รีเซต
ยิงเป็นเข้า! อเกวโร่ แฮตทริกพาเรือ ถล่มเชลซี 6-0 ทวงบัลลังก์จ่าฝูงคืนสำเร็จ

ยิงเป็นเข้า! อเกวโร่ แฮตทริกพาเรือ ถล่มเชลซี 6-0 ทวงบัลลังก์จ่าฝูงคืนสำเร็จ

ยิงเป็นเข้า! อเกวโร่ แฮตทริกพาเรือ ถล่มเชลซี 6-0 ทวงบัลลังก์จ่าฝูงคืนสำเร็จ
armcasanova
11 กุมภาพันธ์ 2562 ( 00:51 )
716
5

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิง 4 ประตูรวดตั้งแต่ยังไม่ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกของเกม จากความผิดพลาดของผู้เล่น เชลซี และมาได้จุดโทษในช่งครึ่งหลัง เป็นแฮตทริกของ เซร์คิโอ อเกวโร่ ทำให้ทีมเจ้าบ้านเอาชนะไป 6-0 เก็บ 3 คะแนนเต็ม แซงหน้า ลิเวอร์พูล ขึ้นจ่าฝูงเรียบร้อย

AP Photo/Jon Super

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2018/19 สัปดาห์ที่ 26 คู่ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ เชลซี ณ สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม โดนทางเจ้าบ้าน แมนฯ ซิตี้ มาในระบบ 4-3-3 ยังคงมีปัญหาที่แบ็คซ้ายวันนี้ใช้ อเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ วัย 22 ปี ลงสนามเป็นตัวจริง ส่วนทีมเยือน เชลซี มาในระบบ 4-3-3 เช่นกัน ผู้เล่นในแนวรุกวันนี้ เปโดร ได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงก่อน วิลเลี่ยม

 Goal!!!!! เริ่มเกมมาเพียงแค่ 4 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้บุกขึ้นมาครั้งแรกจากลูกฟรีคิก เควิน เดอ บรอยน์ แทงทะลุช่องมาให้กับ แบร์นาโด้ ซิลวา หลุดขึ้นมาทางริมเส้นเปิดหักเข้ามาบอลไหลมาถึงเสาสอง ราฮีม สเตอลิ่ง วิ่งเข้ามายิงเต็มข้อบอลเสยตาข่ายเข้าไปพาทีมขึ้นนำไปก่อน 1-0

AP Photo/Rui Vieira

นาทีที่ 8 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดโอกาสทองในการขึ้นนำ เมื่อ แบร์นาโด้ ซิลวา พาบอลรับบอลและเลี้ยงออกมาริมเส้นฝั่งซ้ายเปิดผ่านหน้าประตู เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้ยิงจ่อๆ แต่บอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

 Goal!!!!! นาทีที่ 13 อเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ รับบอลมาจาก ราฮีม สเตอลิ่ง เลี้ยงหักเข้ามาบอลมาเข้าทาง เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้บอลโยกหาช่องยิงปั่นไซด์บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างงดงาม พาทีมขึ้นนำ 2-0

AP Photo/Jon Super

 Goal!!!!! นาทีที่ 19 อเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ งัดบอลมาในกรอบเขตโทษ ดาวิด ลุยซ์ โขกทิ้งออกไป แต่ทางด้าน รอส บาร์คลี่ย์ โขกย้อนกลับไปหน้าประตูตัวเองบอลไปเข้าทาง เซร์คิโอ อเกวโร่ ขโมยบอลไปยิงเป็นประตู 3-0 พาทีมนำห่างออกไป

 Goal!!!!! นาทีที่ 24 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นเกมมาทางฝั่งซ้ายอีกครั้ง ราฮีม สเตอลิ่ง เปิดบอลเข้าไปให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ และโดน อันโตนิโอ รูดิเกอร์ สกัดออกไปบอลเข้าทาง อิคาย กุนโดกัน วิ่งมาซัดด้วยขวาบอลพุ่งตุงตาข่ายพาทีมนำห่างออกไปอีก 4-0

นาทีที่ 36 เชลซี มีโอกาสลุ้นประตูตีไข่แตก จากลูกฮาฟวอลเลย์ของ กอนซาโล่ อิกวาอิน แต่ทางด้าน เอแดร์สัน พุ่งปัดเอาไว้ได้ เชลซี ได้เพียงลูกเตะมุมเท่านั้น

จบเกมในครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ เชลซี ไปก่อน 4-0

AP Photo/Jon Super

เริ่มเกมในครึ่งหลังมาได้เพียง 5 นาที เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายไปให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ โขกไปชนเสาเต็มๆ 

🔼🔽 นาทีที่ 52 เชลซี เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกถอด รอส บาร์คลี่ย์ ออกส่ง มัตเตโอ โควาซิช ลงเล่นแทน 

 Goal!!!!! นาทีที่ 56 เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ทำฟาวล์ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ในกรอบเขตโทษ และเป็น เซร์คิโอ อเกวโร่ รับหน้าที่สังหารยิงเข้าไปให้ทีมขึ้นนำ 5-0 และถือเป็น แฮตทริกที่ 15 ของเจ้าตัวนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

AP Photo/Rui Vieira

🔼🔽 นาทีที่ 65 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกถอด เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ทำแฮตทริกได้ และส่ง กาเบรียล เฆซุส ลงมาเล่นแทน

🔼🔽 นาทีที่ 66 เชลซี เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่สองถอด เปโดร ออกส่ง รูเบ็น ลอฟตัส-ชีค ลงเล่นแทน 

🔼🔽 นาทีที่ 67 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่สองถอด เควิน เดอ บรอยน์ ออกส่ง ริยาด มาห์เรซ ลงมาเล่นแทน

AP Photo/Rui Vieira

🔼🔽 นาทีที่ 72 เชลซี เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้ายถอด มาร์กอส อลอนโซ่ ออกส่ง เอเมอร์สัน ลงมาเล่นแทน

🔼🔽 นาทีที่ 75 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้ายถอด แฟร์นานดินโญ่ ออกส่ง ดาบิด ซิลบา ลงมาเล่นแทน

นาทีที่ 77 เชลซี มาได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ เอเมอร์สัน รับหน้าที่ยิงบอลทะลุกำแพงแต่ไปเข้าซอง เอแดร์สัน รับเอาไว้ได้

 Goal!!!!! นาทีที่ 80 อเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ รับบอลมาจาก ดาบิด ซิลบา และเปิดบอลเข้ากลางไปถึง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ตวัดยิงเข้าไปบอลเสยผ่านหน้า เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า เข้าไปเป็นลูกที่ 6 ให้กับทีม

จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่ม เชลซี ไป 6-0 เก็บ 3 คะแนนขึ้นบัลลังก์จ่าฝูงได้สำเร็จ ส่วนเชลซีร่วงไปอยู่อันดับ 6 ของตาราง

AP Photo/Rui Vieira

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์สัน, ไคล์ วอล์คเกอร์, อายเมริค ลาปอร์ต, จอห์น สโตนส์, อเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, แฟร์นานดินโญ่ (ดาบิด ซิลบา น.75), เควิน เดอ บรอยน์ (ริยาด มาห์เรซ น.67), แบร์นาโด้ ซิลบา, อิคาย กุนโดกัน, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เซร์คิโอ อเกวโร่ (กาเบรียล เฆซุส น.65)

เชลซี : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, ดาวิด ลุยซ์, มาร์กอส อลอนโซ่ (เอเมอร์สัน น.72), เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, รอส บาร์คลี่ย์ (มัตเตโอ โควาซิช น.52), เปโดร (รูเบ็น ลอฟตัส-ชีค น.66), เอเด็น อาซาร์, กอนซาโล่ อิกวาอิน

 

อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะไทยลีก 2019


อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะพรีเมียร์ลีก 2018/19

 

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

ดูบอลสด – ไฮไลท์บอล แบบจัดเต็มได้ ที่นี่

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ดูไฮไลท์บอล พรีเมียร์ลีก ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้