OFFICIAL : เลสเตอร์ ตั้ง ร็อดเจอร์ส คุมทัพเซ็นสัญญา 3 ปี
เลสเตอร์ ซิตี้ ประกาศการแต่งตั้ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เป็นผู้จัดการทีมชุดใหญ่ เซ็นสัญญา 3 ปี
เบรนแดนวัย 46 ปี เซ็นสัญญากับ เลสเตอร์ จนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2022 และจะเดินทางมาชมเกมพรีเมียร์ลีก ที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ในเกมที่จะพบกับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน คืนวันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ และจะเริ่มทำงานทันที เพื่อเตรียมทีมก่อนเกมพบ วัตฟอร์ด ในวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม นี้
ร็อดเจอร์ส จะมาพร้อมกับทีมงานอย่าง คริส เดวิส ผู้ช่วยผู้จัดการทีม , เกล็น ดริสโคลล์ โค้ชฟิตเนสทีมชุดใหญ่ และ โคโล ตูเร่ โค้ชทีมชุดใหญ่
ร็อดเจอร์ส ย้ายมาร่วมทีม เลสเตอร์ หลังจากคุมทีม เซลติกมา 2 ฤดูกาลครึ่ง และช่วงเวลานั้น เขาพาทีมคว้าแชมป์ถึง 7 รายการ รวมถึงแชมป์สก็อตติช พรีเมียร์ลีก 2 สมัย
ผู้จัดการทีมชาวไอร์แลนด์เหนือ มีชื่อเสียงในอังกฤษอยู่แล้วก่อนมารับงานที่คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม หลังจากก่อนหน้านี้ทำทีม ลิเวอร์พูล , สวอนซี ซิตี้ , เร้ดดิ้ง และ วัตฟอร์ด มาแล้ว
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมเลสเตอร์ ซิตี้คนใหม่ เปิดใจว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานกับ เลสเตอร์ ซิตี้ และผมจะอุทิศตนเพื่อทำให้แฟนบอลภาคภูมิใจในสโมสรของพวกเขา เราจะแข็งแกร่งกว่าเดิม และผมมองไปถึงการร่วมงานกับนักเตะ , ทีมงานโค้ช และเหล่าแฟนบอล เพื่อพาสโมสรมุ่งไปข้างหน้า”
ด้าน คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมงานกับผู้จัดการทีมระดับชั้นนำอย่าง ร็อดเจอร์ส และได้เขามาทำทีมที่เลสเตอร์ ซิตี้ ผมหวังว่า ร็อดเจอร์ส และทีมนักเตะพรสวรรค์สูง และดาวรุ่งของเรา รวมถึงทีมงานโค้ชที่อุทิศตนให้สโมสรอย่างเต็มที่ จะประสบความสำเร็จร่วมกันในอนาคต”
“สำหรับโครงการต่างๆ รวมถึง การพัฒนาสนามซ้อม และต่อเติมสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ทุกอย่างยังคงเดินหน้าต่อไป และเมื่อในเวลานี้ นักเตะดาวรุ่งของเราเริ่มจะเติบโตจนขึ้นมาเป็นตัวหลักได้แล้ว เบรนแดน และทีมงานของเขา มาได้ถูกจังหวะและเวลา พวกเราจะก้าวไปพร้อมกันทั้งสโมสร และผมคาดหวังว่า ทักษะการเป็นโค้ชของ เบรนแดน , ความรู้ และประสบการณ์ จะทำให้การเดินทางของเราจากนี้ สดใสและราบรื่น”
ร็อดเจอร์ส มาที่ เลสเตอร์ ซิตี้ พร้อมกับประสบการณ์ระดับสูง กับการคุมทีมในพรีเมียร์ลีกมากว่า 150 นัด กับทั้งสวอนซี ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล เช่นเดียวกับการคุมทีมในฟุตบอลสโมสรยุโรปมาแล้วกับหลายทีม
เขาเริ่มต้นอาชีพการคุมทีมกับ วัตฟอร์ด ในปี 2008 หลังจากฝึกนักเตะเยาวชนให้กับ เร้ดดิ้ง และ เชลซี ก่อนหน้านั้น ก่อนพา วัตฟอร์ด รอดพ้นการตกชั้นได้ในฤดูกาลแรก และย้ายมาทำทีม เร้ดดิ้ง ในฤดูกาลต่อมา
เบรนแดน ย้ายมาประสบความสำเร็จกับ สวอนซี ซิตี้ ที่ขณะนั้นเล่นอยู่ในแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ โดยรับงานต่อจากเปาโล ซูซ่า ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส ก่อนสร้างทีมที่เล่นเกมรุกได้อย่างน่าจับตามอง เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2011 ด้วยการเอาชนะ เร้ดดิ้ง ทีมเก่าของเขาเอง 4-2 ในเกมเพลย์ออฟ รอบชิงชนะเลิศ
“หงส์ขาว” ทำผลงานได้อย่างสง่างามในฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีกภายใต้การนำของ ร็อดเจอร์ส ด้วยการจบในอันดับที่ 11 โดยเฉพาะฟอร์มการเล่นกับทีมใหญ่ นั่นทำให้ ร็อดเจอร์ส ได้ย้ายมาทำทีม ลิเวอร์พูล ในปี 2012
และเป็นอีกครั้งที่ ร็อดเจอร์ส สร้างทีมที่เล่นฟุตบอลได้อย่างตื่นเต้นที่แอนฟิลด์ แม้จะจบด้วยอันดับที่ 7 ในฤดูกาลแรกที่เมอร์ซี่ย์ไซด์ แต่ฤดูกาลถัดมา (2013/2014) เขาพาทีมคว้ารองแชมป์ โดยตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์ในฤดูกาลนั้นเพียง 2 คะแนน
หลังจากช่วงเวลา 18 เดือนที่แอนฟิลด์ ร็อดเจอร์ส ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมของกลาสโกว์ เซลติก เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2016 และพาทีมคว้าสามแชมป์ในฤดูกาลแรกที่เขาคุมทีม โดยที่ไม่แพ้ใครกับการแข่งขันในประเทศทุกรายการ และเป็นทีมจากสก็อตแลนด์เพียงทีมเดียวที่ทำได้ในศตวรรษนี้
ฤดูกาลต่อมา ร็อดเจอร์ส ยังพา เซลติก ทำสถิติไม่แพ้ใครกับเกมในประเทศติดต่อกันถึง 69 นัด และพาทีมคว้าสามแชมป์เป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน ทั้ง สก็อตติช พรีเมียร์ลีก , สก็อตติช คัพ และ สก็อตติช ลีก คัพ
ในฤดูกาลนี้ เซลติก ยังคงเป็นจ่าฝูงของศึกสก็อตติช พรีเมียร์ลีก และเพิ่งจะคว้าแชมป์ สก็อตติช ลีก คัพ ด้วยชัยชนะเหนือ อเบอร์ดีน 1-0 เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นแชมป์ที่ 7 ในรอบ 2 ฤดูกาลครึ่ง กับการทำทีมในสก็อตแลนด์
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports