รีเซต
TRUE TALK : "The Championship Futsal 2018" เวทีของโค้ชหน้าใหม่ ... by "ตรู่ เชียร์ไทย"

TRUE TALK : "The Championship Futsal 2018" เวทีของโค้ชหน้าใหม่ ... by "ตรู่ เชียร์ไทย"

TRUE TALK : "The Championship Futsal 2018" เวทีของโค้ชหน้าใหม่ ... by "ตรู่ เชียร์ไทย"
kentnitipong
15 มกราคม 2562 ( 16:01 )
320

พูดได้เต็มปากว่าฟุตซอลดิวิชั่น 1 “The Championship Futsal 2018” ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นเวทีของหน้าใหม่ ไม่ใช่แค่นักเตะ แต่รวมไปถึงโค้ชที่กำลังร้อนวิชาได้โชว์ของที่ได้ร่ำเรียนมาใช้ในการแข่งขันแบบจริงจัง

 

 

สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้จัดอบรมโค้ชฟุตซอลอย่างต่อเนื่องในระยะ 2 ปีหลัง ทั้งหลักสูตรเลเวล 1 และเลเวล 2 เพื่อให้เป็นไปตามโร้ดแมปการพัฒนาฟุตซอลของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ซึ่งมีถึง 6 ทีมที่ให้โอกาสโค้ชหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยคุมทีมในลีกของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นเวทีได้พัฒนาการเป็นผู้ฝึกสอนของตัวเอง

อ.นคร ชูสอนสาย (ธรรมศาสตร์ ยังบลัด)
เป็นที่ยอมรับในวงการฟุตซอลนักเรียนกับการทำหน้าที่เป็นโค้ชโรงเรียนราชวินิตบางเขน ปั้นนักเตะสู่ลีกอาชีพและทีมชาติไทยมานักต่อนัก แล้วก็เคยเป็นผู้ช่วยโค้ชบางกอก ซิตี้ ช่วงสั้นๆในการแข่งขันไทยลีก 2017 กระนั้นก็ตามเพิ่งจะเคยเป็นเฮดโค้ชครั้งแรกในการแข่งขันของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

“The Championship Futsal 2018” เป็นก้าวสำคัญกับการนำทีม “ธรรมศาสตร์ ยังบลัด” คว้าแชมป์ พร้อมทั้งความภาคภูมิใจชนะ 6 นัดรวด เป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลของดิวิชั่น 1 ในระบบลีก

“การเป็นโค้ชราชวินิตบางเขนได้เห็นลูกศิษย์ประสบความสำเร็จทั้งได้ขึ้นไปเล่นไทยลีก หรือติดทีมชาติไทย ก็ภูมิใจกับพวกเขาครับ แต่ตอนที่เข้ามาทำหน้ากับ ธรรมศาสตร์ ยังบลัด เป้าหมายมันต่างกันออกไป”

“กว่าจะได้แชมป์มันไม่ง่ายเลยครับ จบเลกแรกเราอยู่ที่ 4 ตอนนั้นยอมรับว่าเครียดมาก แต่ผมมีผู้บริหารที่คอยสนับสนุนเป็นอย่างดี ต้องขอบคุณ “บอสเอ็ม” อักษกร กุลกัลยาอรกช ประธานสโมสรธรรมศาสตร์ ยังบลัด ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ครับ รวมทั้งมีทีมงานที่ดี นักเตะที่รวมใจกันเล่น จนเราสามารถทำตามเป้าหมายได้”

ระดับอุดมศึกษา อ.นคร คุมทีม ม.ธรรมศาสตร์ เป็นทีมแชมป์ ไทยแลนด์ ฟุตซอล ยู-ลีก 2018 แบบไร้พ่าย อย่างไรก็ตามกับการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 46 “มรภ.อุบลราชธานี เกมส์” ที่จังหวัดอุบลราชธานี ขอลุ้นเหรียญทองให้ได้เป็นสมัยแรกกับ “แม่โดม”

ส่วนการทำหน้าที่กับ “ยังบลัด” ทำตามเป้าหมายได้ในปีที่ผ่านมา แต่ปีหน้าขึ้นสู่ไทยลีก 2019 ยังมีการบ้านอีกเยอะในการต่อกรกับเสือ สิงห์ กระทิง แรด ในลีกสูงสุด

ศิวณัฐ เรืองศิลป์ประเสริฐ (นนทบุรี ฟุตซอล คลับ)
คนในวงการฟุตซอลคุ้นเคยดีกับการเห็น “โค้ชณัฐ” อาจารย์จากโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน อยู่ในบทบาทผู้ช่วยของ “โค้ชแอน” ปฐวีกรณ์ รื่นเสือ ในทีมนนทบุรี ฟุตซอล คลับ แต่มาปีนี้ “The Championship Futsal 2018” คือโค้ชใหญ่ที่แบกความหวังของแฟนคลับเมืองนนท์ในการพาทีมกลับขึ้นชั้นให้ได้ในปีเดียว

“โค้ชณัฐ” เกิดที่จังหวัดนนทบุรี เคยเล่นไทยลีก 2006 กับ นนทบุรี ฟุตซอล คลับ ตั้งแต่ยังเรียนที่โรงเรียนพรตพิทยพยัต แต่โชคร้ายต้องผ่าเข่าทำให้ต้องเลิกเล่นตอนปี 2007 จึงไม่แปลกใจที่จะผูกพันกับทีมนี้เป็นอย่างมาก

“เข้ามาเป็นเฮดโค้ชเพราะได้รับการสนันสนุนจากพี่แอน (ปฐวีกรณ์ รื่นเสือ) และผู้บริหารมีนโยบายให้ทำทีมขึ้นไทยลีกภายในปีเดียว เลยคิดว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถ จึงตัดสินใจทำหน้าที่นี้ครับ”

“ให้สัญญาใจกับทีมไว้ว่าถ้าทำไม่สำเร็จจะลาออกทันที สุดท้ายพอทำได้ก็ต้องขอบคุณผู้บริหารทีม พี่แอน ทีมงานสต๊าฟทุกคน รวมถึงน้องๆ นักกีฬา และกองเชียร์ที่คอยสนับสนุนมาตลอดครับ”

ดิวิชั่น 1 ปีนี้มีการแข่งขันสูงกว่าที่ผ่านมา หลายทีมมีลุ้นขึ้นชั้นมาจนถึงท้ายฤดูกาล กว่าจะทำตามเป้าหมายได้ก็เล่นเอาลุ้นตัวโก่ง ตำแหน่งรองแชมป์ปีนี้ก็ส่งให้ นนทบุรี ฟุตซอล คลับ คืนสู่ไทยลีก และคิดว่า “โค้ชณัฐ” จะยังได้รับโอกาสจากผู้บริหารทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนต่อไป

เจนณรงค์ มากกำเนิด (วิคตอรี่ คริสเตียน)
จะมีใครจำได้บ้างว่าเคยเป็นสต๊าฟทีมชาติไทยช่วงสั้นๆ ในยุคที่ “เกลาซิโอ” เป็นเฮดโค้ช ซึ่งในช่วงเวลานั้น “โค้ชโย่ง” ได้ศึกษาสิ่งต่างๆ จากโค้ชชาวบราซิลเพื่อมาพัฒนาเยาวชนในเวลาต่อมา พูดถึงประสบการณ์ฟุตซอลระดับอุดมศึกษาแล้ว “โค้ชโย่ง” ไม่เป็นรองใครเพราะเป็นโค้ชให้ ม.ธนบุรี มายาวนานตั้งแต่ปี 2007 ปั้นผู้เล่นจากสถาบันให้ก้าวขึ้นไปติดทีมชาติไทยมากมาย ทุกวันนี้ไม่ว่าจะมองไปดูทีมไหนในไทยลีก ก็เจอผู้เล่นจาก ม.ธนบุรี เต็มไปหมด ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่เคยคุมทีมระดับไทยลีก เต็มที่ก็แค่ผู้ช่วยโค้ชเมื่อปี 2016 กับ บางกอก ซิตี้

ส่วนการเข้ามาอยู่กับ วิคตอรี่ คริสเตียน ปี 2018 จริงๆ แล้วบทบาทเป็นประธานพัฒนาเทคนิค คอยให้คำปรึกษาโค้ช และทีมงาน ทว่าผู้เป็นเฮดโค้ชอย่าง ขจร อำไพถาวรกุล ต้องเป็นโค้ชแอนด์เพลเยอร์ ไม่สามารถสั่งการที่ม้านั่งสำรองเพราะต้องลงเล่นด้วย นั่นเลยทำให้ “โค้ชโย่ง” ก็ไม่ต่างกับเฮดโค้ชมากนัก

“ที่ตอบตกลงเข้ามาช่วยสโมสรวิคตอรี่ คริสเตียน เพื่อต้องการสร้างความเป็นมืออาชีพให้นักกีฬาสามารถก้าวสู่เวทีไทยลีก และทีมชาติไทยครับ”

“อีกสาเหตุคือ และต้องการสร้างเอกลักษณ์ของทีมที่มีผู้บริหารเป็นคริสเตียน” จากที่โค้ชชาวจังหวัดสงขลาได้กล่าวข้างต้น ก็มีหนึ่งคนจาก วิคตอรี่ คริสเตียน กำลังจะได้เล่นไทยลีก 2019 ในไม่ช้า นั่นก็คือ “ก๊อด” รังสิมันต์ จั่นนพคุณ นักศึกษาจาก ม.ธนบุรี ที่ได้รับโอกาสลงเล่นดิวิชั่น 1 เป็นปีแรก ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ ธรรมศาสตร์ ยังบลัด เพียงได้เห็นลูกทีมก้าวไปอยู่ในจุดที่ดีกว่า ก็เป็นความภาคภูมิใจของ “โค้ชโย่ง” ที่มีเจตนารมณ์พัฒนานักฟุตซอลระดับอุดมศึกษามาตลอดระยะเวลา 11 ปี ยังมีอีกบทบาทในฐานะนักพัฒนา นั่นก็คือการเป็นวิทยากรอบรมโค้ชฟุตซอลให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ สร้างแนวทางให้กับโค้ชรุ่นใหม่ๆเข้ามาสู่วงการฟุตซอลของไทย

ขจร อำไพถาวรกุล (วิคตอรี่ คริสเตียน)
นักฟุตซอลในจังหวัดเชียงใหม่ส่วนมากก็ได้เพียงแค่สัมผัสกับการแข่งขันกีฬาแห่งชาติเท่านั้น จนกระทั่งไทยลีก 2014 เชียงใหม่ ฟุตซอล คลับ ได้เข้าร่วมลีกสูงสุดเป็นหนแรก ก็เป็นจุดที่ทำให้นักเตะเชียงใหม่หลายคนได้เล่นไทยลีก รวมทั้ง “สัน” ที่ตอนนั้นอายุ 31 ปี ก็อยู่ในชุดนั้น
มาถึงซีซั่น 2018

แม้ในวัยเกือบ 36 ปี “สัน” เป็นตัวหลักให้กับ วิคตอรี่ คริสเตียน พิสูจน์ให้เห็นว่าเล่นในระดับดิวิชั่น 1 ได้อย่างไม่มีปัญหา พร้อมทั้งบทบาทการเป็นเฮดโค้ชครั้งแรก แต่ก็ยังทำหน้าที่ไม่เต็มตัวนัก เพราะยังต้องรับภาระเป็นผู้เล่นในสนามด้วย

“ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะมากกับการเป็นโค้ช ทั้งเรื่องรูปแบบในการซ้อม และแข่งขัน
การมองเกมทั้งของทีมตัวเอง และคู่แข่งครับ”

การที่เป็นโค้ชแอนด์เพลเยอร์ก็มีทั้งข้อดี และข้อเสีย แน่นอนว่าบทบาทในการเป็นผู้เล่นสามารถช่วยทีมได้ เป็นที่ยอมรับของรุ่นน้อง แต่ในขณะเดียวกันก็จะทำให้ไม่สามารถวางแผนแก้เกมได้แบบเต็มที่

“เวลาที่ลงไปอยู่ในสนามไม่ว่าตอนซ้อมหรือแข่งขันเราจะเห็นภาพรวมของเกมได้จำกัดครับ ไม่เหมือนกับการที่เราอยู่ดูเกมข้างสนาม ก็พยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะทำให้ทุกๆ คน เล่นตามแผนที่วางเอาไว้ให้ดีที่สุดครับ”

แม้ว่าจะไม่สามารถพาทีมขึ้นชั้นได้ แต่ก็ทำให้นักเตะโนเนมหลายคนได้มีประสบการณ์ และต่อกรกับทีมอื่นๆที่มีผู้เล่นที่เหนือกว่าได้ดีก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ซีซั่น 2019 ก็ยังไม่ชัดเจนว่า “สัน” จะย้ายไปอยู่กับทีมไหน หลังจากที่ วิคตอรี่ คริสเตียน มีปัญหาด้านการเงิน คงต้องโบกมือลาเพื่อหาโอกาสพิสูจน์ตัวเองในเส้นทางโค้ชต่อไป

พิเชฐ เพ็ชรประแดง (ราชบุรี ดีดีเยร์)
“โค้ชเบิร์ด” เป็นผู้เล่นยุคแรกของ “โค้ชโย่ง” เจนณรงค์ มากกำเนิด ในการเข้ามาทำทีมฟุตซอลให้ ม.ธนบุรี จากนั้นได้มาเล่นไทยลีกช่วงสั้นๆกับ กรมทางหลวง และ สุพรรณบุรี ฟุตซอล คลับ การเข้ามาอยู่กับ ราชบุรี ดีดีเยร์ ในบทบาทเฮดโค้ชเมื่อซีซั่น 2018 ได้รับการทาบทามจาก ทัศนัย หวาดเชาวดี (เจมส์ ดีดีเยร์), ภาศิต บำรุงราชภักดี (โค้ชภา) ,เอกพล ว่องวิชญกร (โค้ชเอก โทรุ) ให้เข้ามาร่วมงาน

“การได้ร่วมงานกับโค้ชหลายคน เป็นโอกาสดีที่ได้เรียนรู้ระบบของโค้ชแต่ละคน แนวทางการคุมทีม วิสัยทัศน์ แนวคิดที่แตกต่างกันออกไป”

จากอันดับที่ออกมา ราชบุรี ดีดีเยร์ จบอันดับที่ 7 ด้วยปัจจัยต่างๆที่ทำให้ทีมยังไม่พร้อมต้องตกชั้นไปเพลย์ออฟเพื่อมาเล่นในระดับดิวิชั่น 1 ใหม่ “โค้ชเบิร์ด” วัย 36 ปี ได้เรียนรู้อะไรมากมายกับการผันตัวเองมาเป็นโค้ช

“ด้วยนักเตะที่มีอยู่ ต้องหาทางที่จะดึงศักยภาพของนักเตะมาใช้ให้ได้ครับ การวางแผนระยะยาวในช่วงการแข่งขัน เรียนรู้เพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา เพื่อการพัฒนาสู่โค้ชอาชีพที่ดี โดยมี โค้ชเอ๋ พัทยา เปี่ยมคุ้ม คือต้นแบบครับ”

การเข้ามาอยู่กับ ราชบุรี ดีดีเยร์ อาจจะไม่มีเวลาเตรียมทีมมากนัก ทว่าตอนนี้ “โค้ชเบิร์ด” ได้เข้ามาร่วมบุกเบิกทีมสปิริต ออฟ ฟุตซอล คลับ โดยได้คัดนักเตะไปเรียบร้อย รอเข้าร่วมแข่งเพลย์ออฟ ดิวิชั่น 1 ซึ่งก็ถือว่าเตรียมความพร้อมล่วงหน้าหลายเดือนทีเดียว

ศักดิ์สิทธิ์ ศิวะสกุล (พัทยา อารีน่า)
ฟุตบอล 7 คน “กบ หนาวจัง” ชื่อเสียงเลื่องลือกับทีม “หนาวจัง” เมื่อปี 2556 กับการแข่งขัน “ยามาฮ่า เรียล เกมส์ เรียล เอ็กซ์พีเรียนซ์” ฝ่าฟันจนเป็น 2 ทีมสุดท้ายได้สิทธิ์บินไปสเปน เยี่ยมชม และเตะฟุตบอลในสนามที่มีมนต์ขลังที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่าง ซานติอาโก้ เบร์นาเบว สนามเหย้าของ “เรอัล มาดริด” และอีกรายการใหญ่ “สิงห์ ฟุตบอลลีก 2015-16” คัดเอา 2 ทีมไปเล่นรอบชิงชนะเลิศที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ที่มี “เชลซี” เป็นเจ้าของสนาม ซึ่งทีม “หนาวจัง” ได้รองแชมป์ แต่นั่นก็สุดยอดแล้วกับการได้ไปหวดบนพื้นหญ้าของทีมดังแห่งอังกฤษ
กับการเข้ามาสู่ พัทยา อารีน่า ได้รับการเชิญชวนจาก เชิดศักดิ์ สุนทรศิริ หนึ่งในนักเตะพี่ใหญ่ในทีม และเป็นสต๊าฟโค้ชด้วย “กบ หนาวจัง” ไม่รอช้า เพราะว่าถึงจะเป็นยอดโค้ชของฟุตบอล 7 คน แต่กับฟุตซอลคือความท้าทายใหม่ จากโค้ชทีมเดินสาย ได้เข้ามาคุมทีมในลีกของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

“สิ่งที่ผมไม่เคยรู้ผมได้รู้ สิ่งที่ไม่เคยทำผมก็ได้ทำ มันทำให้เราได้เพิ่มความเป็นมืออาชีพ เราต้องสร้างทีมงานให้รักและสามัคคีกัน รวมถึงนักกีฬา ให้รวมใจให้เป็นหนึ่งให้ได้”

ข้อแตกต่างของการทำฟุตบอล 7 คน กับฟุตซอล “กบ หนาวจัง” ได้พูดสิ่งที่ตัวเองได้ทำมานาน กับของใหม่ที่ได้รับโอกาส

“ฟุตบอล 7 คนผมทำมานานมาก ผมมีทรัพยากรที่มีคุณภาพ และมีความเข้าใจเกม พูดง่ายๆ มองตาก็รู้ใจกัน มีประสบการณ์ในเวทีเดินสายรายการใหญ่ๆ มาแบบนับไม่ถ้วน”

“ที่ผมเข้ามาทำทีมฟุตซอล ต้องเริ่มจากการเรียกศรัทธาจากพวกน้องให้เชื่อในความสามารถที่ผมมี เชื่อว่าผมนั้นมีดีจริงไหม ค่อนข้างต้องใช้เวลาพอสมควรเลยครับ ผมพยายามอย่างเต็มที่ซ้อมอย่างหนักเพื่อที่จะให้น้องมีความเข้าใจเกม และก็เล่นในรูปแบบที่เราต้องการ ต้องขอบคุณทีมงาน และนักเตะทุกคนที่สู้ด้วยกันมาครับ”

พัทยา อารีน่า จบอันดับที่ 6 อาจจะไม่ใช่ผลงานที่ดีนัก แต่ก็เป็นการต่อยอดให้ “กบ หนาวจัง” กับเวทีของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

เสริมพันธ์ คุ้มถิ่นแก้ว (เวียงพิงค์ – ราชภัฎเชียงใหม่)
สมัยเป็นนักเตะผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน รับใช้ทีมชาติไทยในเวิลด์คัพ 2 สมัย ได้ดาวซัลโวไทยลีก 2009 รวมทั้งเคยไปเซ็นสัญญาระยะสั้นกับ อัคโตเบ ทีมจากประเทศคาซัคสถาน เป็นเวลา 3 เดือน การงานโค้ชเริ่มต้นจาก กรมทางหลวง ในการแข่งขันไทยลีก 2016 “โค้ชโจ้” ก็ได้รับบทบาทใหม่ในฐานะผู้ช่วยโค้ชช่วงสั้นๆ

การเข้ามารับหน้าที่โค้ชให้ เวียงพิงค์ – ราชภัฎเชียงใหม่ เป็นการมาช่วยแบบชั่วคราว แต่นั่นก็เป็นบทบาทหัวหน้าผู้ฝึกสอนครั้งแรกในลีกของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เดิมทีแล้ว “โค้ชฤทธิ์” ฤทธี รักธรรม คือเฮดโค้ช แต่ว่าติดธุรกิจส่วนตัวทำให้ไม่สามารถเดินทางไปกลับเชียงใหม่พร้อมกับทีมได้บ่อยนัก จึงเป็นโอกาสดีของ “โค้ชโจ้” ที่ได้เริ่มต้นงานกับทีมจากแดนล้านนา

ผลงานของ เวียงพิงค์ – ราชภัฎเชียงใหม่ จบด้วยอันดับสุดท้ายโดยมีเพียง 1 คะแนน ช่วงที่ “โค้ชโจ้” เข้ามาคุมทีมก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทีมได้มากนัก ต้องใช้นักเตะเท่าที่มีอยู่ ประกอบกับปัจจัยด้านการเดินทาง นักเตะหลายคนมีงานประจำที่เชียงใหม่ ทำให้ไม่สามารถมาช่วยทีมเวลามาแข่งไกลๆ ได้ นั่นก็คือปัญหาในการใช้สอยนักเตะได้แบบจำกัด

“นักเตะทีมจำกัด ต้องเรียนรู้วิธีการจัดการเพราะผู้เล่นเหลือน้อย รวมทั้งเรื่องของสภาพจิตใจนักเตะครับ ต้องใช้จิตวิทยาให้เป็น”

ปัจจุบัน “โค้ชโจ้” รับราชการอยู่ที่ กรมการสรรพกำลังกลาโหม อยู่ไม่ไกลจาก ม.ศรีปทุม หลังจากจบดิวิชั่น 1 จึงตัดสินใจเข้ามาช่วย ม.ศรีปทุม ในช่วงสั้นๆท้ายเลกที่ 2 ในตำแหน่งผู้ช่วยโค้ช ก่อนจะได้คุมแบบเต็มตัวในการแข่งขัน “เอไอเอส ฟุตซอล เอฟเอ คัพ 2018” แต่ก็เชื่อว่าประสบการณ์จากการเป็นนักเตะ ผ่านการเรียนรู้จากโค้ชระดับโลกมาหลายคน เป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการทำหน้าที่ของตัวเองในทีมต่อๆ ไป

“อยากหาประสบการณ์เพิ่มไปเรื่อยๆในการเป็นโค้ชครับ ก็คิดว่าอยากจะทำงานกับทีมในไทยลีก ที่ผ่านมากับ เวียงพิงค์ – ราชภัฎเชียงใหม่ ในดิวิชั่น 1 แล้วก็ ม.ศรีปทุม ในไทยลีก ถึงจะได้ทำงานกับทีมเล็กๆ แต่เป็นการเรียนรู้ที่ดีสำหรับการทำอาชีพโค้ชครับ”

โค้ชที่ผ่านมาอบรมและมีไลเซนส์แล้วต่างก็พยายามทำหน้าที่แบบสุดความสามารถ หลังจากนี้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังมีการอบรมคอร์สต่างๆแบบต่อเนื่อง เชื่อว่าจะมีโค้ชหน้าใหม่ได้รับโอกาสอีกในปีนี้

“ตรู่ เชียร์ไทย”

 

อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะไทยลีก 2019

 

อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะพรีเมียร์ลีก 2018/19

 

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

ดูบอลสด – ไฮไลท์บอล แบบจัดเต็มได้ ที่นี่

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ดูไฮไลท์บอล พรีเมียร์ลีก ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้