ไทยลีก 2019 : บุกมาถึงรังพลาดพลั้งถึงตาย เพราะเราคือ “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี ... by "Jinius"
วันนี้ เรามาทำความรู้จักกับอีกหนึ่งสโมสรที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวได้เพียงหนึ่งทศวรรษ เริ่มจากการไต่เต้าขึ้นมาจากลีกภูมิภาคจนก้าวขึ้นสู่ไทยลีกได้อย่างยิ่งใหญ่ และถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจสำหรับชาวประจวบคีรีขันธ์ ผืนฟลอร์หญ้าบน สาวอ่าว สเตเดี้ยม จะเปรียบดั่งฝันร้ายทุกครั้งของผู้มาเยือน พวกเขาคือ ทีมที่ไม่ต้องการให้ใครเข้ามานำแต้มออกไปจากรังเหย้าของพวกเขาได้แม้แต่แต้มเดียว และพร้อมยืนหยัดสู้ยิบตากับทุกสโมสรที่พบเจอ “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ
พีที ประจวบ เอฟซี
ฉายา : ต่อพิฆาต
ตัวย่อ : PTPRCHFC
ก่อตั้ง : 2011
สนาม : สามอ่าว สเตเดี้ยม
ความจุ : 5,000 ที่นั่ง
เจ้าของทีม : บริษัท สโมสรฟุตบอล พีที ประจวบ เอฟซี จำกัด
ประธานสโมสร : ทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์
หัวหน้าผู้ฝึกสอน : ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล
ผลงานในฤดูกาลที่ผ่านมา : โตโยต้า ไทยลีก อันดับที่ 6
แฟนเพจอย่างเป็นทางการ : www.facebook.com/PrachuapFc2011
รายชื่อนักเตะ พีที ประจวบ เอฟซี ฤดูกาล 2019
ผู้รักษาประตู : หัสชัย แสนกล้า, ขวัญชัย สุขล้อม, สิวะพงษ์ พานแก้ว, ณัฐพงษ์ ขจรมาลี
กองหลัง : สมภพ นิลวงศ์, อนุรักษ์ กมลจิตร, ซีเกต หมาดปูเต๊ะ, อัดนาน โอราโฮวัช, อดุลย์ หมื่นสมาน, พีฬาวัช อรรคธรรม, ปิยะชาติ ถามะพันธ์, อาร์ทยอม ฟิลิปโปสยาน, กฤษณ์พรหม บุญสาร, ณัฐพล มาลาพันธ์, ศรัญยู อินต๊ะราช
กองกลาง : รัชพล นาวันโน, จิตปัญญา ทิสุด, อภิชัย หมั่นอุตส่าห์, อภิชาติ เด็นหมาน, สุธี จันทร, ภานุวัฒน์ จินตะ, สหรัฐ ปั๋นมัชยา, วันเฉลิม ยิ่งยง, อดิศักดิ์ กานู, อันโตนิโอ แวร์ซูรา, อิทธิพล แก้วเขียว, อลงกรณ์ จรนาทอง
กองหน้า : นลธวัช รักอก, อมร ธรรมนาม, สิโรจน์ ฉัตรทอง, ศิริพงษ์ หวังกุหลำ, สุพจน์ จดจำ, มัทเธอุส อัลเวส, แฮริสัน ไคออน
สถิติสโมสร (นักเตะ)
ลงเล่นมากที่สุด (ทุกรายการ) : อัดนาน โอราโฮวัช – อมร ธรรมนาม (34 นัด)
ยิงประตูมากที่สุด (ทุกรายการ) : โจนาธาน เฮส (26 ประตู)
ทำประตูรวมสูงสุดในหนึ่งฤดูกาล (ทุกรายการ) : โจนาธาน เฮส (26 ประตู)
ทำเนียบแชมป์
ไทยลีก 2 : จบอันดับที่ 3 ได้รับการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีก (2017)
ไทยลีก 4 : 1 สมัย (2014)
ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนภาคใต้ : 1 สมัย (2014)
ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนภาคกลาง และภาคตะวันออก : รองแชมป์ 1 สมัย (2013)
รู้จักเฮดโค้ช : ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล
เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้ยินชื่อ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล หลายๆ คนคงจะนึกถึงภาพแข้งวีรบุรุษผู้ซัดฟรีคิกสุดสวยพา ทีมชาติไทย ปราบทัพ “โสมขาว” ในศึกเอเชี่ยนเกมส์ ปี 1998 เป็นแน่ แต่หารู้ไม่ว่าปัจจุบันเขาคือ “โค้งวัง” หัวเรือใหญ่ผู้พา “ต่อพิฆาต” ขึ้นมาโลดแล่นบนไทยลีกได้สำเร็จ
ที่สำคัญ พีที ประจวบ ยังเป็นทีมน้องใหม่มาแรงที่มีผลงานในการทำศึกไทยลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์อย่างเหนือความคาดหมายด้วยการจบอันดับด้วยตัวเลขเพียงหลักเดียว (อันดับที่ 6) นับเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังชาติไทยที่เฮดโค้ชวัย 44 ปี ได้สร้างไว้
แต่จุดที่ โค้ชวัง ต้องนำกลับไปทำการบ้านจากซีซั่นที่ผ่านมาเห็นจะเป็นเกมเยือนที่บุกไปต่อยใครแทบไม่เข้า หลังบุกไปเก็บแต้มจากนอกถิ่นได้เพียง 14 แต้ม จาก 17 เกม ถือเป็นสัญญาณเตือนก่อนทำศึกไทยลีก 2019 ว่าเกมเยือนของ พีที ประจวบ กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก และต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน จึงเป็นจุดที่น่าจับตาว่ากุนซือสัญชาติไทยรายนี้จะมีการปรับเปลี่ยนแทคติก และระบบของทีมไปในทิศทางเช่นไร
สตาร์เด่น : สิโรจน์ ฉัตรทอง
ศูนย์หน้าร่างยักษ์ของ พีที ประจวบ เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางครั้งแรกสมัยเมื่อยังเป็นดาวรุ่งอยู่กับ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ในไทยลีก 2 ด้วยร่างกายอันกำยำที่พร้อมดับเครื่องชนคู่ต่อสู้เสมอ ความเร็วที่ขัดกับขนาดของร่างกาย การกระชากบอลหลบคู่แข่งไปแบบดื้อๆ ทำให้ “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ตำนานดาวยิงทีมชาติไทยไม่รอช้า ตัดสินใจเรียก “ปีโป้” ติดธงช้างศึกครั้งแรกในอาชีพการค้าแข้งเพื่อลุยทัวนาเมนต์ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชียรอบ 12 ทันที
และในศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ รอบชิงชนะเลิศที่ต้องพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ปีเดียวกันนั้น สิโรจน์ ยังเป็นผู้เหมา 2 ประตู ส่งทีมชาติไทยเป็นแชมป์สมัยที่ 5 พร้อมได้รับเลือกให้เป็นดาวดวงใหม่ที่น่าจับตามองในศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 จากสื่อชื่อดังอย่าง ฟ็อกซ์ สปอร์ต เอเชีย อีกด้วย
เล่ามาจนถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าเส้นทางลูกหนังของ “ปีโป้” เปิดกว้างให้แข้งลูกอีสานรายนี้ขึ้นเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยในไม่ช้า ทว่าความฝันที่ สิโรจน์ ฉัตรทอง จะก้าวขึ้นมาเป็นยอดแข้งไทยลีก และอนาคตของทัพช้างศึกกลับอยู่ไกลเกินเอื้อม เมื่อสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อดใจไม่ไหวเปลี่ยนร่างปีกขวาฟอร์มฮอตให้กลายเป็นกิเลนตัวใหม่ และดูเหมือนว่า “ปีโป้” จะไม่ได้พกฟอร์มการเล่นครั้งที่ยังเล่นให้กับทีมชาติไทย กับ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด มาเลย ด้วยโอกาสลงสนามอันน้อยนิดประกอบกับการจบสกอร์ที่ไม่คมพอ “กิเลนผยอง” จึงตัดสินใจปล่อยให้เจ้าตัวไปค้นหาการผจญภัยครั้งใหม่กับ พีที ประจวบ
เป็นอีกครั้งที่การย้ายเข้ามาสู่รัง “ต่อพิฆาต” ไม่อาจรีดฟอร์มเก่งให้ “ปีโป้” ได้ หลังได้รับโอกาสลงสนามในศึกไทยลีก ฤดูกาล 2017/18 เพียง 10 นัดเท่านั้น และทำประตูไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว อีกทั้งยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอย่างต่อเนื่องจนจบฤดูกาล
การเรียกตัวหัวหอกวัย 26 ปี กลับมาสวมเสื้อทีมชาติอีกครั้งในยุคของ มิโลวาน ราเยวัช เพื่อทำศึกเอเชียน คัพ 2019 อีกครั้ง ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับ “ปีโป้” เพราะถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะได้ลงสนามในฐานะตัวสำรองเพียงนัดเดียว แต่นับว่าเป็นจุดสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าอดีตเฮดโค้ชทัพช้างศึกยังเล็งเห็นว่า สิโรจน์ ฉัตรทอง ยังเป็นผู้เล่นที่มีของ แม้จะโดนก่นด่าในตำแหน่งใหม่ที่ได้รับก็ตาม ซึ่งในศึกไทยลีกฤดูกาล 2019 ที่กำลังจะอุบัติขึ้นถือเป็นโอกาสที่แข้งร่างยักษ์ต้องรีบคว้าพร้อมแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ตัวของเขามีไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่ง ความเร็ว และทักษะการกระชากบอล ที่อาจเป็นทีเด็ดช่วยพลิกสถานการณ์ยามทีมคับขันได้เป็นอย่างดี
บทวิเคราะห์
“ต่อพิฆาต” เป็นสโมสรน้องใหม่แกะกล่อง แต่กลับสร้างสถิติอันสวยหรูนับตั้งแต่พวกเขาตบเท้าเข้ามาสู่ไทยลีกฤดูกาลแรกด้วยการลงเล่นในบ้านทั้งหมด 17 นัด ถูกยัดเยียดความปราชัยเพียง 2 นัดเท่านั้น(แพ้ให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-2 และ สุพรรณบุรี เอฟซี 0-1) และเก็บชัยไปถึง 12 นัด เสมอ 3 นัด รวมเป็น 39 แต้ม ถือเป็นอีกหนึ่งโปรไฟล์ชิ้นโบว์แดงสำหรับ พีที ประจวบ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
ทว่าความอยู่รอดของ “ต่อพิฆาต” ในซีซั่นที่จวนจะเปิดฉากขึ้นนี้ แน่นอนว่าเป็นงานที่ท้าทายทั้งตัวเฮดโค้ชธวัชชัย และลูกทีมเป็นอย่างมาก เนื่องจากการสูญเสียสุดยอดหัวหอกผู้ครองตำแหน่งดาวซัลโวอันดับ 3 ของไทยลีกอย่าง โจนาธาน เฮส และกองหน้าจอมโขกอย่าง ลอสซาน่า ดุมบูย่า ไป ส่งผลให้เกมรุกของ พีที ประจวบ เสียศูนย์อย่างหนัก เนื่องจาก 56 ประตูที่พวกเขาทำได้ในศึกไทยลีก เพชฌฆาตสังหารประตูทั้ง 2 รายนี้ช่วยกันถล่มตาข่ายคู่แข่งรวมกันถึง 39 ประตู ตัวเลขนี้เป็นเครื่องยืนยันความชี้ชัดว่าหากไม่มีหัวหอกทั้ง 2 รายนี้ ทีมจากแดนตะวันตกอาจต้องตกไปเล่นอยู่ในไทยลีก 2 อย่างแน่นอน
ดูเหมือนการเสีย 2 สุดยอดศูนย์หน้าอย่าง เฮส และ ดุมบูย่า ทำให้พวกเขาต้องแบกรับความเสี่ยงด้วยการควานหาเพชรเม็ดงามอีกครั้ง จนกระทั่งไปสะดุดตาเข้ากับ แฮริสัน ไคออน หัวหอกสัญชาติบราซิลจาก ราชนาวี เอฟซี ที่เพิ่งร่วงชั้นไปเมื่อซีซั่นก่อน ทว่าหากมองเพียงสถิติตัวเลข ไคออน ยังถือว่ามีดีกรีที่ไม่น่าดูชมเท่าไรนัก หลังช่วย “ตะหานน้ำ” ทำศึกไทยลีก 16 นัด ทำได้เพียง 4 ประตูเท่านั้น และไม่สามารถช่วยให้ ราชนาวีฯ รอดจากการตกชั้นได้ นอกจากนี้ ถึงแม้ทีมจะคว้า มัทเธอุส อัลเวส อีกหนึ่งหัวหอกชาวบราซิลดีกรี เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก และเคยค้าแข้งให้กับ ชลบุรี เอฟซี เป็นช่วงเวลาสั้นๆ มาแล้ว แต่ก็ไม่อาจการันตีได้ว่า อัลเวส จะสามารถทำประตูเป็นกอบเป็นกำให้กับ พีที ประจวบ ได้ดังที่อดีตดาวซัลโวของทีมอย่าง โจนาธาน เฮส และศูนย์หน้าตัวแย่งจุดโทษ ลอสซาน่า ดุมยูย่า เคยสร้างไว้
เหนือสิ่งอื่นใดการกลับมาของ สิโรจน์ ฉัตรทอง ในปีนี้อาจทำให้ริมเส้นทางกราบขวาดูมีมิติมากขึ้น เนื่องจากในซีซั่นก่อน “ปีโป้” ได้รับอาการบาดเจ็บจนต้องชวดลงสนามเกือบทั้งซีซั่นจึงไม่ค่อยได้เห็นเจ้าตัววาดลวดลายบนผืนฟลอร์หญ้าสักเท่าไหร่นัก มองว่าจุดๆ นี้เป็นอีก 1 จุดที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากว่า สิโรจน์ ที่ได้รับโอกาสติดธงทัพช้างศึกอีกครั้งมาพร้อมกับความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมจะสามารถช่วยยกระดับให้กับเจ้าต่อพูดน้อยต่อยหนักตัวนี้ได้อย่างไร
“Jinius”
อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะไทยลีก 2019
อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะพรีเมียร์ลีก 2018/19
ดูบอลสด – ไฮไลท์บอล แบบจัดเต็มได้ ที่นี่
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ดูไฮไลท์บอล พรีเมียร์ลีก ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports