์พูล จะเปิดบ้านเอาชนะ อาร์เซน่อล ได้ด้วยเกมรับที่เหนียวแน่น และเกมรุกที่จัดจ้านพร้อมกับประตูของ บ็อบบี้ ฟีร์มีโน่ !!!

สกอร์ที่คาด
ลิเวอร์พูล 2-0 อาร์เซน่อล

“บก.เก้น”