รีเซต
รวม 5 เรื่องที่เป็นที่สุด สำหรับไทยลีก 2015 เลกแรก

รวม 5 เรื่องที่เป็นที่สุด สำหรับไทยลีก 2015 เลกแรก

รวม 5 เรื่องที่เป็นที่สุด สำหรับไทยลีก 2015 เลกแรก
30 กรกฎาคม 2558 ( 11:08 )
3.8K

หลังจากที่ศึกยอดนิยมของเมืองไทย การแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2015  จบลงไปในเลกแรกนั้น ก็ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญๆ ที่เป็นที่สุดขึ้นมากมาย ซึ่งทำให้มนต์เสน่ห์ของฟุตบอลไทยเข้มข้นขึ้นไปอีก วันนี้ทางทีมงานเราคัดแบบเน้นๆ มาให้ชมกัน



1. ประธานสโมสรที่สวยที่สุด

เมื่อช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา ทีมผู้บริหารสโมสรการท่าเรือ นำโดย พลเรือโทชัชรินทร์ ชูศรี ผจก.ทีม เตรียมเจรจาทาบทามกับสปอนเซอร์หลักรายใหม่อย่าง บริษัท เมืองไทย ประกันภัย จำกัด ของ”มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงไทย จนเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ได้มีการแถลงข่าวเรื่องเกี่ยวกับการเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรการท่าเรือ และล่าสุดทีมการท่าเรือ ได้ดึงนักเตะชื่อดังมาช่วยทีมในเลกสองหลายคน อาทิเช่น สมปอง สอแหลบ, วุฒิชัย ทาทอง, ปิยะชาติ ถามะพันธ์, ทศพล ลาเทศ เป็นต้น รวมไปถึงล่าสุดดึงตัวโค้ชสมชาย ทรัพย์เพิ่ม มาเป็นผู้จัดการทีมอีกด้วย ทางแฟนบอลท่าเรือต่างก็ให้การสนับสนุนมาดามแป้งเป็นอย่างดี จนได้รับฉายา “นางฟ้าท่าเรือ” เรียกได้ว่าเป็นท่านประธานสโมสรที่สวยที่สุดเลยก็ว่าได้

 


2.คู่หูที่เข้าขากันดีที่สุด

คู่แรกเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คู่หูชาวบราซิลเลียนจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด “ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้” กับ “จิลแบร์โต้ มาเชน่า” ที่โชว์ฟอร์มเข้าขากันเป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้ ดิโอโก้ ได้ครองตำแหน่งดาวซัลโวของไทยพรีเมียร์ลีก 2015 ในช่วงเลกแรก ซึ่งเข้ายิงไปถึง 15 ประตู ส่วน มาเชน่า ไม่แพ้กันกดไป 8 ประตู คู่หูคู่นี้ถือได้ว่าเป็นเครื่องจักรสังหารประตูของไทยลีกเลยทีเดียว

 


3.แมทช์ที่แฟนบอลเยอะที่สุด

แมทช์นี้เกิดขึ้นที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวา 2550 อีสานดาร์บี้แมทช์ระหว่าง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เปิดบ้าน พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งทั้ง 2 ทีมเป็นทีมที่มีฐานแฟนบอลเยอะที่สุดในไทยลีก วันนั้นเป็นวันที่มีแฟนบอลเข้าชมเกมเยอะที่สุดในไทยลีก 2015 ยอดสูงถึง 34,659 คน จนกลายเป็นสถิติ (แต่ยังไม่ทำลาย คู่ระหว่าง สงขลา เอฟซี – บุรีรัมย์ เอฟซี (ดิวิชั่น 1 – 7 ส.ค.2011) 36,715 คน) แต่ทางสวาทแคทได้แจ้งความจุของสนามให้กับทางทีพีแอล แค่  22,500 ที่นั่ง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงทำให้ สวาทแคทโดนทาง ทีพีแอล สั่งปรับ 30,000 บาท เหตุเพราะเกินความจุของเก้าอี้ที่นั่งในสนาม

 


4.เดือดที่สุด

แมทช์นี้ยกให้กับเหตุการณ์ที่สนามไอโมบาย สเตเดี้ยม คู่ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดรับรับการมาเยือนของ บางกอกกล๊าส เอฟซี  ก่อนที่นาทีสุดท้ายเกมจะมาเดือดขึ้นเมื่อ ลาซาลัส คาอิมบี คุมอารมณ์ไม่อยู่จากจังหวะที่สุเชาว์เข้ามาต่อว่าเหตุเข้าปะทะแรง ใช้หมัดขวาต่อยใส่ สุเชาว์ จนปากแตกเลือดอาบ และการกระทบกระทั่งของทั้งคู่เล็กน้อย ก่อนที่ผู้ตัดสินจะชูใบแดงไล่ หอกทีมชาตินามิเบีย ออกจากสนาม ส่วน สุเชาว์ ที่ตอบโต้คืนด้วยการผลักกลับเข้าที่ใบหน้า โดนเพียงใบเหลือง สุดท้ายทางทีพีแอล ได้ลงโทษแบน คาอิมบี 3 นัด และ แบน สุเชาว์ 1 นัด ล่าสุดทางสโมสร บีจี ได้ยกเลิกสัญญากับ คาอิมบี ไปเรียบร้อยแล้ว

 

5.ฟอร์มโดดเด่นที่สุด (ติดทีมชาติไทย)


– สรรวัชญ์ เดชมิตร

เนื่องจากทีมชาติไทยมีปัญหากับกองกลาง เพราะมีอาการบาดเจ็บรบกวน ในการเตรียมทีมสู้ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบสอง ทางด้านโค้ชซิโก้ จึงมองหากองกลางที่จะเข้ามาทดแทนผู้เล่นที่บาดเจ็บ อย่าง ประกิต ดีพร้อม และ ชาริล ชัปปุยส์ อย่างไรก็ตาม โค้ชซิโก้ ตัดสินใจใส่ชื่อ สรรวัชญ์ เดชมิตร มิดฟิลด์ซ้ายธรรมชาติของ แบงค็อก ยูไนเต็ดเข้ามารับใช้ทีมชาติ ในเกมอุ่นเครื่องที่ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ พลิกชนะ ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ 4-3 สรรวัชญ์ ลงมาเป็นตัวสำรองช่วยให้เกมรุกให้มีมิติมากขึ้นพร้อมยิง 1 ลูก และเกมที่ ทีมชาติไทย ชนะ ทีมชาติเวียดนาม 1-0 เขาได้เป็น 11 ตัวจริงก่อนมีส่วนสำคัญช่วยให้ทัพ “ช้างศึก” ประเดิมคว้า 3 คะแนนศึกคัดบอลโลก ซึ่งถือว่าสองเกมที่ผ่านมา สรรวัชญ์ เดชมิตร ตอบโจทย์ต่อคำถามที่เข้ามาได้ดีพอควร

 


-รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก

ปีกจอมลากเลื้อย นักเตะวัย 22 ปีจากนครราชสีมา เป็นเด็กปั้นของ ชัยยง ขำเปี่ยม สมัยอยู่เพื่อนตำรวจ ก่อนจะถูกปล่อยไปอยู่กับลำพูน วอริเออร์ และเชียงใหม่ เอฟซี จนกระทั่งฝีเท้าไปเข้าตา “โค้ชโจ” ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น แห่งเชียงราย ยูไนเต็ด คว้าตัวมาร่วมทีมในที่สุด จากผลงานอันยอดเยี่ยมในสโมสร จนกลายเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามอง ทำให้ โค้ชซิโก้ ตัดสินใจเรียกตัวมาติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเกมอุ่นเครื่องกับสิงคโปร์ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนต้องเรียกติดชุดซีเกมส์ ในที่สุด จากนั้น รุ่งรัฐก็กลายเป็น 11 ตัวแรกของ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนชุดซีเกมส์มาโดยตลอด ก่อนจะตอบแทนความไว้วางใจ ด้วยการซัด 2 ประตูในรอบรองชนะเลิศ กับอินโดนีเซีย

 


-ทริสตอง โด

ดาวเตะลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส วัย 22 ปี จากสโมสรบีอีซี เทโรศาสน ผลงานสุดประทับใจในการเล่นแบ็กขวา ของพ่อหนุ่มหน้ามนคนนี้จนทำให้มีโอกาสติดทีมชาติไทย ในการแข่งขันซีเกมส์ 2015 ทริสตอง โด โชว์ฟอร์มได้โดดเด่น และยังสามารถทำประตูได้ 1 ลูก ในนัดที่เจอกับบรูไน ซึ่งนัดนั้นทีมชาติไทยเอาชนะไป 5-0 ก่อนจะยิงประตูสุดสวยให้ทีมชาติไทยอัดเวียดนามไป 3-1 ในเกมนัดสุดท้ายของรอบแรก ส่งให้ทีมชาติไทยทะลุเข้าสู่รอบรองฯ ขย้ำอินโดนีเซีย 5-0 และถล่มเมียนมา 3-0 ในรอบชิง กระทั่งคว้าแชมป์ซีเกมส์สมัยที่ 15 กลับบ้านได้สำเร็จ และด้วยหน้าตาอันหล่อเหลา ทำให้ ทริสตอง มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

      

วันที่ 30 ก.ค.58  เวลา  12.00 น.

ยอดนิยมในตอนนี้